• ห้องข่าว

Nike Kiger และ ReactX Wildhorse 10 ใหม่แสดงถึงหนึ่งทศวรรษของการตอบโจทย์นักวิ่งสายลุย

  • 29/8/2567

เรื่องที่ควรรู้

  • ตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา Nike Trail ได้พัฒนาชุดรองเท้าวิ่งออฟโร้ดระดับเวิลด์คลาสขึ้นมา 8 รุ่น โดยมีแฟรนไชส์ดั้งเดิมอย่าง Kiger และ Wildhorse คอยอยู่เคียงข้างตลอดเส้นทางนั้น พร้อมกับตอบโจทย์ความต้องการของนักวิ่งเทรลด้วยนวัตกรรมที่มีความสม่ำเสมอตลอดหลายปี
  • Kiger 10 เป็นหนึ่งในรองเท้าเทรลที่เรียบง่ายและน้ำหนักเบาที่สุดของ Nike ในปัจจุบัน โดยมาในซิลลูเอททรงกว้างบางที่รังสรรค์มาเพื่อการแข่งขันเทรลไม่เกิน 50K
  • ส่วน ReactX Wildhorse 10 ก็ให้การยึดเกาะอย่างเหลือล้น การตอบสนองที่ลดแรงกระแทก และความกระชับที่วางใจได้ ในซิลลูเอทที่ใส่ได้ทุกวันและรับมือได้ทุกสถานการณ์ตั้งแต่การวิ่งเทรนนิ่งระยะสั้นไปจนถึงการฝึกซ้อม 100K
  • Kiger และ Wildhorse 10 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งนวัตกรรมเทรลของ Nike จะวางจำหน่ายทั่วโลกในเดือนเมษายน 2025

Nike Trail แสดงถึงหนึ่งทศวรรษของการตอบโจทย์นักกีฬาสายลุยทั่วโลกด้วยการประกาศวางจำหน่ายซิลลูเอท Kiger และ ReactX Wildhorse 10 ซึ่งเป็นโมเดลเสริมที่ดีไซน์มาเพื่อให้มีสเปคตรงใจนักวิ่งสายเทรลทั่วโลก

Nike เปิดตัวแฟรนไชส์โมเดิร์นเทรลนี้เมื่อปี 2014 ปรับแต่งโดยใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากระบบลดแรงกระแทกบนพื้นถนนและในการแข่งขัน รวมถึงใช้นวัตกรรมออฟโร้ดที่มีมาตั้งแต่ยุค 80 เพื่อส่งพลังให้นักวิ่งเพลิดเพลินไปกับโลกธรรมชาติพร้อมการปกป้องและเสริมประสิทธิภาพระดับแนวหน้า ผ่านมาหนึ่งทศวรรษ แบรนด์ก็ได้พัฒนาชุดรองเท้าวิ่งเทรลระดับเวิลด์คลาส 8 รุ่นที่ออกแบบเชิงโครงสร้างมาให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มตลาดที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมนี้

Kiger และ Wildhorse ซึ่งเป็นแฟรนไชส์เทรลดั้งเดิมของ Nike ตอบโจทย์ความต้องการของนักวิ่งเทรลในยุคนี้ พร้อมด้วยนวัตกรรมที่มีความสม่ำเสมอตลอดหลายปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Nike ที่มีต่อนักกีฬาผู้ซึ่งไล่ตามหาจุดเริ่มต้นใหม่เมื่อวิ่งไปจนสุดทาง

"สิ่งหนึ่งที่ฉันชื่นชมเสมอเกี่ยวกับ Nike Trail คือการที่ทุกคนที่มีส่วนร่วมในแบรนด์ต่างก็คิดกันอยู่เสมอว่า 'เราจะทำให้ดีขึ้นกว่านี้ได้อย่างไร เราจะสร้างนวัตกรรมที่ล้ำกว่านี้ได้อย่างไร เราจะล้ำหน้ากว่าคนอื่นได้อย่างไร และสิ่งที่นักกีฬาต้องการจริงๆ คืออะไร'" Sally McRae นักวิ่งอัลตร้ามาราธอนผู้เป็นนักกีฬา Nike Trail มานานกว่าทศวรรษกล่าว "ฉันชอบที่การเป็นนักกีฬา Nike Trail ทำให้ฉันได้มีส่วนร่วมในกระบวนการนั้น ทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะสร้างรองเท้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดและทำให้กีฬาประเภทนี้ก้าวหน้าต่อไปได้"

Nike รู้ดีว่าเส้นทางเทรลอาจเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่การวิ่งของนักกีฬาในทุกพื้นเพ ดังนั้น Kiger และ Wildhorse โมเดลใหม่จึงเป็นการผสมผสานที่สร้างแรงบันดาลใจโดยมีทั้งความสบายและการเสริมประสิทธิภาพเพื่อการวิ่งเทรนนิ่ง อัลตร้ามาราธอน และอื่นๆ นอกเหนือจากนั้น

Kiger 10 เป็นหนึ่งในรองเท้าเทรลที่เรียบง่ายและน้ำหนักเบาที่สุดของ Nike ในปัจจุบัน โดยมาในซิลลูเอททรงกว้างบางที่รังสรรค์มาเพื่อการแข่งขันเทรลไม่เกิน 50K

ส่วน Kiger รุ่นที่กำลังจะมานี้เป็นรุ่นแรกของไลน์สินค้าที่มาพร้อมกับพื้นรองเท้าชั้นนอก Vibram Megagrip ซึ่งให้ทั้งความทนทานและการยึดเกาะที่เหนือชั้นโดยเน้นที่บริเวณส้นและปลายเท้าที่มีการสึกหรอสูง ดีไซน์ปุ่มยาง 3.5 มม. แบบหลายทิศทางช่วยให้การยึดเกาะสำหรับนักวิ่งในขณะไต่ขึ้นเส้นทางเทรล จากนั้นก็ยั้งตัวได้อย่างมั่นใจเมื่อกลับลงมาแม้ในสภาวะเปียกแฉะ

ส่วนป้องกันหินที่ปลายเท้าช่วยเพิ่มความมั่นใจ ไม่ว่าจะเจอสภาพภูมิประเทศแบบใด และพื้นรองเท้าชั้นกลาง Cushlon 3.0 ที่ตอบสนองได้ดีก็ช่วยเสริมการปกป้องใต้ฝ่าเท้าให้กับนักวิ่ง

ขณะเดียวกัน ส่วนบนจากผ้าทอ Leno สุดเฉียบมาพร้อมกับความทนทาน การระบายอากาศ และโซนกระชับเท้า ช่วยให้การปกป้องและเสริมประสิทธิภาพในจุดที่นักวิ่งต้องการมากที่สุด รวมถึงการระบายน้ำที่ยอดเยี่ยมก็ช่วยให้รักษาเพซไว้ได้แม้วิ่งในสภาวะที่เฉอะแฉะที่สุด ส่วนหุ้มข้อนุ่มช่วยเพิ่มความสบายและช่องรัดกระชับที่ส้นช่วยให้เท้ากระชับเข้าที่เสมอ

"ถ้าคุณกำลังมองหารองเท้าทรงกว้างบางที่ว่องไวและลุยได้ทุกสภาพภูมิประเทศจนถึง 50K หรือราวๆ นั้น รองเท้าคู่นี้คือคู่ที่ใช่สำหรับคุณ" Bailey Kowalczyk ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิ่งต่ำกว่าอัลตร้ามาราธอนกล่าว นอกจากนี้เธอยังเป็นนักกีฬา Nike Trail และเป็นต้นแบบแรงบันดาลใจของแบรนด์สำหรับซิลลูเอท Kiger ด้วย "คู่นี้ให้ความรู้สึกเร็ว แม่นยำ และมั่นคงบนทุกพื้นผิวตั้งแต่พื้นราบไปจนถึงทางลาดชัน รวมถึงสภาพภูมิประเทศที่ท้าทาย และฉันกล้าพูดได้เลยว่านี่คือรองเท้าเสริมประสิทธิภาพคู่ที่ใช่สำหรับการแข่งเทรลไม่เกิน 50K  "

ในขณะที่ Kiger 10 สุดคล่องตัวมาคู่กับรองเท้าแข่ง Ultrafly รุ่นเรือธงของ Nike Trail เพื่อเป็นโครงสร้างรองเท้าสาย Rapid ให้กับแบรนด์ ReactX Wildhorse 10 ก็มาคู่กับ Zegama 2 สุดแกร่งเพื่อเป็นโมเดลออฟโร้ดประเภทสมบุกสมบันให้กับแบรนด์

ด้วยการยึดเกาะอย่างเหลือล้น การตอบสนองที่ลดแรงกระแทก และความกระชับที่วางใจได้ Nike อัพเกรด Wildhorse ให้รองรับการใช้งานเทรลได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่การวิ่งเทรนนิ่งระยะสั้นในละแวกบ้านไปจนถึงการฝึกซ้อม 100K บนทางลาดชัน

แพ็ค Wildhorse Pack โฉมใหม่มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ทำให้ซิลลูเอทนี้รับมือได้ในแทบทุกสถานการณ์เทรลที่ท้าทาย มาพร้อมกับชั้นโฟมสูงขึ้น 3 มม. ส่วนป้องกันหินที่ปลายเท้า และส่วนปกป้องปลายเท้าปรับโฉมใหม่ และทั้งหมดนี้ยังมีน้ำหนักเบาลงกว่ารุ่นก่อน 35 กรัม

โฟม ReactX ที่ใช้งานได้ยาวนานของ Nike ช่วยส่งแรงกลับได้มากขึ้น 13% ขณะเดียวกันพื้นรองเท้าชั้นกลางก็ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้อย่างน้อย 43% เมื่อเทียบกับโฟม Nike React นอกจากนี้พื้นรองเท้าชั้นนอก All-Terrain Compound ยังมาพร้อมดอกยาง 4 มม. เพื่อความทนทานและการยึดเกาะดีเยี่ยมในทุกสภาวะ

ทั้งหมดประกอบกันออกมาเป็นซิลลูเอทที่ทนทานและไว้วางใจได้ ซึ่งจะช่วยให้นักวิ่งสามารถพิชิตเป้าหมายของตน ไม่ว่าจะเตรียมพร้อมออกวิ่งเทรล 5K หรือมุ่งพิชิตอัลตร้ามาราธอนครั้งต่อไป

"Wildhorse เป็นรุ่นที่พิเศษมากสำหรับฉัน เป็นรุ่นที่ฉันไว้ใจได้เสมอ ไม่ว่าจะเจอสภาพอากาศหรือภูมิประเทศแบบไหน Wildhorse ก็ยังมีประสิทธิภาพ เอาอยู่ และลุยได้เต็มที่" Sally ผู้เป็นต้นแบบแรงบันดาลใจให้กับซิลลูเอท Wildhorse ของ Nike Trail มาเนิ่นนานกล่าว "ฉันจะวิ่งแข่งระยะ 200 ไมล์ครั้งต่อไปพร้อมกับ Wildhorse เพราะฉันทั้งชอบโมเดลใหม่นี้มากๆ และอยากให้นักกีฬาเห็นว่าเราฝันให้ไกลได้โดยไม่ต้องใส่รองเท้ารุ่นเรือธงที่แพงที่สุด"

รุ่นที่ 10 ของ Kiger และ Wildhorse ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งนวัตกรรมเทรลของ Nike จะวางจำหน่ายทั่วโลกในเดือนเมษายน 2025

Nike Kiger และ ReactX Wildhorse 10 ใหม่แสดงถึงหนึ่งทศวรรษของการตอบโจทย์นักวิ่งสายลุย

Asset
  • เรื่องราว
  • ผลกระทบ
  • บริษัท
  • ห้องข่าว
      • © 2024 NIKE, Inc. สงวนลิขสิทธิ์