หนึ่งปีเต็มกับการพา Nike หวนคืนสู่รากเหง้าของ CEO of Sport


- 15/10/2568
- Words:
แต่ละวันที่ Philip H. Knight Campus ในบีเวอร์ตัน รัฐโอเรกอน เริ่มต้นก่อนฟ้าสาง เช้าตรู่วันอังคารที่อากาศหนาวเพราะเป็นฤดูใบไม้ร่วง เหล่าพนักงานมาถึงตั้งแต่ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น พวกเขาวิ่งเหยาะๆ รอบแคมปัสหรือออกแรงยกเวทอยู่ในห้องยกน้ำหนัก ที่สตูดิโอ 4 ในยิม Nike Sports Center กลุ่มคนราว 20 คนกำลังวอร์มร่างกายให้พร้อมสำหรับคลาส HIIT ตอน 7 โมงเช้า
หนึ่งในผู้ร่วมคลาสก็คือ Elliott Hill ซีอีโอและประธานกรรมการ เขาเป็นขาประจำของยิมแห่งนี้ และยังคอยชักชวนคนอื่นๆ ให้มาใช้งานด้วย เช้าวันนี้เขาอยู่ตรงกลางเป๊ะของแถวหน้าสุดในคลาส ดัมเบลล์สองอันวางอยู่ข้างเท้า Hill ใส่สุดพลังตามจังหวะมันๆ ของเพลงในเพลย์ลิสต์ออกกำลังกาย พร้อมกับชวนคนข้างๆ คุยเรื่องเวลาที่ทำได้ในการแข่งขัน Portland Marathon เพื่อให้ลืมความเหนื่อยจากการทำท่าแพลงก์ 10 วินาทีสุดท้าย ถึงจะเป็นช่วงเช้าตรู่ Hill ก็ยังสดชื่นแจ่มใส กระตือรือร้น แล้วยังคอยส่งเสียงเชียร์และให้คำแนะนำแก่เพื่อนร่วมยิมไปพร้อมกัน
หลังจบคลาส พนักงานคนหนึ่งถือโอกาสนี้แนะนำตัวเธอเองอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เธอเคยพบกับ Hill แล้วครั้งหนึ่ง เวลานั้นเธอทำงานฝ่ายค้าปลีกอยู่ที่เมืองลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี Hill เคยให้คำแนะนำด้านอาชีพแก่เธอว่า ถ้าเธออยากก้าวหน้าที่ Nike เธอต้องมองไปให้ไกลขึ้นสองก้าว เรียนรู้ทักษะต่างๆ ที่จำเป็น และทุ่มเทฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ นับจากวันนั้นเป็นเวลา 12 ปี ตอนนี้เธอเป็นผู้จัดการฝ่ายชุดผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายเทรนนิ่ง Nike Pro Hill จับมือกับเธอและพูดว่าเขายังยืนยันคำแนะนำเดิม เพราะในสายตาของเขา ความสำเร็จคือการเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือของตัวเองให้พร้อม ไม่ใช่การรอให้คนอื่นๆ หยิบยื่นเครื่องมือให้ และพวกเขาทั้งสองคนต่างเป็นเครื่องยืนยันคำพูดนั้น
"ผมฉลองให้กับชัยชนะ และรับประกันด้วยว่าคนอื่นๆ จะยินดีไปด้วยกัน แต่ผมก็ก้าวต่อไปอย่างรวดเร็วด้วย 'เอาล่ะ ทีนี้เราจะยอดเยี่ยมขึ้นได้อีกยังไงบ้าง' หรือ 'โอเค ทำได้เยี่ยมมาก ไปกันต่อเลย ยังมีอีกเยอะแยะที่เราสามารถทำได้'"
Elliott Hill, ประธานกรรมการและ CEO, NIKE, Inc.
ตลอดช่วงเวลาที่ Hill อยู่กับ NIKE, Inc. ตั้งแต่เป็นเด็กฝึกงานจนถึงผู้นำบริษัทนั้นน่าประทับใจมากจนเส้นทางการเติบโตในอาชีพของเขาจัดเป็นของหายากใน LinkedIn และกลายเป็นไวรัลเลยทีเดียว แล้วในเดือนตุลาคมนี้เขาก็จะดำรงตำแหน่ง CEO ครบรอบหนึ่งปีพอดี ในสายตาของ Hill ปีนี้เป็นปีที่ดี Nike ทำได้ดีทั้งในด้านการสนับสนุนนักกีฬา ซึ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือฟื้นฟูความสัมพันธ์กับตลาด แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ปีนี้เป็นก้าวแรกแห่งความหวัง สำหรับ Hill แล้วสิ่งดีที่สุดยังไม่มาถึง เขาให้คะแนนการบรรลุศักยภาพสูงสุดของ Nike แค่ 6 ใน 10 เท่านั้น แม้ว่าโมเมนตัมในปัจจุบันจะเป็นไปในทางที่ดีก็ตาม "ผมฉลองให้กับชัยชนะ และรับประกันด้วยว่าคนอื่นๆ จะยินดีไปด้วยกัน แต่ผมก็ก้าวต่อไปอย่างรวดเร็วด้วย 'เอาล่ะ ทีนี้เราจะยอดเยี่ยมขึ้นได้อีกยังไงบ้าง' หรือ 'โอเค ทำได้เยี่ยมมาก ไปกันต่อเลย ยังมีอีกเยอะแยะที่เราสามารถทำได้'"
Hill ก็เป็นเหมือน CEO คนอื่นๆ เขาใส่ใจมากกับคำบ่นในช่วงหลายปีนี้ที่ว่า Nike หยุดคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ แล้ว และเขากระตือรือร้นมากที่จะหักล้างคำพูดเหล่านี้ เขากล่าวว่าความท้าทายทำให้ตนเติบโต และรู้ดีว่านวัตกรรมที่แท้จริงเกิดขึ้นได้จากบรรยากาศตึงเครียด ไม่ใช่ความนิ่งสงบมั่นคง ระหว่างที่ Hill นั่งพักเหนื่อยหลังจบคลาส HIIT อยู่ด้านนอกของ LeBron James Innovation Center เขาก็สังเกตเห็นพนักงานสองคนเดินเข้าไปในอาคาร เขาตะโกนเรียกทั้งสองคนไว้ และถามถึงความคืบหน้าของรองเท้าสตั๊ดรุ่นใหม่ การปลุกความรู้สึกภาคภูมิใจในบริษัทให้เกิดขึ้นในตัวพนักงานอีกครั้งเป็นสิ่งสำคัญ หากพวกเขายังไม่เชื่อในตนเอง คนอื่นๆ ก็จะไม่เชื่อเช่นกัน "ถ้าเราจะทำรองเท้าสตั๊ดเบสบอล ก็ทำให้มันเป็นรองเท้าสตั๊ดเบสบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุด" Hill ขอเรื่องนี้กับพนักงาน "ถ้าเราจะทำรองเท้าสตั๊ดเบสบอล ก็ทำให้มันเป็นรองเท้าสตั๊ดเบสบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุด" พนักงานที่กระตือรือร้นอยากอวดผลงานเชิญ Hill มาตัดสินด้วยตัวเองสัปดาห์หน้าที่ห้องประชุม Alpine Hill ทวนสถานที่และเวลาอีกครั้ง เท่านี้นัดหมายก็เรียบร้อย

หนึ่งปีที่ผ่านมา Hill ผู้อายุ 62 ปีในปีนี้ ได้มอบภารกิจให้ตนเองที่จะสร้างชื่อเสียงโด่งดังให้กับ Nike อีกครั้งในฐานะบริษัทด้านกีฬาแนวหน้าและผู้นำด้านนวัตกรรมกีฬา เป็นบริษัทนักคิดค้น ไม่ใช่แค่แบรนด์ผลิตสินค้า และเขาเชื่อมั่นหนักแน่นว่าไอเดียเหล่านี้ต้องเน้นในด้านกีฬา โดยมีนักกีฬาเป็นศูนย์กลาง เขาบอกว่าตนเองมีความหวังต่ออนาคต และแต่ละวันก็มีเหตุผลใหม่ๆ ให้เขาเชื่อมั่นเช่นนั้น อย่างการพูดคุยเรื่องสตั๊ดรุ่นใหม่กับพนักงานในวันนี้ "พวกเขาพูดอย่างภูมิใจว่า 'มาดูสิว่าผมมีอะไรจะอวด' และนี่คือสิ่งที่ผมต้องการ" Hill กล่าว พนักงานไม่เพียงทำงานหนัก แต่ยังเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าตนกำลังสร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมและคู่ควรแก่การภาคภูมิใจ รวมทั้งตระหนักดีว่าความสำเร็จที่แท้จริงคือการชนะไปด้วยกัน "ผมอยากให้ผู้คนรู้สึกภูมิใจในงาน ในผลงานสร้างสรรค์ และในการสนับสนุนนักกีฬา"
เขามองเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องร่วมแรงร่วมใจกันทำ เป็นสิ่งที่ตัวเขาเองและพนักงานทุกคนในบริษัทต้องมีส่วนร่วม สำหรับ Hill แล้ว แรงขับดันเป็นเหมือนกีฬาเอ็กซ์ตรีม เขานำทีมด้วยความกระตือรือร้นจนแพร่ไปสู่คนอื่นๆ จนกระทั่งคนที่ไม่เชื่อก็ยังกลับมาศรัทธา เขารับคุณเข้ามาเพื่อฝันอย่างยิ่งใหญ่และยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ทั้งยังยืนยันหนักแน่นว่าการทำงานเป็นทีมคือหนทางเดียวที่จะได้ชัยชนะ แต่ก็ไม่ลืมที่จะชื่นชมและให้รางวัลกับผู้เล่นแต่ละคนในทีมด้วย นี่ก็เพราะป่าไม่สามารถขาดต้นไม้ไปได้ "เขาทำให้ทุกคนในห้องรู้สึกเป็นคนพิเศษได้อย่างน่าเหลือเชื่อมากๆ" Dan Lanning หัวหน้าโค้ชทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัย University of Oregon กล่าว "ผมจำได้เลยว่าหลังจากได้พูดคุยกับเขาครั้งแรก ผมบอกกับภรรยาว่า 'ผู้ชายคนนี้ทำได้แน่'"

"เขาทำให้ทุกคนในห้องรู้สึกเป็นคนพิเศษได้อย่างน่าเหลือเชื่อมากๆ"
Dan Lanning หัวหน้าโค้ช, มหาวิทยาลัย University of Oregon
เขายังนำความใส่ใจระดับสูงสุดนี้มาใช้กับนักกีฬา Nike ด้วย คุณไม่สามารถสนับสนุนนักกีฬาได้เลยถ้าไม่เข้าใจพวกเขา และ Hill ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างสายสัมพันธ์ที่จริงใจ "จำเป็นมากที่ต้องรู้ว่าเรากำลังเห็นอะไรอยู่" เขากล่าว พร้อมตอกย้ำคำพูดด้วยการฟาดสันมือแบบคาราเต้เบาๆ บนโต๊ะด้านนอก LeBron James Innovation Center "ความสัมพันธ์ที่ดีสร้างขึ้นบนความไว้วางใจและความเคารพในกันและกันสั่งสมมาเป็นเวลายาวนาน ไม่ทอดทิ้งกัน ถ้าในเกมแรกคุณเข้าสนามและต้องการผม ผมก็จะอยู่ตรงนั้น"
Hill ยืนยันคำพูดด้วยการกระทำ เขาหยิบโทรศัพท์สำหรับใช้ในงานขึ้นมา (คนละเครื่องกับโทรศัพท์ส่วนตัวที่ก็วางอยู่บนโต๊ะเช่นกัน แถมใส่เคสแบบเดียวกันด้วย) และเปิดข้อความแชตกับ Sabrina Ionescu แห่ง New York Liberty ขึ้นมา (ส่วนนักกีฬา GOAT โทรหา Hill เมื่อเช้าที่เบอร์ส่วนตัว) แชตนั้นยาวหลายหน้าเพราะต่างส่งรูปให้กันไปมา และ Hill ก็มักทักไปหลังจบเกมเสมอ พวกเขามักคุยกันเรื่อง Sabrina 3 รองเท้า Nike รุ่นซิกเนเจอร์รุ่นล่าสุดของผู้เล่น WNBA ซึ่งเพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อต้นปี เขาเปิดรูปของวันที่ 17 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันเปิดฤดูกาลของทีม Liberty โดยแข่งกับทีม Las Vegas Aces เป็นรูปถ่ายรองเท้า Nike ของ Hill กับ Gina ภรรยา, Ionescu, Tom Peddie ผู้จัดการทั่วไปและรองประธานประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือ กับ Sharon ภรรยา ที่ยืนล้อมวงกันอยู่ "ฉันชื่นชมแนวทางของ Elliott มากจริงๆ" Ionescu กล่าว "ฉันสัมผัสได้ว่าเขารับฟังฉันจริงๆ ทุกครั้งที่เล่าให้เขาฟังถึงสิ่งที่สำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจของฉัน เขารู้ว่าจะเชื่อมต่อกับผู้คนโดยไม่ละทิ้งความเป็นมนุษย์อย่างไร และฉันขอบคุณจากใจที่เขากลับมาเป็นครอบครัว Nike"
Hill ไม่เพียงต้องการให้นักกีฬารู้สึกว่าตนเองเป็นที่รู้จัก แต่ยังรู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนและมั่นใจว่ามีทีมที่ไว้ใจได้ ที่การประชุม Nike Football Summit เมื่อเดือนมิถุนายน Ronaldo (R9) ตำนานนักเตะลูกหนังชาวบราซิลและเป็นนักกีฬาของ Nike มาอย่างยาวนานถึง 31 ปี ได้พบกับนักฟุตบอลระดับตำนานคนอื่นๆ อย่าง Vinícius Júnior, Kerolin, Didier Drogba, Matheus Cunha, Edgar Davids รวมถึง Hill ที่ขึ้นกล่าวปลุกพลังของทุกคน "Elliott พูดปลุกใจพวกเราว่าทุกคนสำคัญต่อบริษัทอย่างไร และการที่พวกเรามีส่วนร่วมในทีมนั้นจำเป็นขนาดไหน ซึ่งทำให้เรารู้สึกเป็นคนพิเศษ มีคุณค่า และเกิดแรงบันดาลใจ" R9 กล่าว
ในความคิดของ Hill ความรู้สึกเหล่านั้นจำเป็นต้องได้รับการถ่ายทอดออกไปเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายนอกเช่นกัน ดังนั้นในปีที่ผ่านมาเขาจึงขยันโทรติดต่อใครต่อใครอยู่เสมอ เช่น ทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง CEO เขาก็โทรหา Roger Goodell ประธานลีก NFL เพื่อให้มั่นใจว่าข้อตกลงสิทธิ์และสัญญาชุดแข่งของ Nike จะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2038 จากนั้นก็เป็นการโทรหาพาร์ทเนอร์ร้านค้าปลีกอย่าง DICK'S Sporting Goods และ D Sports ซึ่งก่อนหน้านี้ห่างเหินกันไปเนื่องจากนโยบายของบริษัทที่เน้นการขายให้กับลูกค้าโดยตรง แต่ Hill หันหลังให้กับแนวทางนั้น เขาคิดว่าร้านค้าเหล่านี้ไม่เพียงเป็นปัจจัยชี้ขาดในแง่ยอดขาย แต่ยังรวมถึงในแง่เสียงสะท้อนที่มีต่อสินค้าด้วย ซึ่งสำหรับ Ed Stack ประธานบริหารของ DICK’S Sporting Goods และ Foot Locker ผู้รู้จักกับ Hill มานานกว่า 25 ปีนั้น เขามองว่าความพยายามเข้าถึงนี้มีความสำคัญมาก "Elliott ไม่เคยหมกเม็ด และความโปร่งใสของเขาก็เป็นรากฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจที่สั่งสมจนกลายเป็นความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยม" Stack กล่าว "ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ Elliott มีต่อ Nike ก็คือ ตอนนี้ Nike เชื่อมั่นว่าตัวเองสามารถเป็น Nike ได้อีกครั้ง และผมรับรองเลยว่าพาร์ทเนอร์ร้านค้าของบริษัทก็มีความเชื่อแบบเดียวกัน"

Hill เขียนข้อความลงบนผนัง Nike Maxims ที่ Steve Prefontaine Hall ว่า "Together...we will write the next great chapter for Nike!! (เราจะสร้างตำนานบทใหม่ที่ยิ่งใหญ่ให้กับ Nike ไปด้วยกัน!!)"
ช่วงสายของวันนั้น Hill เดินไปรอบๆ แคมปัสพลางชี้ให้ดูความเปลี่ยนแปลงที่เขาทำให้เกิดขึ้น หลังจากเกษียณไปในปี 2019 และกลับมารับตำแหน่งผู้นำอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว เขากล่าวว่าเขารู้ดีว่าพนักงานต้องการวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างไปจากเดิม เขาคิดว่า พนักงานจำเป็นต้องเห็นด้วยตาตนเองจึงจะตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เขาสั่งให้เปิดน้ำพุรอบๆ อาคาร Sebastian Coe อีกครั้ง "นี่เป็นสัญญาณว่าเราได้กลับเข้าสู่เส้นทางที่ถูกต้องแล้ว เหมือนกับน้ำที่กำลังไหลไปตามเส้นทางของมัน" คำขวัญองค์กรก็กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้จริงผ่านการติดตั้งวลีจาก Nike Maxims อย่าง 'DO THE RIGHT THING' และ 'WIN AS A TEAM' ไว้ทั่วทั้งแคมปัสโดยใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ รวมถึงนาฬิกาดิจิทัลดีไซน์ทันสมัยที่นับถอยหลังสู่การแข่งขันกีฬาระดับโลก เช่น โอลิมปิกฤดูหนาวปี 2026 และฟุตบอลโลก กีฬาอยู่ใกล้กับตัวเราเสมอ และ Hill ก็ไม่อยากให้พนักงานลืมเรื่องนั้น ทุกวินาทีของทุกวันจะมีนักกีฬากำลังฝึกฝนอยู่ที่ใดที่หนึ่งเสมอ เมืองก็กำลังเตรียมตัวให้พร้อม แฟนๆ ก็กำลังรอคอยอย่างคาดหวัง "เราต้องไม่หลุดโฟกัสเพื่อให้เตรียมพร้อมอยู่เสมอ" เขากล่าว
ทุกการเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มจากภายใน และหนึ่งในความสนใจหลักของ Hill ก็คือการสร้างทีมผู้นำอาวุโสที่สดใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวเอ้ที่ทำงานกับ NIKE, Inc. มาอย่างยาวนาน การเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดก็คือ Hill ปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริษัทโดยแบ่งตามประเภทกีฬา (วิ่ง, บาสเก็ตบอล, ฟุตบอล และอื่นๆ) แทนที่จะแบ่งเป็นผู้หญิง ผู้ชาย และเด็ก การปรับเปลี่ยนองค์กรและรีเซ็ตกลยุทธ์ให้เป็นแบบ "Sport Offense" นี้ช่วยให้ทีมสามารถรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเฉพาะทางเกี่ยวกับนักกีฬาและใช้ข้อมูลนั้นขับเคลื่อนนวัตกรรมและการบอกเล่าเรื่องราว "เรามีทีมเล็กๆ จากแต่ละเซ็กเมนต์เหล่านั้นที่กำลังพยายามทำความเข้าใจลูกค้าหลักของตนเอง" Hill กล่าวพร้อมกับชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างร้านค้าสำหรับลูกค้าของ Nike Basketball กับ Jordan "นี่เป็นวิธีการนำรายได้ 47 พันล้านดอลลาร์มาแบ่งตามประเภทกีฬา แล้วกำหนดให้แต่ละประเภทกีฬารับผิดชอบรายได้ อัตรากำไร และส่วนแบ่งตลาดของตัวเอง"
Hill เคลื่อนไหวว่องไวแม้จะเพิ่งเลิกคลาสออกกำลังกายอย่างเข้มข้นมา บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวังต่ออนาคต พอๆ กับความพึงพอใจต่อความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน ขับเคลื่อนด้วยแพสชั่นและโอเวอร์ไนท์โอ๊ตที่เขาเตรียมมากินหลังออกกำลังกาย เขาบอกว่า หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงในแคมปัสที่ทำให้เขาภูมิใจที่สุดก็คือการทำให้พนักงานเข้ามาใช้ยิมของบริษัทกันมากขึ้น แล้วก็เป็นเรื่องปกติมากที่พนักงานผู้กำลังเดินไปประชุมหรือพักดื่มคอมบูฉะจะพบกับ Hill และถูกเชียร์ให้ไปออกกำลังกาย ตอนที่ Hill เริ่มทำหน้าที่ CEO เขาเห็นยิมสุดล้ำสมัยของบริษัทนั้นแทบว่างเปล่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่อนุญาตให้พนักงานพาลูกๆ มาใช้งาน เขาจึงเชิญชวนครอบครัวของพนักงานให้มาใช้งานยิมและพยายามนำกิจกรรมเสริมสำหรับเด็กๆ กลับมา เช่น โปรแกรมว่ายน้ำที่แต่ก่อนเคยมี หรือการแข่งขันกีฬาภายใน ยิมจึงมีผู้ใช้งานอุ่นหนาฝาคั่งมากขึ้นด้วยการผลักดันของเขา ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ เช้าวันนั้นก่อนเริ่มคลาส เขาเดินผ่านแถวลู่วิ่งและโซนบาร์เบลและยกน้ำหนักที่กำลังถูกใช้งาน จิตวิญญาณของ Nike ต้องไม่หยุดอยู่แค่กับผู้บริโภค เพราะ "กีฬา" ควรเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิตของพนักงานด้วยเช่นกัน

Hill ยืนอยู่กับ Jalen Hurts นักกีฬา Jordan Brand เมื่อฤดูหนาวปีที่แล้ว NIKE, Inc. เป็นผู้จ่ายค่าปรับแทนควอเตอร์แบ็คคนนี้หลังจากเขาสวมรองเท้าสตั๊ด Jordan 11 ที่ไม่เข้าคู่กันลงสนาม Hill ยกเหตุการณ์นี้ขึ้นมาเป็นตัวอย่างว่า Nike ได้กลับมาเป็น Nike อีกครั้งแล้ว
"เขาเปิดกว้างและเข้าถึงได้ง่ายมากๆ จนทำให้ผู้คนจากทุกระดับรู้สึกว่าสามารถเข้ามาพูดคุยกับเขาได้"
Gina Hill ภรรยาของ Elliott มาตลอด 32 ปี
Gina ภรรยาของ Hill เล่าว่า ส่วนตัวเขาเองเป็นนักปั่นจักรยานและนักปีนเขาตัวยง แต่อันที่จริง Hill หลงใหลการเคลื่อนไหวร่างกายทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบ็อบสเลด (กีฬารถเลื่อนน้ำแข็งความเร็วสูง) หรือไท่จี๋ "เขาเป็นคนเปิดเผยและสนใจใคร่รู้สิ่งต่างๆ มาก เขารู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งและอาจจะทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จก็ได้ แต่ยังไงก็ต้องลองกันสักตั้งแบบนั้นค่ะ" เธอเล่า "ฉันคิดว่านิสัยนี้เป็นต้นแบบที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Nike คือต้องไม่กลัวที่จะลองสิ่งใหม่ๆ และกล้าถามคำถาม"
Hill กับ Gina (ทั้งคู่พบกันครั้งแรกที่ Nike) มักใช้เวลาช่วงเช้าออกกำลังกายด้วยกัน แต่คลาส HIIT วันนี้อาจนับได้ว่าเป็นโอกาสพิเศษ เพราะเป็นวันแรกที่ Gina ได้รับอนุญาตจากแพทย์ให้ออกกำลังกายได้หลังอาการป่วยทุเลาลง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หรือหกเดือนหลังเข้ารับตำแหน่ง Hill ได้รับโทรศัพท์สายที่เขาจะไม่มีวันลืมเลย แจ้งว่า Gina เป็นมะเร็งเต้านม เวลานั้น Hill อยู่ที่นิวยอร์กและกำลังจะต้องพบปะกับนักลงทุนในอีก 10 นาที เขาแจ้งเรื่องนี้กับผู้นำอีกสองคนที่อยู่ด้วยกัน เขาร้องไห้ "จากนั้นคุณต้องเช็ดน้ำตาแล้วรวบรวมสติให้เข้าที่เข้าทาง" Hill เล่า ทั้งเขาและ Gina ต่างไม่ใช่พวกมัวแต่จมอยู่กับความคิด ทั้งคู่เป็นนักปฏิบัติที่จะลงมือทำจริง "เราสองคนเชื่อมั่นมากในแนวคิดเรื่องการควบคุมสิ่งที่จัดการได้และไม่ใช้พลังงานเสียเปล่าไปกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา" เขากล่าว Hill อยู่เคียงข้าง Gina ระหว่างที่เธอเข้ารับการผ่าตัดเต้านมทั้งสองข้าง ทั้งขับรถพาเธอไปพบแพทย์แล้วเข้ารับการรักษา Hill บอกว่าการสร้างวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้เกิดความสมดุลขึ้นได้นั้น เป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจมาก "ผมคิดว่า คนเป็นหัวหน้าควรจะสามารถพูดได้ว่า 'ผมต้องหยุดงานไปดูแลภรรยา พวกคุณสร้างผลลัพธ์ปังๆ กันต่อไปได้เลยนะ'"

เขาสวม Nike Vomero Premium ในคู่สี Black/Volt
"ผมไม่อยากกลายเป็นหัวหน้าที่อยู่เหนือคนอื่นๆ แบบนั้น และผมจะทำลายภาพจำนี้สุดกำลังด้วย ผมยอมเสียหน้าเพื่อให้คนอื่นๆ รู้สึกว่าพวกเขาเช่ือมโยงกับผมได้ในฐานะมนุษย์"
Elliott Hill, ประธานกรรมการและ CEO, NIKE, Inc.
Hill ไม่มีคุณวุฒิตามแบบฉบับ CEO เขาเติบโตขึ้นในย่าน "พนักงานบริษัทผู้ขยันขันแข็ง เปิดกว้างทางวัฒนธรรมและเชื้อชาติ" ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ในครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เป็นครูในโรงเรียนและจำเป็นต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังหลังเลิกเรียน ก่อนมาอยู่กับ Nike เขาจบการศึกษาจาก Texas Christian University สาขาวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวร่างกาย "ผมไม่อยากกลายเป็นหัวหน้าที่อยู่เหนือคนอื่นๆ แบบนั้น และผมจะทำลายภาพจำนี้สุดกำลังด้วย ผมยอมเสียหน้าเพื่อให้คนอื่นๆ รู้สึกว่าพวกเขาเช่ือมโยงกับผมได้ในฐานะมนุษย์" เขาพูดพลางจิบกาแฟดำไปด้วย (ครั้งหนึ่งเขาเคยลั่นวาจาว่าจะโกนหัวถ้าทีมทำยอดงบประมาณได้ตามเป้าในปีนั้น แล้วพอทีมทำได้จริง เขาก็ทำตามสัญญาโกนหัวโชว์บนเวทีต่อหน้าทีมอย่างไม่ลังเลเลย)
แนวทางนี้ได้ผลดีจริง Gina ยืนยันว่าสามีของเธอรู้วิธีการทำให้คนอื่นๆ สบายใจเป็นพิเศษ ซึ่งคุณสมบัตินี้มาจากความอยากรู้อยากเห็นไม่มีสิ้นสุดของเขา "เขาเปิดกว้างและเข้าถึงได้ง่ายมากๆ จนทำให้ผู้คนจากทุกระดับรู้สึกว่าสามารถเข้ามาพูดคุยกับเขาได้"
Hill เติบโตมาในสังคมที่กีฬาเป็นเครื่องมือช่วยสลัดภาพเด็กที่ไม่มีพ่อออกไป "ผมรู้สึกว่าตัวเองต้องพิสูจน์อะไรบางอย่างกับใครต่อใครเสมอ และสิ่งนี้ก็ซึมลึกอยู่ในหัว" เขาเล่า สุดท้ายเขาจึงเป็นเลิศในทุกด้าน ทั้งในฐานะประธานชั้นเรียนและประธานชมรมภราดรภาพ Phi Delta Theta "ผมผลักดันตัวเองเสมอ ไม่ใช่แค่ในเรื่องกีฬาด้วยนะ" อุปนิสัยชอบแข่งขันนำเขาขึ้นสู่ตำแหน่งอาวุโสขึ้นเรื่อยๆ ที่ Nike และระหว่างที่เขาเข้ารับหน้าที่เหล่านั้นก็ได้สร้างเส้นทางซึ่งกำหนดชีวิตของเขาขึ้นด้วย
นี่รวมถึงการเริ่มต้นครั้งที่ 2 ของเขาด้วย แม้จะใช้ชีวิตแอคทีฟหลังเกษียณอายุมาแล้วถึง 4 ปี Hill ก็ยังตระหนักดีว่าเขายังอยู่ในสนามแข่งขันที่ชื่อว่า Nike เสมอ เขามีงานยุ่งอยู่เสมอโดยมีบทบาทเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจและผู้ริเริ่มองค์กร Travis County Parks Foundation องค์กรไม่แสวงหากำไรที่สนับสนุนด้านการพัฒนาสวนสาธารณะในเมืองออสติน เท็กซัส แต่ความสนใจในแบรนด์ยังคงเดิม เรียกว่าเป็นความเคยชินที่ฝังลึกในร่างกายก็ได้ยัง เขาห้ามตัวเองไม่ให้คอยสังเกตแบรนด์สนีกเกอร์ที่ผู้คนสวมใส่เดินบนท้องถนนไม่ได้ "กระทั่งตอนเราไปท่องเที่ยวพักผ่อน เขาก็ยัง 'ผมขอเข้าไปดูว่ามีอะไรใหม่ใน Foot Locker หน่อยนะ'" Gina เล่าให้ฟัง

"ผมเกิดมาเพื่อทุ่มสุดตัว ผมเกิดมาเพื่อทำงาน ผมเกิดมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมแข่งขัน และเราต้องชนะเท่านั้น"
Elliott Hill, ประธานกรรมการและ CEO, NIKE, Inc.
นี่อาจเป็นเหตุผลที่เขากลับมาที่ Nike ได้อย่างราบรื่น เกษียณก็สบายดี แต่ "ผมเกิดมาเพื่อทุ่มสุดตัว ผมเกิดมาเพื่อทำงาน" เขาพูด "ผมเกิดมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมแข่งขัน และเราต้องชนะเท่านั้น"
Hill มีงานฟื้นฟูและเสริมสร้างวัฒนธรรมของแบรนด์รวมทั้งการก้าวขึ้นเป็นผู้ครองตลาดรออยู่ข้างหน้า ซึ่งทำให้เขาตื่นเต้นมาก งานนี้ทำให้เขายุ่งวุ่นวายพอตัว หลังจากจบการสัมภาษณ์ด้านนอกอาคารที่ Nike อุทิศให้แก่การพัฒนานวัตกรรมแห่งนี้ Hill ต้องไปต่อที่ Department of Nike Archives ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 5 ทศวรรษของบริษัทเอาไว้ ที่นั่น เขาจะเข้าชมนิทรรศการที่รวบรวมเรื่องราวของ Nike ในการแข่งขันโอลิมปิกปี 1984 ที่ลอสแอนเจลิส ซึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ส่งให้ Nike ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของวงการกีฬา เพื่อจุดประกายไอเดียในการผลักดันแบรนด์ให้เปล่งประกายอีกครั้งในโอลิมปิก LA28 เขาเป็นผู้นำประเภทที่รู้ดีว่า คุณจะไปต่อไม่ได้เลยหากไม่รู้จักตัวตนที่ผ่านมาของตัวเอง อดีตจะปลดล็อคอนาคต และ Hill มีกุญแจดอกนั้น












