Nike และ Jacquemus จับมือกันกำหนดนิยามใหม่เพื่อคนรุ่นใหม่ให้กับ Moon Shoe ที่โด่งดังระดับไอคอน

Moon Shoe ผลงานที่ Bill Bowerman ผู้ร่วมก่อตั้ง Nike สร้างมากับมือ วันนี้ได้รับการตีความใหม่เป็นครั้งแรกเพื่อฟื้นคืนชีวิตให้รองเท้ารุ่นนี้ โดยผ่านความร่วมมือระหว่าง Nike และดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส Simon Porte Jacquemus ผู้เข้ามาออกแบบซิลลูเอทระดับไอคอนนี้ใหม่เพื่อตอบรับคนรุ่นใหม่ๆ

สนีกเกอร์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยวนำแฟชั่นคู่นี้ผสานรวมตำนานแห่งประสิทธิภาพและสไตล์เข้ากับความเร็วและความประณีต เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อแบบเดียวกับที่แฝงอยู่ในรองเท้าวิ่งแข่งรุ่นแรกสุดที่ได้รับการตั้งชื่อตามรอยพื้นรองเท้าที่ดูคล้ายหลุมเว้า ซึ่งประทับอยู่บนพื้นสนามในทุกก้าวระหว่างการทดสอบสำหรับการคัดเลือกตัวนักกีฬาสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมโอลิมปิกในปี 1972

Moon Shoe ที่ดีไซน์ใหม่นี้ถ่ายทอดรูปลักษณ์และความรู้สึกแบบรองเท้าคู่ดั้งเดิมที่เป็นไอคอน ทั้งยังเป็นรองเท้ารุ่นแรกที่ Nike นำเอานวัตกรรมพื้นรองเท้าแบบวาฟเฟิลมาใช้ บวกกับการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อรังสรรค์ซิลลูเอทที่สวยงามยิ่งกว่าโดยยังรักษาดีเอ็นเอของรองเท้าวิ่ง Nike เอาไว้

Moon Shoe เวอร์ชันปัจจุบันนี้มาพร้อมส่วนบนที่ทำจากไนลอนแบบจับจีบและพื้นรองเท้าชั้นนอก Nike Regrind ที่ผสมผสานระหว่างต้นแบบรองเท้าวิ่งของโมเดลเดิมเข้ากับรูปทรงรองเท้าบัลเลต์ที่ทันสมัย สรรรค์สร้างเป็นรองเท้าส้นเตี้ยรูปทรงเพรียวยาวโฉบเฉี่ยวร่วมสมัยที่ทั้งสะท้อนถึงความเรียบง่ายในสไตล์ชาวปารีสของ Jacquemus และความปราดเปรียวคล่องแคล่วของรองเท้ากีฬาคู่ประวัติศาสตร์ของ Nike

"สามปีที่แล้วผมได้ไปที่ Nike Archives และได้เห็น Moon Shoe คู่ประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรก" Simon Porte Jacquemus กล่าว "มันคือรองเท้าวิ่งสไตล์มินิมอลที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ในความเรียบง่ายและรูปลักษณ์ของมันแฝงไว้ด้วยความคลาสสิกและทันสมัย ผมรู้เลยว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้สร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ๆ และสร้างรูปลักษณ์ใหม่ให้กับรองเท้าคู่นี้ในแบบของ Jacquemus"

ซิลลูเอทนี้มาพร้อมกับเครื่องหมาย Swoosh และส่วนหุ้มส้นเท้าทำจากวัสดุหนัง ส่วนลิ้นรองเท้า ส้นเท้า และแผ่นรองเท้าแต่งด้วยโลโก้ Jacquemus แล้วเพื่อเป็นการยกย่องรองเท้ารุ่นในตำนาน บรรจุภัณฑ์ของรองเท้ารุ่นนี้จึงเป็นการร่วมมือระหว่างแบรนด์สุดพิเศษที่ย้อนรำลึกถึงประวัติศาสตร์ยุคบุกเบิกของ Nike สมัยที่ยังอยู่ในชื่อ Blue Ribbon Sports

Moon Shoe รุ่นแรกถือกำเนิดขึ้นจากการค้นคว้าของ Bowerman ในการค้นหาโซลูชันยึดเกาะได้ดีแบบเบาหวิว ซึ่งช่วยให้นักกีฬาวิ่งยึดเกาะได้ดีขึ้นโดยไม่รู้สึกหนักเท้า เช้าวันหนึ่งเขาสะดุดตาเข้ากับแพทเทิร์นตารางจากเตาวาฟเฟิลของภรรยาซึ่งมีรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสนูนขึ้นมาคล้ายกับรูปทรงเรขาคณิตที่เขาตามหาพอดี เขาจึงเทน้ำยางลงในเตาวาฟเฟิลนั้นเพื่อสร้างพื้นรองเท้าแบบใหม่ ทำให้เกิดต้นแบบพื้นรองเท้าที่กลายเป็น Moon Shoe ในเวลาต่อมา

แม้ว่าจะมีการเปิดตัวรองเท้ารุ่นแรกๆ จำนวนเพียงเล็กน้อยในการแข่งขันคัดเลือกนักกีฬาโอลิมปิกของสหรัฐอเมริกาในปี 1972 แต่ Moon Shoe ก็ไม่เคยออกวางจำหน่ายสู่ตลาด อย่างไรก็ตาม ดีเอ็นเอของรองเท้าก็ถูกนำมาดัดแปลงอย่างรวดเร็วเป็น Oregon Waffle ในปี 1973 และ Waffle Trainer ในปี 1975 ซึ่งรองเท้ารุ่นหลังกลายเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกของ Nike ที่ช่วยให้นักกีฬามีการยึดเกาะที่ดีขึ้นและกำหนดนิยามใหม่ของความคาดหวังเกี่ยวกับประสิทธิภาพของรองเท้าวิ่ง

Moon Shoe เวอร์ชันปัจจุบันนี้ถือเป็นผลงานความร่วมมือลำดับที่ 4 ของ Nike กับ Jacquemus และแบรนด์แฟชั่นภายใต้ชื่อของเขาเอง ต่อจาก Nike x Jacquemus Air Max 1, J Force 1 และ Air Humara ล่าสุดทั้งสองแบรนด์ได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์สิ่งที่แสดงออกถึงกีฬาและสไตล์ได้อย่างโดดเด่น ผ่านคอลเลกชันซัมเมอร์ปี 2024 และแคมเปญที่มีกรุงปารีสและนักกีฬาในพอร์ตโฟลิโอของ Nike เป็นที่สุดแห่งแรงบันดาลใจ

Moon Shoe ร่วมสมัยนี้เปิดตัวครั้งแรกในรันเวย์โชว์ประจำฤดูใบไม้ผลิปี 2025 ของ Jacquemus ที่ปารีส โดยนำเสนอรองเท้าสามสไตล์ที่โดดเด่นสำหรับวางจำหน่าย ได้แก่ คู่สี Alabaster ที่เป็นสีเฉพาะของ Jacquemus ควบคู่ไปกับคู่สี Off Noir และ University Red

Nike x Jacquemus Moon Shoe จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 กันยายนนี้ที่ jacquemus.com ก่อนที่จะวางจำหน่ายที่ SNKRS และร้านค้าปลีก Nike ที่ร่วมรายการในวันที่ 6 ตุลาคม