Nike เผยนวัตกรรมเครื่องแต่งกายเสริมประสิทธิภาพ Aero-FIT: เทคโนโลยีระบายความร้อนในโลกที่ร้อนขึ้น
- 23/10/2568

สิ่งที่ต้องรู้
- Aero-FIT คือที่สุดแห่งเทคโนโลยีระบายความร้อนของ Nike ที่ทำให้อากาศไหลเวียนได้มากกว่าเครื่องแต่งกายกีฬา Nike รุ่นเก่ากว่า 2 เท่า ช่วยคงประสิทธิภาพการเล่นกีฬาให้ยาวนานขึ้นและเข้มข้นขึ้นภายใต้สภาพอากาศสุดขั้ว
- Aero-FIT ออกแบบมาเพื่อเพิ่มการไหลเวียนอากาศระหว่างผิวหนังและเนื้อผ้า รองรับการซับเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้นักกีฬารู้สึกแห้งสบายเมื่อการแข่งขันเริ่มร้อนแรงขึ้น
- Aero-FIT เป็นเครื่องแต่งกายเสริมประสิทธิภาพชั้นนำรุ่นแรกของ Nike ที่ผลิตจากเศษผ้าเหลือใช้ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นความสำเร็จของแบรนด์จากความมุ่งมั่นยาวนานหลายทศวรรษที่จะลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยให้นักกีฬาปรับตัวเข้ากับผลจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ
- เทคโนโลยีระบายความร้อนรูปแบบใหม่นี้จะเปิดตัวทั่วโลกในชุดแข่งขันฟุตบอลที่สมาพันธ์ต่างๆ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Nike จะสวมใส่ในฤดูกาลกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี 2026 ก่อนที่จะขยายไปใช้กับสินค้าอื่นๆ ตามกลยุทธ์สินค้ากีฬาของ Nike ต่อไป
นักกีฬาในยุคปัจจุบันกำลังแข่งขันกันในโลกที่ร้อนและชื้นขึ้น ซึ่ง Nike ได้ช่วยผลักดันให้เหล่านักกีฬาทำผลงานได้ดีเยี่ยมไม่ว่าจะเผชิญสภาพอากาศแบบใดก็ตาม ด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีระบายความร้อนเสริมประสิทธิภาพอย่าง Aero-FIT
นอกเหนือจากการเป็นเครื่องแต่งกายเสริมประสิทธิภาพแล้ว Aero-FIT คือที่สุดแห่งนวัตกรรมการระบายความร้อนของ Nike ที่เพิ่มการไหลเวียนของอากาศได้ดีกว่าวัสดุ Nike แบบเดิมกว่า 2 เท่าเพื่อให้เสริมประสิทธิภาพได้สูงสุดภายใต้สภาพอากาศสุดขั้ว ช่วยให้นักกีฬาทำผลงานได้ดีเยี่ยมในโลกยุคใหม่ที่มีความร้อนและความชื้นสูงขึ้น
เทคโนโลยีรุ่นบุกเบิกนี้จะเปิดตัวทั่วโลกในชุดแข่งขันฟุตบอลที่สมาพันธ์ต่างๆ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Nike จะสวมใส่ในฤดูกาลกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี 2026 ก่อนที่จะขยายไปใช้กับสินค้าอื่นๆ ตามกลยุทธ์สินค้ากีฬาของ Nike เพื่อนำนวัตกรรมที่เน้นการไหลเวียนของอากาศไปให้นักกีฬาและกีฬาประเภทอื่นๆ ทั่วโลกได้ใช้งานต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น Aero-FIT ยังเป็นหนึ่งในสี่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่ Nike เปิดตัวในเดือนนี้ โดยเป็นนวัตกรรมที่มาพร้อมกับเครื่องแต่งกาย Therma-FIT, วิทยาศาสตร์ของจิตใจ และรองเท้าที่มีพลังขับเคลื่อน ทั้งหมดนี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้ง ความกว้างขวาง และผลจากความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการสร้างนวัตกรรมที่มุ่งเน้นนักกีฬาเป็นหลัก
"Nike เกิดมาเพื่อช่วยให้นักกีฬาเล่นกีฬาได้ดีขึ้น และเทคโนโลยี Aero-FIT ที่เป็นความก้าวหน้าของเราก็เรียกได้ว่าเป็นอนาคตของนวัตกรรมเครื่องแต่งกายระดับพลิกวงการ ทั้งในด้านประสิทธิภาพชั้นนำและความยั่งยืนในวงกว้าง" Janett Nichol รองประธานฝ่ายนวัตกรรมเครื่องแต่งกายและ Advanced Digital Creation Studio กล่าว
Aero-FIT ออกแบบมาเพื่อเพิ่มการไหลเวียนอากาศระหว่างผิวหนังและเนื้อผ้า รองรับการซับเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้นักกีฬารู้สึกแห้งสบายเมื่อการแข่งขันเริ่มร้อนแรงขึ้น
โซนตาข่ายวงรีมอบรูปลักษณ์ซิกเนเจอร์ที่ไม่ซ้ำใคร ในขณะที่ส่วนตาข่ายที่บางกว่าจะช่วยให้มีการไหลเวียนของอากาศได้ดียิ่งขึ้นในพื้นที่ที่มีความร้อนสูง นอกเหนือจากให้ความสวยงามแล้ว โซนตาข่ายเหล่านี้ยังเป็นช่องระบายอากาศที่ปรับแต่งมาเพื่อประสิทธิภาพในการเล่นบนสนามฟุตบอลและสนามอื่นๆ โดยเริ่มสร้างขึ้นมาตั้งแต่ศูนย์เพื่อช่วยจัดการความร้อน
นักกีฬาหลายร้อยคนได้ทำการทดลองสวมใส่ Aero-FIT ภายใต้สภาพอากาศที่หลากหลาย ซึ่งความคิดเห็นและการรับรู้ของนักกีฬาเหล่านั้นช่วยยืนยันประสิทธิภาพในการระบายความร้อน ความสบาย และอิสระในการเคลื่อนไหวของนวัตกรรมนี้ในสถานการณ์จริง
"เราใส่ใจกับข้อมูล รวมถึงวิเคราะห์วิธีที่อากาศเคลื่อนที่รอบร่างกาย และนำการไหลเวียนของอากาศนั้นไปสร้างเป็นดีไซน์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับกีฬาแต่ละประเภท" Nichol กล่าว
Aero-FIT เกิดจากความมุ่งมั่นยาวนานหลายทศวรรษของ Nike ในการออกแบบที่คำนึงถึงสภาพอากาศอย่างตั้งใจ และความก้าวหน้ายุคปัจจุบันในด้านการควบคุมอุณหภูมิของร่างกายและการหมุนเวียนวัสดุ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่านวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโดยนักกีฬา สนับสนุนด้วยวิทยาศาสตร์ และมุ่งเน้นความยั่งยืนคือแนวโน้มสำคัญ ไม่ใช่เพียงกระแสชั่วคราว
ดังนั้น Aero-FIT จึงเป็นเครื่องแต่งกายเสริมประสิทธิภาพชั้นนำรุ่นแรกของ Nike ที่ผลิตจากเศษผ้าเหลือใช้ 100 เปอร์เซ็นต์จากการรีไซเคิลทางเคมีขั้นสูง โดยเป็นกระบวนการหมุนเวียนวัสดุที่ทำให้ได้เส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับวัสดุใหม่
นอกจากความก้าวหน้าในแง่ของความยั่งยืนครั้งนี้แล้ว Aero-FIT ยังเป็นผลผลิตจากระบบนวัตกรรมแบบบูรณาการของ Nike ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างวิทยาศาสตร์การกีฬา การออกแบบเชิงคำนวณ และการผลิตขั้นสูง ทีมดีไซเนอร์ของ Nike ยังใช้ข้อมูลจากแผนที่ความร้อนและการเคลื่อนไหวเพื่อพัฒนาทุกแง่มุมของ Aero-FIT ด้วย ตั้งแต่การปรับแต่งเส้นใยไปจนถึงการจัดวางตำแหน่งของตาข่าย
ยิ่งไปกว่านั้น ดีไซเนอร์ยังใช้ประโยชน์จากพิมพ์เขียวดิจิทัลเพื่อแปลผลทางสรีรวิทยากับชีวกลศาสตร์ของนักกีฬาและนำมาใช้กับเครื่องแต่งกายกีฬาที่เน้นการไหลเวียนของอากาศ โดยทั้งหมดนี้สร้างด้วยความแม่นยำระดับฝีเย็บ และยืนยันผลขณะเคลื่อนไหวตามมาตรฐานทางเทคนิคสูงสุดของแบรนด์
"เราภูมิใจมากที่เสื้อแข่งของเราที่นักกีฬาจะได้สวมใส่ในฤดูร้อนครั้งต่อไปจะให้ความรู้สึกเบา ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหว และสวมใส่สบายตลอดทั้งแมตช์" Nichol กล่าว "นั่นคือความสบายที่จะช่วยให้นักกีฬาจดจ่อกับการแข่งได้อย่างเต็มที่ตลอดระยะเวลากว่า 90 นาที"














