Nike เผยโฉม Project Amplify ระบบรองเท้าเสริมพลังขับเคลื่อนเพื่อการวิ่งและการเดินเป็นครั้งแรกในโลก

Nike เผยโฉม Project Amplify ระบบรองเท้าเสริมพลังขับเคลื่อนเพื่อการวิ่งและการเดินระบบแรกของโลก ซึ่งผ่านการดีไซน์มาให้นักกีฬาทั่วไปเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้นและไกลขึ้นอีกนิดโดยอาศัยการออกแรงน้อยลง

ระบบ Project Amplify ออกแบบเชิงโครงสร้างมาเพื่อเสริมการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของข้อเท้าและขาช่วงล่าง เป็นการเปิดมิติแห่งความเป็นไปได้ใหม่ๆ โดยมอบตัวช่วยที่เหนือชั้นสำหรับใครก็ตามที่อยากเคลื่อนไหวร่างกาย และปูทางสู่การเปลี่ยนอนาคตของการวิ่ง การจ๊อกกิ้ง และการเดิน

ระบบรองเท้าที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้รังสรรค์ขึ้นโดยอาศัยอัลกอริทึมการเคลื่อนไหวจาก Nike Sport Research Lab ตัวระบบประกอบด้วยมอเตอร์ทรงพลังที่มีน้ำหนักเบา สายพาน และแบตเตอรี่ชาร์จได้บริเวณข้อเท้าซึ่งผสานอย่างแนบเนียนเข้ากับรองเท้าวิ่งที่ติดแผ่นรองคาร์บอนไฟเบอร์และสวมใส่ได้ทั้งแบบมีหรือไม่มีระบบวิทยาการหุ่นยนต์

ระบบนี้เอื้อให้นักกีฬาทั่วไปสามารถออกไปเดินหรือวิ่งได้บ่อยขึ้น นานขึ้น ทั้งยังสนุกกับกิจกรรมได้มากขึ้นในเวลาเดียวกัน เป็นการเสริมจังหวะการเคลื่อนไหวให้กับชีวิตของนักกีฬา ขยายระยะทางที่สัญจรโดยการเดินเท้า หรือช่วยให้นักกีฬาสนุกกับการวิ่งต่ออีกสักหนึ่งหรือสองไมล์

การใช้งานแต่ละรูปแบบล้วนสอดรับกับความมุ่งมั่นยิ่งกว่าใครของ Nike ในการแก้ปัญหาให้กับนักกีฬา ยกระดับประสบการณ์ที่ได้รับ ตลอดจนขับเคลื่อนอนาคตแห่งวงการกีฬา ยิ่งไปกว่านั้น Project Amplify ยังเป็นหนึ่งในสี่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่ Nike เปิดตัวในเดือนนี้ โดยเป็นนวัตกรรมที่มาพร้อมกับเครื่องแต่งกาย Air, การระบายความร้อนขั้นสูง และวิทยาศาสตร์ของจิตใจ ทั้งหมดนี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้ง ความกว้างขวาง และผลจากความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการสร้างนวัตกรรมที่มุ่งเน้นนักกีฬาเป็นหลัก

"หน้าที่ของเราคือการฝันให้ไกลโดยคำนึงถึงนักกีฬาเป็นหลักไปพร้อมๆ กัน" Michael Donaghu รองประธานฝ่าย Create The Future, Emerging Sport and Innovation กล่าว "จุดเริ่มต้นของ Project Amplify คือคำถามข้อเดียว นั่นคือเราจะหาวิธีช่วยให้นักกีฬาเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นและไกลขึ้น แต่ว่าใช้แรงน้อยลงแล้วก็สนุกกว่าเดิมได้ยังไง หัวใจหลักของ Project Amplify คือการเพิ่มแรงขับเคลื่อนให้กับย่างก้าวของผู้ใส่อย่างแนบเนียน สิ่งที่จะทำให้คนใส่สนุกคือการรู้ตัวว่าตัวเองทำได้อะไรมากกว่าที่คิด ไม่ว่าคำว่า 'มากกว่า' จะหมายถึงอะไรสำหรับคนนั้น"

Nike พัฒนา Project Amplify ขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนการวิ่ง การจ๊อกกิ้ง และการเดินที่เชื่องช้าให้ง่ายและสนุกมากขึ้น โดยมุ่งเป้าที่จะให้นักกีฬาวิ่งด้วยเพซระหว่าง 10 ถึง 12 นาทีต่อไมล์ เป้าหมายนี้มีลักษณะคล้ายกับการที่จักรยานไฟฟ้าได้ปฏิวัติวิธีการเดินทางสัญจรภายในเมืองด้วยการทำให้ผู้ใช้งานขับขี่ได้ไกลขึ้นและบ่อยขึ้น

สินค้าเจนแรกสุดนี้เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ด้านวิทยาการหุ่นยนต์อย่าง Dephy โดยไม่ได้ออกแบบมาเพื่อนักวิ่งลมกรดที่เน้นแข่งและพยายามทำสถิติเร็วขึ้นในระดับวินาที แต่มีไว้เพื่อตอบโจทย์นักกีฬาที่ต้องการเคลื่อนที่เร็วขึ้นและไกลขึ้นแต่ใช้แรงน้อยลง โดยเสริมพลังให้กับการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็เหมือนกับสร้างกล้ามเนื้อต้นขาให้อีกคู่นั่นเอง

แนวทางการออกแบบนี้อาศัยข้อมูลเชิงลึกที่ NSRL พัฒนาขึ้นมาผ่านการทดสอบนักกีฬาทุกระดับความสามารถและระดับความเข้มข้นในการเล่นกีฬา ซึ่งก็ได้แสดงความเห็นกันว่าระบบนี้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ทั้งยังทำให้การเดินหรือวิ่งขึ้นเนินรู้สึกเหมือนเคลื่อนที่บนพื้นราบ สำหรับนักกีฬาบางคน การสวม Project Amplify ช่วยให้ทำเพซเร็วขึ้นจาก 12 นาทีเป็น 10 นาทีต่อไมล์

ผลการเรียนรู้เหล่านี้คือผลลัพธ์จากการทดสอบหลายต่อหลายครั้งตลอดเวลาหลายปี ทั้งใน NSRL และในสภาพแวดล้อมแบบเอาท์ดอร์ นักกีฬากว่า 400 ชีวิตได้ทดสอบสินค้าในเวอร์ชันที่ต่างกันมากกว่า 9 แบบ โดยแต่ละแบบก็มีจุดประสงค์ในการปรับปรุงองค์ประกอบที่ต่างกันของระบบ การทดสอบคิดเป็นตัวเลขรวมกันกว่า 2.4 ล้านก้าว เท่ากับการวิ่งรอบลู่วิ่งยาว 200 เมตรของ NSRL ประมาณ 12,000 รอบโดยคร่าวๆ

"ถ้าถามว่าเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับ Nike ไหม ก็ทั้งใช่และไม่ใช่" Donaghu กล่าว "แน่นอนว่ามันเป็นนวัตกรรมใหม่ แต่เส้นทางการส่งเสริมการเคลื่อนไหวและการสร้างอนาคตแห่งวงการกีฬามันเริ่มตั้งแต่วันที่ Bill Bowerman เทยางใส่ลงไปในเตาวาฟเฟิลที่บ้านเขาแล้ว เราเชื่อมาเสมอว่าการเคลื่อนไหวเป็นยาดี และ Project Amplify ก็คือบทถัดไปของเรื่องราวที่ว่านี้ มันเป็นการก้าวกระโดดที่เสี่ยงและเป็นการเปิดมิติใหม่โดยเสริมพลังไปที่ย่างก้าวของผู้ใส่โดยตรง"

Project Amplify ยังอยู่ในช่วงต้นของการทดสอบ โดย Nike ผสานศิลปะกับวิทยาศาสตร์เพื่อสร้างสินค้าที่พร้อมเสริมประสิทธิภาพ และเพื่อเปิดตัวระบบรองเท้านี้ให้ลูกค้าได้สัมผัสในวงกว้างในอีกหลายปีข้างหน้า

* If you have a body, you are an athlete. (หากคุณมีร่างกาย คุณก็คือนักกีฬา)