• ดีไซน์

"เรารู้ว่าผู้หญิงต้องการบราแบบนี้มาตั้งนานแล้ว"

  • 9/5/2567

ช่วงเดือนเมษายนปี 2020 แทบทุกคืนวันธรรมดาในเวลา 20.00 น. Fanny Ho จะนั่งประจำหน้าโต๊ะในห้องนอนแขก พลางสลับไปมาระหว่างทำงานในแล็ปท็อป ใช้จักรเย็บผ้า และตัดเย็บรุ่นต้นแบบของสปอร์ตบราสำหรับให้นมลูกที่เธอทดลองใส่เอง โลกตกอยู่ในความวิตกกังวลและความไม่แน่นอน แต่เธอและทีมเมท Nike ยังมุ่งหน้าจัดการกับความต้องการอันเร่งด่วน นั่นคือ การมอบระบบซัพพอร์ตขั้นสุดให้เหล่าคุณแม่ โดยเฉพาะการรังสรรค์สปอร์ตบราที่จะช่วยให้พวกเธอขยับเคลื่อนไหวได้ตามต้องการและใช้ร่วมกับเครื่องปั๊มนมแบบสวมใส่ได้ด้วย นอกจากนี้ก็ต้องไม่ลดทอนเรื่องความสบายหรือการเสริมประสิทธิภาพเลย

"เวลาต้องรับมือกับสถานการณ์อย่างในช่วงโควิด เราจะหันไปทำสิ่งที่เชื่อว่าน่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุด" Ho ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายนวัตกรรมการดีไซน์กล่าว Ho ก็เป็นเช่นเดียวกับผู้คนอีกมากมายที่รับมือกับการระบาดด้วยการผลัดกันดูแลลูกกับสามี โดยเธอจะทำงานสองสามชั่วโมงแล้วค่อยกลับไปทำหน้าที่แม่ จากนั้นก็กลับไปทำงานต่อแล้วกลับมาออนไลน์อีกครั้งหลังกินมื้อเย็นและส่งลูกเข้านอนแล้ว "พอต้องจัดตารางเวลาแต่ละวันในลักษณะนั้น ฉันก็ถามตัวเองว่า โปรเจคต์ไหนกันที่ฉันทำแล้วน่าจะช่วยสนับสนุนคนแบบฉันได้"

Ho รู้ได้จากประสบการณ์ส่วนตัวว่า สำหรับคุณแม่ที่ออกกำลังกายด้วย ให้นมลูกและปั๊มนมด้วย สปอร์ตบราที่เหมาะใช้งานทั้ง 2 แบบนับว่าหาซื้อได้ยาก นอกจากนั้น การมีลูกก็มักจะทำให้คุณแม่จำนวนมากต้องเลิกเล่นกีฬาไป และการปั๊มนมก็อาจจะกลายเป็นความท้าทายใหญ่หลวงได้ เพราะคุณแม่มักจะต้องนั่งนิ่งๆ หลายชั่วโมงต่อวัน แม้ในหมวดสินค้าสำหรับคุณแม่จะเต็มไปด้วยบราให้นม แต่ Ho และทีม Nike พบว่าในบรรดาบราให้นมเสริมประสิทธิภาพที่มีอยู่ไม่กี่แบบนั้น แต่ละแบบล้วนรองรับได้ไม่ดีและยืดหยุ่นเกินไป หรือไม่ก็มีโครงสร้างเกินไปจนใส่ไม่พอดีกับเครื่องปั๊มนมแบบไม่ต้องใช้มือหรือขนาดเต้านมของคุณแม่ที่ให้นมซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงรายชั่วโมง "เราได้พูดคุยกับผู้หญิงนับไม่ถ้วนที่บอกว่าตัวเองต้องยอมเลือกแค่อย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างความสบายและการซัพพอร์ตอยู่เสมอ และไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนเลยที่ให้ทั้ง 2 อย่างได้" เธอกล่าว

เมื่อค้นพบช่องโหว่และความต้องการที่ชัดเจน Ho ก็ลงมือทำในสิ่งที่สมเป็นผู้หญิง คุณแม่ และพนักงาน Nike ผู้เปี่ยมไปด้วยแพสชั่น นั่นก็คือการมุ่งค้นคว้าหาทางออกให้เร็วที่สุด

"เวลาต้องรับมือกับสถานการณ์อย่างในช่วงโควิด เราจะหันไปทำสิ่งที่คิดว่าน่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุด"

การคิดค้นนวัตกรรมท่ามกลางอุปสรรค

นอกจากโลกจะชัตดาวน์ Ho ยังต้องเผชิญปัญหาใหญ่อีกเรื่อง นั่นก็คือเธอไม่เคยดีไซน์บรามาก่อนเลย

"ฉันเป็นดีไซเนอร์รองเท้ามา 17 ปีแล้ว และงานนี้เป็นอะไรที่ฉันไม่เคยทำมาก่อนเลย ฉันต้องตามหาเพื่อนพนักงาน Nike ที่มีแพสชั่นเดียวกันนี้จากฝ่ายดีไซน์เครื่องแต่งกาย แล้วก็ต้องเรียนรู้อะไรเยอะมากระหว่างทำงานจริง" เธอกล่าว "แต่เพราะแบบนั้นมันก็เลยน่าตื่นเต้นและทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าด้วย ฉันรู้โดยสัญชาตญาณว่าเราต้องทำอะไรบ้าง เพราะตัวเองก็เป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้าประเภทนี้"

เมื่อ 7 ปีก่อนตอนที่ Ho คลอดลูกชาย เธอให้นมลูกและปั๊มนมถึง 15 เดือน และได้สัมผัสด้วยตัวเองว่าการต้องอยู่ติดกำแพงเป็นอะไรที่ "แย่สุดๆ" ตอนที่กลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากลาคลอดไป เธอจึงหันมาทุ่มเทเต็มที่กับนวัตกรรมสำหรับผู้หญิง และหลังจากนั้น บรา Nike (M) Swoosh ก็ถือกำเนิด

Ho และสมาชิกทีมโปรเจคต์ของเธอพูดคุยทั้งกับนักกีฬาชั้นนำและบรรดาคุณแม่เกี่ยวกับคุณสมบัติที่พวกเธอต้องการในบราให้นมเสริมประสิทธิภาพ "ฉันคิดว่าข้อมูลเชิงลึกอย่างหนึ่งที่ทรงพลังมากๆ ก็คือการที่เราได้รู้ว่าผู้หญิงทั้ง 2 กลุ่มต่างต้องการสิ่งเดียวกัน แม้แต่นักกีฬาชั้นนำก็ต้องเผชิญความท้าทายของการรักษาสมดุลระหว่างกีฬาและการเป็นแม่"

หนึ่งในความท้าทายเหล่านั้นก็คือ การสวมบราให้นมแบบดั้งเดิมจะทำให้คุณแม่เคลื่อนไหวได้ไม่มาก โดยเฉพาะในตอนที่ปั๊มนม นอกจากนี้ แรงที่เกิดจากการเคลื่อนไหวและน้ำหนักของเครื่องปั๊มนมแบบสวมใส่ก็อาจมากเกินกว่าที่ตัวล็อคเปิด/ปิดของบราให้นมทั่วไปจะรับไหว "ถ้าเธอทำท่าลันจ์ ชิ้นส่วนพลาสติกเล็กๆ ตรงสายบราก็จะหัก" Ho กล่าว ทั้งทีมรู้ทันทีว่าต้องดีไซน์ฮาร์ดแวร์สำหรับบราให้นมขึ้นใหม่ และพวกเขาก็ได้ประสานงานกับพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบเชิงโครงสร้างของ Nike เพื่อรังสรรค์สิ่งที่ดีกว่าเดิม

บรา Nike (M) Swoosh มาพร้อมฮาร์ดแวร์ที่ได้รับสิทธิบัตรนั่นก็คือ ชิ้นส่วนทั้งสองที่ล็อคติดกันบนสายบรา ฮาร์ดแวร์นี้ออกแบบเชิงโครงสร้างมาโดยเฉพาะเพื่อให้สามารถรับน้ำหนักของเครื่องปั๊มนมแบบสวมใส่ได้ และทนต่อแรงที่เกิดจากการเคลื่อนไหวด้วย ตัวฮาร์ดแวร์นี้สามารถปลดออกได้อย่างรวดเร็วเมื่อต้องการให้นมลูก ส่วนสายรัดแบบสานด้านหน้าบราก็ใช้ดึงปรับไซส์คัพได้ง่าย หากต้องการให้สายบราหลวมขึ้น ก็แค่ยกตัวฮาร์ดแวร์ขึ้นเหมือนตอนที่ปรับสายสะพายของเป้สะพายหลังให้หลวม ฮาร์ดแวร์นี้บวกกับสายรัดปรับได้ที่ด้านหลังทำให้บรารุ่นนี้ขยายรับกับซี่โครงที่ขยายตัว จึงมั่นใจได้ว่าจะใส่พอดีตลอดการตั้งครรภ์และหลังคลอด

บรา Nike (M) Swoosh ทำงานอย่างไร

บรา Nike (M) Swoosh มาพร้อมฮาร์ดแวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าตัวล็อคจะแข็งแรงมากพอต่อการทำท่าลันจ์และท่าเบอร์ปีระหว่างปั๊มนม รวมถึงช่วยให้ปลดออกได้ง่ายเมื่อต้องการให้นมลูก และยังปรับเพิ่ม/ลดไซส์คัพได้มากถึง 2 คัพ

การใช้บราร่วมกับเครื่องปั๊มนมแบบสวมใส่

แม้ในหมวดสินค้าสำหรับคุณแม่จะเต็มไปด้วยสปอร์ตบรา แต่ทีม Nike และ Fanny Ho ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายนวัตกรรมการดีไซน์พบว่าในบรรดาบราให้นมเสริมประสิทธิภาพที่มีอยู่ไม่กี่แบบนั้น แต่ละแบบล้วนรองรับได้ไม่ดีและยืดหยุ่นเกินไป หรือไม่ก็มีโครงสร้างเกินไปจนใส่ไม่พอดีกับเครื่องปั๊มนมแบบไม่ต้องใช้มือหรือขนาดเต้านมของคุณแม่ที่ให้นมซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงรายชั่วโมง "เราได้พูดคุยกับผู้หญิงนับไม่ถ้วนที่บอกว่าตัวเองต้องยอมเลือกแค่อย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างความสบายและการซัพพอร์ตอยู่เสมอ และไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนเลยที่ให้ทั้ง 2 อย่างได้" เธอกล่าว

บรา Nike (M) Swoosh

"ทุกครั้งที่ฉันเข้าประชุมระดมความเห็น ถ้าในครั้งนั้นมีผู้หญิงหรือคุณแม่เข้าร่วมด้วย คุณจะเห็นเลยว่าพวกเธอพยักหน้าเห็นด้วย" Ho กล่าว "ต้องขอบคุณผู้หญิงมากมายในบริษัทที่ยกมือแล้วถามขึ้นว่า 'มีอะไรให้ช่วยไหม'"

บรา Nike (M) Swoosh

ตาข่ายที่ด้านหลังช่วยให้คุณแม่รู้สึกเย็นขณะเคลื่อนไหว ส่วนสายรัดปรับได้ที่ด้านหลังก็ขยายรับกับซี่โครงที่ขยายตัว

จิตวิญญาณการคิดค้นนวัตกรรมแบบผู้ประกอบการนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในตัว Ho และทีมของเธอ เพราะในขณะเดียวกัน ทีมนวัตกรรมรองเท้าของ Nike ก็กำลังง่วนอยู่กับโปรเจคต์ของพวกเขาเพื่อช่วยสนับสนุนคุณแม่ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น นั่นก็คือ Nike Reina EasyOn รองเท้ารุ่นแรกสำหรับช่วงตั้งครรภ์และหลังคลอดคู่นี้สามารถสวมได้โดยไม่ต้องใช้มือ และมาพร้อมแผ่นรองพื้นรองเท้าแบบปรับได้ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา โดยแผ่นรองนี้จะให้พื้นที่เพิ่มขึ้นบริเวณปลายเท้าสำหรับเท้าที่บวมขึ้น รองเท้า Nike Reina ก็เป็นโปรเจคต์แห่งแพสชั่นของพนักงาน Nike เช่นเดียวกับบรา (M) Swoosh

"ผมเป็น PLM มากว่า 10 ปีแล้ว โปรเจคต์นี้นับว่ามีความหมายที่สุดจากทุกโปรเจกต์ที่ผมเคยเข้าร่วมมาเลย เพราะครั้งนี้มันเป็นเรื่องที่ผมรู้สึกผูกพันมาก" Brenden McAleese ผู้จัดการสายผลิตภัณฑ์ชำนาญการฝ่าย Global Footwear กล่าว "เราเริ่มออกแบบรองเท้าตั้งแต่วันแรกที่ผมกลับมาทำงานหลังจากใช้สิทธิ์ลาหยุดไปดูแลลูกสาวที่เพิ่งเกิด ภรรยาผมเป็นคนทดลองใส่รุ่นต้นแบบตลอดช่วงท้องที่สอง นับว่าดีมากเลยที่เราได้ความเห็นแบบเรียลไทม์จากเธอ และได้รับรู้ว่ารองเท้ารุ่นนี้สร้างอิมแพคได้มากแค่ไหนสำหรับคนที่ผมผูกพันด้วยมากที่สุดในชีวิต รวมถึงการที่รุ่นนี้น่าจะช่วยสนับสนุนคุณแม่ทุกคนได้ในเส้นทางของพวกเธอ"

McAleese ยังเสริมอีกว่าแม้ในตอนนี้ลูกๆ จะอายุได้ 1 ขวบและ 2 ขวบครึ่งแล้ว ภรรยาของเขาก็ยังใส่ Nike Reina อยู่ "สองสามวันก่อนเธอแชทมาบอกผมว่า 'รองเท้าคู่นี้เป็นไอเท็มพลิกวงการเลย' แค่เพราะเธอสามารถใส่รองเท้าได้โดยที่มือข้างหนึ่งยังอุ้มลูกอยู่ และต้องพาลูกอีกคนออกจากบ้านด้วย"

รองเท้า Nike Reina EasyOn

26.2 ไมล์แห่งการยอมรับ

เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าบรา Nike (M) Swoosh ให้ประโยชน์ครบถ้วนตามที่คุณแม่ทั้งหลายต้องการ Ho และทีมของเธอจึงพานักกีฬาชั้นนำและนักกีฬาทั่วไปมาที่ Nike Sport Research Lab ซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของแบรนด์ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของรุ่นต้นแบบ แต่การท้าทายครั้งสำคัญที่สุดกลับอยู่ไกลออกไปเกือบ 3,000 ไมล์ บนท้องถนนของนครนิวยอร์ก

ภายในงานวิ่ง New York City Marathon ประจำปี 2021 นั้น Nike ได้ส่งนักวิ่งทั่วไปและคุณแม่ที่สวมใส่บรา Nike (M) Swoosh รุ่นต้นแบบเข้าร่วมงาน ซึ่งคุณแม่คนนี้ก็ได้ใช้บรารุ่นต้นแบบร่วมกับเครื่องปั๊มนมด้วยในระหว่างวิ่ง (3 ครั้งเลย!) "เราอยากให้เธอท้าทายขีดจำกัดของรุ่นต้นแบบและพิสูจน์ว่ารุ่นนี้เสริมประสิทธิภาพได้ด้วย ไม่ได้เป็นแค่บราที่ใส่แล้วเปลี่ยนผ้าอ้อมลูกและปั๊มนมไปพร้อมกันได้" Ho กล่าว "ภารกิจของเราคือการสนับสนุนเธอให้ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และสร้างแรงบันดาลใจให้คุณแม่คนอื่นๆ ไล่ตามความฝันต่อไป"

ไม่เพียงแค่บรา

สำหรับ Nike การรังสรรค์สินค้าอย่างบรา Nike (M) Swoosh, รองเท้า Nike Reina EasyOn และรองเท้า Nike Swoosh 1 (รองเท้าหัดเดินที่ล้ำนวัตกรรมที่สุดของแบรนด์ซึ่ง Ho ได้มาช่วยดีไซน์ด้วย) เป็นเรื่องของการมอบกลุ่มสินค้าที่ช่วยสนับสนุนคนเป็นพ่อแม่ในแบบองค์รวม การสนับสนุนนั้นเริ่มต้นที่บ้านและเริ่มจากพนักงาน Nike

เพื่อให้คุณแม่มือใหม่กลับมาทำงานหรือเล่นกีฬาได้ง่ายขึ้น ทีมนวัตกรรมและทีมสวัสดิการพนักงานของ Nike ได้ประสานงานกันเพื่อเพิ่มตัวเลือกในแพคเกจสวัสดิการของบริษัทให้สามารถเลือกเครื่องปั๊มนมแบบสวมใส่ได้หลายแบบมากยิ่งขึ้น      นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป Nike จะเพิ่มสิทธิ์ลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรเป็น 2 เท่าสำหรับพนักงานทุกคนในสหรัฐอเมริกา โดยจะให้สิทธิ์ลาหยุดแบบยังได้รับค่าจ้าง 16 สัปดาห์สำหรับพนักงานฟูลไทม์และพาร์ทไทม์ทุกคนตั้งแต่ฝั่งองค์กรไปจนถึง Retail เพื่อให้พ่อแม่มีเวลาสร้างความผูกพันกับบุตรคนใหม่ทั้งจากการคลอด การรับบุญธรรม และการอุปถัมภ์

"ข้อมูลจากผู้หญิงทุกคนที่เราได้พูดคุยด้วยทำให้เรารู้ว่า พวกเธอต้องการสิ่งนี้มาตั้งนานแล้ว"

Ho ปรารถนาจะได้รับการสนับสนุนเช่นนี้ในสมัยก่อนตอนที่เธอกำลังตั้งครรภ์ ความรู้สึกนั้นเองที่ผลักดันให้เธอและทีมที่ไม่ย่อท้อจากทั่วทั้งองค์กร Nike รังสรรค์และเปิดตัวบรา Nike (M) Swoosh สู่ตลาดอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

"ไม่มีโปรเจคต์ไหนที่ฉันทุ่มเทให้มากเท่านี้" เธอกล่าว "ข้อมูลจากผู้หญิงทุกคนที่เราได้พูดคุยด้วยทำให้เรารู้ว่า พวกเธอต้องการสิ่งนี้มาตั้งนานแล้ว"

Ho ยังเสริมอีกว่า ผลลัพท์ที่ได้นั้นเป็นยิ่งกว่าบราให้นมเสริมประสิทธิภาพอันเหนือชั้น แต่เป็นความรู้สึกของผู้ได้รับการส่งเสริมสนับสนุน

"เราอยากให้บราตัวนี้ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้หญิงกล้าพูดว่า 'ดูสิ ฉันกำลังปั๊มนมและออกกำลังกาย ฉันภูมิใจที่เป็นแม่ ภูมิใจที่เป็นนักกีฬา และฉันก็เป็นทั้ง 2 บทบาทได้ในเวลาเดียวกัน'"

  • เรื่องราว
  • ผลกระทบ
  • บริษัท
  • ห้องข่าว
      • © 2024 NIKE, Inc. สงวนลิขสิทธิ์