• ห้องข่าว

Nike ท้าทายขีดจำกัดของนวัตกรรมการวิ่งด้วย Vaporfly 4 และ Streakfly 2

  • 25/2/2568

สิ่งที่ต้องรู้

  • Vaporfly 4 และ Streakfly 2 ขับเคลื่อนด้วยระบบความเร็วระดับตำนานของ Nike นั่นคือการผสมผสานที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะระหว่างโฟม ZoomX และแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ Flyplate ที่ช่วยให้นักวิ่งบรรลุศักยภาพของตนเองได้
  • Vaporfly 4 คือรุ่นที่เบาที่สุดในแฟรนไชส์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกใหม่จากนักกีฬาและมาตรฐานการดีไซน์ของ Nike ที่แม่นยำไม่มีใครเทียบ เพื่อยกระดับซิลลูเอทอเนกประสงค์ที่เป็นจุดเริ่มต้นของสุดยอดการปฏิวัติวงการรองเท้าเมื่อแปดปีก่อน
  • Streakfly 2 รังสรรค์ขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อมอบความเร็วแบบไม่ปรุงแต่งและการลดแรงกระแทกที่ตอบสนองได้ดีขั้นสุดสำหรับการวิ่งระยะสั้นๆ มาพร้อมรูปทรงใหม่ที่ดุดันทรงพลัง โครงสร้างน้ำหนักเบาเหลือเชื่อ และ Flyplate เต็มความยาวเท้า
  • ไลน์อัพรองเท้า Nike Racing ช่วยสนับสนุนนักวิ่งทุกระดับความสามารถและระดับความเข้มข้นของการออกกำลังกาย โดยมอบคุณสมบัติที่จำเป็นในการโชว์ฟอร์มขั้นสุดและสะท้อนถึงความมุ่งมั่นไม่มีใครเกินของ Nike ในการสนับสนุนนักวิ่งและชุมชนนักวิ่ง
  • Vaporfly 4 และ Streakfly 2 จะวางจำหน่ายทั่วโลกที่ nike.com และร้านค้าปลีกบางแห่งเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป

Nike ขอเชิญชวนนักวิ่งมาสัมผัสนวัตกรรมสำหรับการแข่งขันใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับสินค้ารุ่นใหม่ของสองซิลลูเอทพลิกวงการอย่าง Vaporfly 4 และ Streakfly 2

ทั้งสองสไตล์นี้ขับเคลื่อนด้วยระบบความเร็วระดับตำนานของ Nike นั่นคือการผสมผสานที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะระหว่างโฟม ZoomX และแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ Flyplate ที่ทำให้นักวิ่งโดดเด่นเกินใครและช่วยให้บรรลุศักยภาพของตนเองได้ ระบบที่ปรับปรุงใหม่ช่วยให้ทั้งสองโมเดลท้าทายขีดจำกัดของกีฬา ขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงตำนานการแข่งขันและความมุ่งมั่นตลอดห้าทศวรรษของ Nike ในการรังสรรค์รองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนักกีฬาระดับแนวหน้าและนักวิ่งหน้าใหม่

Vaporfly 4 คือรุ่นที่เบาที่สุดในแฟรนไชส์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกใหม่จากนักกีฬาและมาตรฐานการดีไซน์ที่แม่นยำไม่มีใครเทียบของ Nike เพื่อยกระดับซิลลูเอทที่เป็นจุดเริ่มต้นของสุดยอดการปฏิวัติวงการรองเท้าเมื่อแปดปีก่อน ทั้งยังแสดงถึงตำแหน่งของ Nike ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมรองเท้าแข่ง

Vaporfly ใหม่สร้างมาเพื่อนักวิ่งทุกคนและนำแรงบันดาลใจมาจากสุดยอดนักกีฬา รวมถึง Joshua Cheptegei และ Mohammed Ahmed ซึ่งเป็นผู้ทดสอบรองเท้าตลอดทั้งกระบวนการผลิต ทำให้รองเท้ารุ่นนี้เป็นโมเดลรองเท้าแข่ง Nike ที่อเนกประสงค์ที่สุดในตลาด และเป็นรุ่นที่กำหนดมาตรฐานให้กับทุกระยะวิ่งตั้งแต่ 5K จนถึงมาราธอน ซิลลูเอทนี้ผสมผสานความมั่นคงของ Vaporfly 3 และความนุ่มนวลของหลากหลายรุ่นก่อนหน้า เพื่อนำเสนอความสมดุลที่ปรับมาอย่างดีระหว่างการรองรับและแรงส่งที่ตอบโจทย์นักวิ่งทุกระดับความสามารถและระดับความเข้มข้นของการออกกำลังกาย

แรงส่งที่ได้เกิดจากส่วนโค้งที่ปรับปรุงใหม่ของ Nike Flyplate ซึ่งช่วยปลดล็อคแรงส่งจากเท้าและข้อเท้า รวมถึงการส่งแรงกลับที่ได้จากโฟม ZoomX ซึ่งเป็นส่วนประกอบพื้นรองเท้าชั้นกลางที่เบาและคืนตัวได้ดีที่สุดของ Nike

นอกจากนี้ยังเสริมด้วยดีไซน์ซิลลูเอทที่เบาดุจขนนก ซึ่งเบากว่า Vaporfly 3 ราวๆ 10% และเบากว่า Vaporfly (2017) รุ่นออริจินัล 20 กรัม ดีไซน์พื้นรองเท้าชั้นกลางของรุ่นล่าสุดได้ลดน้ำหนักรองเท้าด้วยการนำโฟมที่ไม่จำเป็นออก ขณะที่ส่วนบนแบบใหม่ที่เพิ่มความสบายและความพอดีอย่างสม่ำเสมอยังช่วยลดน้ำหนักโดยรวมของรองเท้าได้ด้วย

"Vaporfly 4 คือ Vaporfly รุ่นในอุดมคติ Nike ทำถึงมาก" Mohammed นักกีฬา Nike และนักวิ่งระยะไกลชาวแคนาดากล่าว "มีหลายแง่มุมที่ผมชอบเกี่ยวกับรองเท้ารุ่นนี้ ทั้งความเบากว่ารุ่นก่อนๆ การตอบสนองได้มากขึ้น ความสบายในทุกย่างก้าว สัมผัสมั่นคง และความพอดีที่ยอดเยี่ยม พูดง่ายๆ ก็คือการผสมผสานคาร์บอนกับโฟมที่ลงตัวที่สุด ณ ขณะนี้อยู่ในรองเท้ารุ่นนี้ ผมชอบใส่รองเท้าคู่นี้แล้ววิ่งให้เร็ว"

DNA ของ Vaporfly ยังแผ่ขยายครอบคลุมไปทั้งไลน์สินค้า Nike Racing เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักวิ่งทั้งระยะสั้นและระยะไกลด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมรองเท้าวิ่งระดับปฏิวัติวงการที่ปลดล็อคศักยภาพสูงสุดให้กับนักกีฬาทุกคน อิทธิพลดังกล่าวหล่อหลอมออกมาเป็น Streakfly 2 ใหม่ ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ใช้นวัตกรรมสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะเพื่อช่วยให้นักวิ่งโชว์ฟอร์มระดับท็อปในการแข่งระยะสั้นๆ เช่น ระยะ 1 ไมล์, 5K หรือ 10K ตลอดจนเซสชันเทรนนิ่งอินเทอร์วัลและเทมโปแบบสั้นๆ

แต่ละองค์ประกอบของ Streakfly 2 รังสรรค์ขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อมอบความเร็วแบบไม่ปรุงแต่งและการลดแรงกระแทกที่ตอบสนองได้ดีขั้นสุด มาพร้อม Flyplate เต็มความยาวเท้าและรูปทรงใหม่ที่ดุดันทรงพลัง มาในดีไซน์น้ำหนักเบาเหลือเชื่อพร้อมนำข้อมูลจากนักกีฬาทั่วไปและนักวิ่งระยะไกล Nike มาใช้

"ปกติแล้วฉันต้องเปลี่ยนจากสนีกเกอร์ไปเป็นรองเท้าพื้นตะปูในช่วงเทรนนิ่งอินเทอร์วัลเพื่อปรับสภาพกล้ามเนื้อและหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ" Jessica Hull นักกีฬา Nike และนักวิ่งระยะกลาง-ระยะไกลชาวออสเตรเลียกล่าว "แต่ดีไซน์ที่รองรับและตอบสนองได้ดีของ Streakfly 2 ทำให้ฉันวิ่งครบทุกรอบที่เร็วที่สุดโดยไม่ต้องเปลี่ยนเป็นรองเท้าพื้นตะปู และช่วยให้เท้าและขาของฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นในวันถัดมาด้วย" 

Streakfly 2 สร้างขึ้นโดยใช้หุ่นรองเท้ากรีฑาพื้นตะปู ทำให้ซิลลูเอทมีความมั่นคงหนักแน่นอย่างที่ตั้งใจให้เป็น โดยมีออฟเซ็ตจากส้นถึงปลายเท้าอยู่ที่ 4 มม. เพื่อให้นักกีฬาวิ่งบนปลายเท้าได้ง่ายขึ้น รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกในไลน์ Streakfly ที่มี Flyplate เต็มความยาวเท้า ซึ่งคล้ายกันกับ Vaporfly 4 จึงให้แรงส่งอย่างไม่มีใครเทียบติดและช่วยนักวิ่งในการท้าทายขีดจำกัดและทำลายสถิติส่วนตัวที่ดีที่สุดของตัวเอง โฟม ZoomX ที่พื้นรองเท้าชั้นกลางให้การผสมผสานที่เป็นมาตรฐานระหว่างความยืดหยุ่นและความทนทาน ทั้งยังช่วยเสริมการส่งแรงกลับของซิลลูเอท ขณะที่ยางและรูปแบบพื้นรองเท้าชั้นนอกปรับปรุงใหม่ให้การยึดเกาะแบบตรงจุดในทุกย่างก้าว

ระบบเชือกกึ่งกลางดีไซน์ใหม่และความยืดหยุ่นเล็กน้อยในเชือกแบบใหม่ทำให้นักกีฬาสามารถปรับความพอดีได้เฉพาะตัวมากขึ้น อีกทั้งส่วนบนจากตาข่ายที่ออกแบบเชิงโครงสร้างแบบใหม่ยังเพิ่มความสบาย การระบายอากาศ และความพอดีสม่ำเสมอควบคู่กับการลดน้ำหนักให้เบาลง

น้ำหนักโดยรวมของรองเท้าเป็นสิ่งที่ท้าทายขีดจำกัดความเบา โดยซิลลูเอทนี้มีน้ำหนักเพียง 126 กรัมเท่านั้น ซึ่งเบากว่า Streakfly รุ่นออริจินัลและรุ่นอื่นๆ ที่คล้ายกันในตลาดราว 40 กรัม

"Streakfly 2 เริ่มต้นยุคใหม่ของรองเท้าสำหรับการแข่งขัน" Cooper Teare นักกีฬา Nike และนักวิ่งระยะกลาง-ระยะไกลชาวอเมริกันกล่าว "โดยยกระดับจากรุ่นก่อนหน้าด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพผ่านส่วนประกอบใหม่ๆ อย่างโฟม ZoomX และแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ Flyplate แบบเต็มความยาวเท้า นอกจากนี้ Nike ยังปรับโฉมระบบร้อยเชือกใหม่เพื่อให้ใส่พอดียิ่งขึ้น พวกเขาคิดทุกรายละเอียดมาอย่างถี่ถ้วนจริงๆ ผมสามารถวิ่งเร็ว 200 เมตรหรือวิ่งเพซ 5K แบบสบายๆ ได้ด้วย Streakfly รุ่นใหม่นี้"

Vaporfly และ Streakfly โมเดลใหม่รวมอยู่ในไลน์อัพ Nike Racing ของรองเท้าเสริมประสิทธิภาพ ซึ่งในนั้นก็จะมีรองเท้าวิ่งมาราธอน Alphafly 3 และสุดยอดรองเท้าเทรนนิ่งอย่าง Zoom Fly 6 ด้วย ซิลลูเอทรองเท้าแข่งยังมาคู่กับเครื่องแต่งกาย Aeroswift Race Day ใหม่จาก Nike ซึ่งรังสรรค์มาพร้อมเทคโนโลยี Dri-FIT และการออกแบบเชิงโครงสร้างอย่างแม่นยำเพื่อการไหลเวียนอากาศ ความพอดี และการเคลื่อนไหวได้ดีขั้นสุด พร้อมให้นักวิ่งทุกประเภทได้สัมผัสนวัตกรรมระดับเดียวกับที่นักกีฬากรีฑาแนวหน้าของ Nike ใช้

ไลน์อัพรองเท้าและเครื่องแต่งกายเสริมประสิทธิภาพระดับชั้นนำของวงการจะช่วยสนับสนุนนักวิ่งทุกระดับด้วยคุณสมบัติที่จำเป็นในการเทรนและการแข่งขันด้วยศักยภาพสูงสุดของตน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นไม่มีใครเกินของ Nike ในการสนับสนุนนักวิ่งและชุมชนนักวิ่ง

นอกจากนี้ รองเท้าแข่งและคอลเลกชัน Race Day ของ Nike ยังสร้างขึ้นโดยนักวิ่ง เพื่อนักวิ่ง โดยใช้สิ่งที่เรียนรู้จากนวัตกรรมและกระบวนการดีไซน์ทั้งหมดเพื่อนำมาพัฒนารองเท้าและเครื่องแต่งกายเสริมประสิทธิภาพตลอดทั้งพอร์ตโฟลิโอสินค้าวิ่งของแบรนด์

Vaporfly 4 และ Streakfly 2 จะวางจำหน่ายทั่วโลกที่ nike.com และร้านค้าปลีกบางแห่งเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป คอลเลกชันเครื่องแต่งกายผู้ชายและผู้หญิง Aeroswift Race Day พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้

Nike Vaporfly 4

Asset

Nike Streakfly 2

Nike Alphafly 3 และ Zoom Fly 6

  • เรื่องราว
  • ผลกระทบ
  • บริษัท
  • ห้องข่าว
      • © 2025 NIKE, Inc. สงวนลิขสิทธิ์