ประวัติศาสตร์การวิ่งบรรจบกับการเสริมประสิทธิภาพสุดโมเดิร์นผ่าน Nike International Running Pack ออกใหม่

ประวัติศาสตร์การวิ่งบรรจบกับการเสริมประสิทธิภาพร่วมสมัยผ่าน Nike International Running Pack ออกใหม่ ซึ่งผสานตำนานที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในวงการวิ่งของแบรนด์เข้ากับนวัตกรรมสุดโมเดิร์น เพื่อตอบโจทย์นักกีฬายุคปัจจุบันที่ถอดแรงบันดาลใจจากอดีตและนำไปกำหนดทิศทางอนาคตแห่งวงการกีฬา

ตำนานจากผลงานในอดีตคือรากฐานของคอลเลกชันนี้ โดยเป็นการนำจุดเด่นจากไอเท็มใน Department of Nike Archives มาปรับโฉมประวัติศาสตร์สินค้าวิ่งของ Nike รองเท้าทุกรุ่นถ่ายทอดจิตวิญญาณหัวขบถแห่งความไวและความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นความเร็วอันโดดเด่นของ Vaporfly 4 และ Alphafly 3 หรือความโฉบเฉี่ยวที่ใส่ได้ทุกวันของ Pegasus 41 และ Vomero 18

คอลเลกชันนี้เปิดตัวก่อนการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์ที่โตเกียว ตอกย้ำความสัมพันธ์อันยาวนานหลายทศวรรษระหว่าง Nike กับประเทศญี่ปุ่นและคอมมูนิตี้นักวิ่ง ด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มนักวิ่งในญี่ปุ่นและความชื่นชอบในรองเท้าวิ่งวินเทจ ด้วยความตั้งใจนั้น ซิลลูเอท Nike Running ทั้ง 4 รุ่นในคอลเลกชันนี้จึงได้รับแรงบันดาลใจจากคู่สีดั้งเดิมของรองเท้ารุ่นคลาสสิกของ Nike ซึ่งถือเป็นการย้อนรำลึกถึงรองเท้าวิ่งเสริมประสิทธิภาพโมเดลแรกๆ ของแบรนด์

"เป้าหมายของเราในการดีไซน์ Nike International Running Pack คือสื่อให้เห็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่าง Nike กับประเทศญี่ปุ่น โดยมองย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงปีแรกๆ ของเราในฐานะแบรนด์" Katsunobu Asayama, หัวหน้าทีมดีไซเนอร์รองเท้าในคอลเลกชันนี้กล่าว "เราอยากเอาใจนักวิ่งในประเทศญี่ปุ่นที่ชื่นชอบสไตล์วินเทจด้วยการเปิดกรุและนำดีไซน์คลาสสิกขึ้นหิ้งบางส่วนมาใช้กับซิลลูเอท Nike Running สมัยใหม่ ซึ่งก็จะเป็นการนำลุควินเทจที่ถูกใจคอมมูนิตี้มาประยุกต์กับนวัตกรรมรองเท้าใหม่ล่าสุดของเรานั่นเองครับ"

Vaporfly 4 จากคอลเลกชันนี้คือวิวัฒนาการขั้นล่าสุดของซูเปอร์ชูคู่ต้นกำเนิดของ Nike โดยรุ่นนี้มีจิตวิญญาณของรองเท้าวิ่งแข่งพื้นตะปู Pre Montreal อันเลื่องชื่อ ซึ่งมีดีไซน์ล้ำนวัตกรรมที่ได้อิทธิพลมาจาก นักวิ่งระดับตำนานอย่าง Steve Prefontaine ในช่วงก่อนกีฬาโอลิมปิกปี 1976 ที่มอนทรีออล

Alphafly 3 เจริญรอยตาม Sting ที่วางจำหน่ายคล้อยหลัง Pre Montreal ไปสองปีและเป็นที่จดจำในฐานะรองเท้าวิ่งหนังกลับและไนลอนพื้นบางคู่แรกเริ่มของ Nike โดยรองเท้า Alphafly รุ่นแรกสุดที่ออกมาก่อนหน้ารุ่น 3 ก็ได้นำผลการศึกษาของ Vaporfly คู่ออริจินัลไปใช้ด้วย

Pegasus 41 สะท้อนการดีไซน์ของผลงาน Nike ที่โด่งดังอย่าง Waffle Racer ซึ่งต่อมากลายเป็นทรงรองเท้ามาตรฐานสำหรับรองเท้าวิ่งแข่งอีกหลายคู่ของ Nike ส่วน Vomero 18 ก็รังสรรค์โดยถอดแบบตามรองเท้าวิ่งระยะไกลคู่แรกเริ่มของ Nike อย่าง LD-1000

สไตล์ที่ร่วมสมัยของแต่ละคู่ได้แสดงความยกย่องต่อแรงบันดาลใจจากยุค 1970 ด้วยการนำดีไซน์ดั้งเดิมมาตีความแบบโมเดิร์น นอกจากนี้ยังมีการนำ Swoosh และรายละเอียดอื่นๆ ในดีไซน์ไปใช้กับส่วนบนของ Vaporfly, Alphafly และ Pegasus โดยตรง โดยใช้กระบวนการพิมพ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่

ซิลลูเอททั้ง 4 รุ่นต่างก็จับคู่ได้อย่างลงตัวกับคอลเลกชันเครื่องแต่งกาย Nike International Running Pack ที่เข้าชุดกัน เป็นการนำบรรดารองเท้า Nike Running คู่เก่งมาปรับโฉมให้สอดรับกับสไตล์ญี่ปุ่นฉบับโมเดิร์นและสายสัมพันธ์อันยาวนานระหว่าง Nike กับคอมมูนิตี้นักวิ่งท้องถิ่น

รองเท้าและเครื่องแต่งกายจาก Nike International Running Pack จะวางจำหน่ายครั้งแรกที่ UNION RUNNING DEPT. BY NIKE ในโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม จากนั้นจะเปิดตัวคอลเลกชันทั่วประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 5 กันยายน และจะวางจำหน่ายทั่วโลกที่ nike.com และพาร์ทเนอร์ร้านค้าปลีกที่ร่วมรายการตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน