Nike Air ช่วยให้นักกีฬาได้เปรียบทั้งในลู่วิ่ง ในคอร์ท และในสนาม

"ตอนที่เปิดตัว Alphafly ทุกคนทึ่งมากกับการนำ Air Zoom มาใช้เป็นครั้งแรก" Tony Bignell รองประธานฝ่ายบริหารแผนกรองเท้าวิ่งกล่าว "ความเห็นแตกกันไปคนละทาง แต่ด้วยงานวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญของเราจากห้องทดลองระดับโลกอย่าง Nike Sport Research Lab และการรับรองผลจาก Eliud Kipchoge นักวิ่งมาราธอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้เรามีหลักฐานว่านี่คือรองเท้าที่มีประสิทธิภาพ ตอบสนองได้ดี และส่งแรงกลับได้ในระดับที่เรียกว่าดีที่สุดในวงการ ระบบความเร็วของเราที่ประกอบด้วยโฟม ZoomX, แผ่นคาร์บอน และส่วน Air Zoom ก็ยังคงเป็นแต้มต่อให้ Nike เหนือคู่แข่งเจ้าอื่นๆ ต่อไป"

ตั้งแต่ที่ Eliud และรุ่นต้นแบบของรองเท้าระดับตำนานอย่าง Nike Alphafly ข้ามเส้นชัยมาราธอนภายในเวลา 1:59:40 มาได้นั้น Alphafly 3 ก็ได้พัฒนาเรื่อยมาจนกลายเป็นรองเท้ารุ่นที่เบาที่สุดเท่าที่เคยมีและยังมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยสำหรับ Nike Alphafly 3 ได้มีการเปลี่ยนพื้นรองเท้าแบบแยกส่วนให้เป็นพื้นแบบต่อเนื่องที่เชื่อมส่วนส้นและปลายเท้าถึงกัน ทำให้ตอนนี้ไม่ว่านักวิ่งจะลงเท้าตำแหน่งใด ก็จะได้การถ่ายน้ำหนักที่ลื่นไหลในทุกความเร็ว รูปทรงที่มีน้ำหนักเบาหวิวของ Alphafly 3 เป็นผลมาจากการรับฟังความเห็นของกลุ่มทดสอบที่ใหญ่ที่สุด (ตั้งแต่นักวิ่งทั่วไปจนถึงนักวิ่งมาราธอนระดับท็อป) ตลอดทั้งกระบวนการออกแบบ (ตั้งแต่ความเห็นเกี่ยวกับแบบเร็นเดอร์ 3 มิติรุ่นแรกๆ ไปจนถึงรุ่นต้นแบบที่จับต้องได้) ซึ่งด้วยคำแนะนำจากนักกีฬาอย่าง Eliud ดีไซเนอร์ของ Nike จึงรู้ว่าควรเลาะโฟมในพื้นรองเท้าชั้นกลางและส่วนส้นของ Alphafly ออกแล้วใช้ในส่วนที่จำเป็นต่อนักวิ่งเท่านั้น ทำให้น้ำหนักไปรวมอยู่ที่ส่วน Air Zoom ปลายเท้าเพื่อให้นักวิ่งทุกคนใช้งานส่วนนี้ได้เต็มที่มากขึ้น

ตลอดการวิวัฒนาการของ Alphafly มีเพียงเทคโนโลยีเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยน นั่นคือ Air Zoom "เราปรับแก้องค์ประกอบอื่นๆ ของรองเท้าเพื่อให้คุณใช้งานส่วน Air ทั้งสองส่วนที่ปลายเท้าได้ดียิ่งขึ้น จนในที่สุด Air จะช่วยลดภาระให้คุณได้มากกว่าเดิม" Bignell กล่าว นี่เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า เมื่อมีของดีอยู่แล้วก็ไม่ต้องเปลี่ยน แค่ปรับปรุงให้ดีขึ้นก็พอ

และเราก็มาถูกทางกับตรรกะนี้ ในงาน Chicago Marathon ปี 2023 "Sifan Hassan" นักกีฬา Nike ผู้ใส่ Alphafly 3 รุ่นต้นแบบในช่วงพัฒนาสินค้าอย่างเป็นทางการนั้น ทำเวลาได้เร็วเป็นอันดับสองในการแข่งมาราธอนหญิงตลอดกาล ขณะที่ "Kelvin Kiptum" นักกีฬา Nike ผู้ล่วงลับไปแล้ว ได้สร้างสถิติโลกใหม่ในการแข่งมาราธอนชาย

Nike พยายามปรับปรุงระบบสร้างความเร็วและใช้ Air เป็นพลังขับเคลื่อน เพื่อช่วยกลุ่มนักกรีฑาตัวเต็งของแบรนด์ทุบสถิติในการแข่งระยะต่างๆ ตั้งแต่วิ่งระยะสั้นไปจนถึงวิ่งระยะไกล

ส่วน Air Zoom ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในรองเท้ากรีฑาพื้นตะปูของ Nike ในปี 2020 เพื่อมอบนวัตกรรมลดแรงกระแทกระดับพลิกวงการให้นักกีฬาเป็นครั้งแรก แต่ครั้งนี้ที่งานแข่งกีฬาปี 2024 ที่ปารีส รองเท้าพื้นตะปูสำหรับนักวิ่งระยะสั้น 100-400 เมตรอย่าง Nike Maxfly 2 และรองเท้าพื้นตะปูสำหรับระยะทางปานกลางเพื่อนักวิ่ง 800-1500 เมตรอย่าง Nike Victory 2 ได้มีการปรับให้ส่วนสัมผัสพื้นมีลักษณะแบนราบมากขึ้น เพื่อการทรงตัวได้ดีขึ้นจากการเพิ่มพื้นที่สัมผัส โดยยังคงส่งแรงกลับในแบบที่มีเพียง Nike Air เท่านั้นที่สามารถทำได้  รายละเอียดเส้นทแยงที่มีความเด่นชัดทำหน้าที่เป็นฐานรองรับข้างเท้าด้านใน ช่วยเสริมการทรงตัวสำหรับทั้ง Maxfly 2 และ Victory 2 และทำให้นักวิ่งมีแรงส่งจากการลงเท้าอย่างเต็มพลังไปพร้อมกับให้ความมั่นคงระหว่างเข้าทางโค้ง

"เทคโนโลยี Nike Air ไม่ได้แค่เปลี่ยนความเร็วในการวิ่งของนักกีฬา แต่ยังพลิกโฉมกีฬาลู่และลานไปเลย" Dr. Emily Farina หัวหน้านักวิจัยใน NSRL กล่าว "เพราะหลังจากที่มีการนำ Air Zoom มาใช้ใน Maxfly และ Victory นักกีฬาก็ได้รองเท้าพื้นตะปูที่ช่วยลดแรงกระแทก จนถึงขั้นทำให้บางคนอยากลองวิ่งในระยะทางที่ตนเองไม่เคยลองมาก่อน"

สถิติปีที่แล้วพิสูจน์ชัดถึงประสิทธิภาพของ Air โดยในปี 2023 นักกีฬาลู่และลานและนักมาราธอนสามารถทำลายสถิติโลกได้ถึง 9 ครั้ง  ซึ่งเป็นนักกีฬา Nike ไปแล้วถึง 8 รายการในการแข่งวิ่งตั้งแต่ระยะ 1500 เมตรไปจนถึงมาราธอน   นอกจากนี้ ในงาน World Outdoor Track & Field Championships ปี 2023 นักกีฬาของ Nike ยังได้เหรียญไปมากถึง 50% อีกด้วย

Nike ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ตนเองเป็นกรรมสิทธิ์นี้ด้วยความแม่นยำและความคิดสร้างสรรค์ "Air นำมาประยุกต์ใช้ได้มากมาย  เป็นได้ทั้งระบบลดแรงกระแทกที่ประสิทธิภาพการป้องกันเป็นเลิศ และยังเป็นระบบลดแรงกระแทกที่ตอบสนองได้ดีที่สุดอีกด้วย" Leo Change ผู้อำนวยการอาวุโสแผนกนวัตกรรมการออกแบบผลิตภัณฑ์รองเท้าวิ่งกล่าว "เรามีส่วน Air ที่รูปร่างและการพองตัวต่างกันหลายชนิด เพราะรูปร่างและขนาดมีผลต่อการใช้งาน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนมีน้ำหนักน้อยและต้องการใช้งาน Air มากขึ้น หรือเป็นคนเล่นกีฬา/ทำกิจกรรมที่มีความต้องการเฉพาะ"

นักวิจัยของ Nike ทราบดีว่านักกีฬาบาสเก็ตบอลต้องการการส่งแรงกลับในระดับสูงสุดตั้งแต่เริ่มจนจบเกม ซึ่งเมื่อพิจารณาจากโจทย์นี้แล้วจึงได้สร้าง G.T. Hustle 3

Dr. Elysia Davis หัวหน้านักวิจัยของ Nike กล่าวว่า การพัฒนาทั้งหมดของรองเท้าคู่นี้ล้วนกลับมาสู่การหาทางเพิ่มประสิทธิภาพการส่งแรงกลับให้นักกีฬา การหาน้ำหนักที่เหมาะสม และการปรับปรุงความสบายโดยรวม ผลลัพธ์ที่ได้คือ "Nike กล้ารับประกันได้ว่า 'G.T. Hustle 3 จะช่วยประหยัดพลังงานให้คุณได้แน่นอน" Davis กล่าว "ศูนย์วิจัย Nike Sport Research Lab (NSRL) ของเราพบว่านักกีฬาใช้ออกซิเจนน้อยลงขณะสวม G.T. Hustle 3 เมื่อเทียบกับการใช้แรงเท่ากันแต่ใส่ G.T. Hustle 2" การเซฟพลังงานได้อย่างแน่นอนนี้มีความสำคัญสำหรับผู้เล่นทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นมืออาชีพหรือเล่นเอาสนุก เธอกล่าวเสริม

กุญแจสำคัญที่นำมาสู่ผลลัพธ์ทางวิทยาศาสตร์นี้คือส่วน Nike Air Zoom ใหม่ที่ปลายเท้า ซึ่งออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการของกีฬาบาสเก็ตบอลโดยเฉพาะ ส่วน Air Zoom ใหม่นี้จะทำงานกับ Nike Air Zoom Strobel ที่เย็บติดเข้าไปเพื่อสร้าง Air สองชั้นใต้ฝ่าเท้าที่จะช่วยกักเก็บและส่งแรงกลับได้ดีขึ้น ส่วน Air Zoom ที่ปลายเท้ายังจับคู่กับส่วนส้นที่นุ่มและคืนตัวได้ดี โดยมีความต่างระหว่างปลายเท้าและส้น (ออฟเซ็ต) ที่สูงขึ้นเพื่อช่วยในการถ่ายน้ำหนักจากส้นเท้าไปสู่ปลายเท้าได้อย่างลื่นไหล สำหรับส่วนบน Nike Radial Knit เป็นผ้าถักแบบใหม่ที่นุ่ม น้ำหนักเบา และระบายอากาศได้ดี เพื่อมอบการรองรับและความกระชับแบบแยกตามโซนโดยไม่เพิ่มน้ำหนัก

ความพิเศษของเรื่องราวเกี่ยวกับ G.T. Hustle 3: NSRL ของ Nike วิจัยรองเท้าโดยให้ผู้หญิงนำทีมตั้งแต่เริ่มต้น

"ฉันคิดว่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับการสร้างนวัตกรรมเพื่อผู้หญิงนี้เป็นเรื่องราวที่ทรงพลังมาก เราไม่ได้แค่จะสร้างรองเท้าอีกคู่ให้มีสีต่างออกไป" Davis กล่าว "แต่มันคือการรับฟังมุมมองของผู้หญิงต่อเรื่องกีฬาแล้วปรับตามข้อเสนอหรือคำชี้แนะที่ได้รับ สิ่งนี้ไม่ได้ช่วยให้เราสร้างรองเท้าบาสเก็ตบอลที่ดีที่สุดของผู้หญิงเท่านั้น แต่เป็นการสร้างรองเท้าบาสเก็ตบอลที่ดีที่สุดของทุกคน"  

เพื่อตอบสนองความต้องการของนักกีฬาฟุตบอล Nike จึงได้นำนวัตกรรม Air แบบเดียวกันมาปรับเปลี่ยนแนวทางจากการวิ่งบนคอร์ทบาสเก็ตบอลเป็นการวิ่งในสนามฟุตบอล โดยที่ก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ไปด้วย

หนึ่งความท้าทายที่เราได้เจอคือข้อจำกัดทางคุณสมบัติ เวลาเล่นบาสเก็ตบอลนักกีฬาจำเป็นต้องวิ่ง กระโดด และเปลี่ยนทิศทาง ซึ่งระบบลดแรงกระแทกจากส่วน Air Zoom สามารถเพิ่มความหนาเพื่อตอบโจทย์นี้ได้ เช่น G.T. Hustle 3 มีความหนา 30 มม. แต่ในการเล่นฟุตบอลนักกีฬาจะต้องอยู่ต่ำติดพื้นให้มากที่สุดและจะต้องสามารถหยุด เร่งความเร็ว หรือวิ่งตัดในทุกทิศทางได้อย่างรวดเร็วบนพื้นสนามที่นุ่มและดูดซับแรง ยิ่งไปกว่านั้น นักฟุตบอลทั่วไปยังมองว่ารองเท้าฟุตบอลพื้นแข็งเป็นรองเท้าที่มีโครงสร้างดีกว่า การเพิ่มส่วนลดแรงกระแทกจะทำให้รองเท้านุ่มไปและเล่นได้ยากขึ้น

ในการออกแบบ Air ให้เหมาะกับนักฟุตบอล Nike ใช้วิธีเก็บพลังงานไว้ในแพคเกจขนาดเล็ก นั่นหมายถึงการสร้าง Air Zoom Strobel ให้หนา 4 มม.ในปี 2022 แฟรนไชส์ Mercurial ได้นำ Air Zoom นี้กลับมาใช้ในรองเท้าฟุตบอลอีกครั้ง โดยเป็นส่วน Air สำหรับฟุตบอลโดยเฉพาะเป็นครั้งแรก และเสียงตอบรับก็ค่อนข้างท่วมท้น นักกีฬา Nike อึ้งมากกับปริมาณการส่งแรงกลับที่ได้จากการเล่น ความไว้ใจในแบรนด์ของนักกีฬาทำให้บริษัทกล้านำนวัตกรรมใหม่ๆ มาปรับใช้กับสินค้าจนประสบความสำเร็จได้

สำหรับงานแข่งที่ปารีสฤดูร้อนนี้ ทีม Nike ตั้งเป้าว่าจะทำให้รองเท้าของตนที่เร็วอยู่แล้วมีคุณภาพดีขึ้นไปอีกเพื่อนักกีฬาของแบรนด์ การปรับปรุงนวัตกรรม Air ทำให้ Nike Air Zoom Mercurial ปี 2024 มีการส่งแรงกลับมากขึ้น 10% เมื่อเทียบกับรองเท้าฟุตบอลรุ่นก่อน

นี่เป็นอีกครั้งที่ทีม Nike ใช้วิธีเพิ่มประสิทธิภาพ Air โดยเอาร่องดอกยางออกจากส่วน Air Zoom Strobel พร้อมเพิ่มโซนยืดหยุ่นที่เข้ากันใต้ฝ่าเท้าของ Mercurial ปี 2024 การเอาร่องดอกยางออกทำให้ดีดตัวกลับได้มากที่สุด ขณะที่การเพิ่มโซนยืดหยุ่นที่ปลายเท้าออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักกีฬาเข้าถึงส่วน Air Zoom ได้มากขึ้น ในส่วนใต้ฝ่าเท้า แผ่นรองและดีไซน์สตั๊ดของ Mercurial ปี 2024 ก็ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มการใช้งานส่วน Air ที่กลางเท้า ทั้งยังมีการยึดเกาะของ Mercurial ที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว นอกจากนี้ ลายเชฟรอนและรูปแบบสตั๊ดใบมีดช่วยให้นักกีฬาเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกทิศทาง และวิ่งตัดได้ทันทีขณะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วรอบๆ สนาม 

นักฟุตบอลหลายคนย้ำถึงความสำคัญของรองเท้าว่าจะต้องใส่แล้วเป็นธรรมชาติ เหมือนเป็นส่วนขยายของเท้า และจะเล่นได้ดีที่สุดเมื่อรองเท้าขยับตามการเคลื่อนไหวและไม่รู้สึกติดขัด หลังจากรับฟังนักกีฬาแล้ว Nike ก็ทุ่มเทกับการทำให้ Mercurial ปี 2024 มีความกระชับเข้ากับเท้ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทีมงานได้ลดขนาดส่วนบนลงจากการใช้วัสดุ 5 ชั้นเหลือเพียง 3 ชั้น ทำให้รองเท้านุ่มและเบาขึ้น ซึ่งวิธีนี้ทำให้ความหนาของส่วนบนลดลงเกือบ 30% เพื่อให้รับกับรูปเท้าของนักกีฬาได้ง่ายขึ้น ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม  

และสุดท้าย ชั้นบุที่ออกแบบเชิงโครงสร้างถูกจัดวางไว้ในรองเท้าอย่างเป็นระบบ เพื่อให้แน่ใจว่าจะล็อคกระชับเข้าที่ในจุดที่ผู้เล่นต้องการมากที่สุด และสำหรับจุดที่ไม่จำเป็นต้องมีการยึดเกาะหรือความล็อคกระชับ Nike ได้เปิดตัว AtomKnit ซึ่งเป็นเส้นด้ายทนทานน้ำหนักเบาที่ใช้บ่อยในรองเท้ากรีฑาพื้นตะปูชั้นนำของแบรนด์ ซึ่งจะช่วยผ่อนน้ำหนักออกเพื่อให้ผู้เล่นเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วมากกว่าเดิม 

ว่าด้วยอนาคตของ Air ตอนนี้อนาคตของ Air กำลังเกิดขึ้นแล้ว เพราะ Nike ได้นำเทคโนโลยีล่าสุดในปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเครื่องมือดิจิทัลระดับสูงมาใช้เพื่อร่วมกันสร้างสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครร่วมกับนักกีฬาของเราผ่าน A.I.R. หรือ Athlete Imagined Revolution นี่คือผลผลิตร่วมกับนักกีฬาผู้มีวิสัยทัศน์ 13 คนที่จินตนาการถึงอนาคตของ Air โดยการใช้ AI และเครื่องมืออัลกอริทึมต่างๆ อย่างประณีตและการนำความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ ความเข้าอกเข้าใจในเชิงสร้างสรรค์ และความอยากรู้อยากเห็นด้านการออกแบบของ Nike ที่ไม่เหมือนใครมาใช้กับ A.I.R. นั่นเพราะ Nike ไม่เพียงแค่รับฟังนักกีฬาของแบรนด์แต่ยังเพิ่มศักยภาพให้ด้วย

John Hoke ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมของ Nike กล่าวว่า "A.I.R. ถูกขับเคลื่อนผ่านความเป็นตัวบุคคลขั้นสูง การร่วมงานกันอย่างไร้ขอบเขต และความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีใครเทียบ โดยมีความเป็นไปได้อันไร้สิ้นสุด เราจะสร้างนวัตกรรมที่เหนือชั้นยิ่งกว่าโดยใช้ขุมพลังของข้อมูล การออกแบบ และความฝัน เราจะเปิดตัวกีฬายุคใหม่ที่แตกต่างจากเดิม อันเป็นการผสมผสานศิลปะและวิทยาศาสตร์ในที่ที่นวัตกรรมไม่มีขีดจำกัด"

Nike Maxfly 2 และ Nike Victory 2 วางจำหน่ายแล้วในจำนวนจำกัดที่ nike.com Nike G.T. Hustle 3 และ Nike Air Zoom Mercurial ปี 2024 จะพร้อมจำหน่ายที่ nike.com และร้านค้าปลีกบางแห่งในเดือนกรกฎาคม

คลิกเข้าชมแกลเลอรีด้านล่างเพื่อดูและเรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรม Nike Air ล่าสุด