เสียงของผู้ปฏิบัติงาน

โปรแกรมสองระยะนี้ถือเป็นแกนหลักของงานเราในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและความเป็นอยู่ที่ดีที่ได้รับการปรับปรุงตลอดซัพพลายเชนของเรา ในระยะที่หนึ่ง ซัพพลายเออร์จะทำงานร่วมกับผู้ให้บริการที่ได้รับการอนุมัติจาก NIKE เพื่อนำแบบสำรวจการมีส่วนร่วมและความเป็นอยู่ที่ดี (EWB)  ของ NIKE ไปปรับใช้กับกลุ่มตัวอย่างพนักงานที่มีนัยสำคัญทางสถิติ เพื่อกำหนดค่าพื้นฐานสำหรับระดับการมีส่วนร่วมในปัจจุบัน แบบสำรวจนี้ไม่มีการระบุชื่อ 

ในระยะที่สอง ซัพพลายเออร์จะนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นมาสร้างแผนดำเนินการที่โปร่งใสเพื่อขยายขีดความสามารถ โดยผสานรวมกระบวนการมีส่วนร่วมและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานเข้ากับแนวทางทรัพยากรบุคคลโดยรวม เพื่อปรับปรุงประสบการณ์โดยรวมของพนักงานและปลูกฝังวัฒนธรรมการให้ข้อเสนอแนะ เรากำหนดให้แจ้งผลการสำรวจให้พนักงานทราบภายใน 28 วันนับจากวันที่เริ่มทำการสำรวจ 

ตั้งแต่ปี 2017 เราได้ทำการปรับขยายเชิงกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงซัพพลายเออร์มากขึ้น และเมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2024 ก็เข้าถึงซัพพลายเออร์เชิงกลยุทธ์ที่เข้าร่วมโปรแกรม EWB ได้ 100% โดยครอบคลุมโรงงานซัพพลายเออร์ 128 แห่งและพนักงานประมาณ 700,000 คนใน 17 ประเทศและภูมิภาค ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2024 ซัพพลายเออร์เชิงกลยุทธ์ 75% ได้ดำเนินการทั้ง 2 ระยะเสร็จสิ้นแล้ว การสำรวจความคิดเห็นของเราอาจไปถึงสถานประกอบการต่างๆ ในซัพพลายเชนแบบขยายผล (Extended Supply Chain) มากขึ้นแล้ว แต่การวัดการมีส่วนร่วมของพนักงานเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะสิ่งที่เราทำอย่างต่อเนื่องไปด้วยคือการสนับสนุนซัพพลายเออร์ในการขยายขีดความสามารถที่จะทำให้เกิดการมีส่วนร่วมมากขึ้น

เราสนับสนุนซัพพลายเออร์ในการขยายขีดความสามารถที่ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมให้มากขึ้น การเดินหน้าพัฒนาเครื่องมือและยกระดับขีดความสามารถในการทำงานของเราจะช่วยสนับสนุนซัพพลายเออร์ในการนำข้อมูลที่ได้จากแบบสำรวจ EWB มาใช้ในการปฏิบัติจริงที่ส่งผลเชิงบวกต่อพนักงาน ซึ่งรวมถึง "คู่มือวางแผนดำเนินการ EWB" ที่ช่วยสถานประกอบการในการออกแบบและดำเนินการแปลงข้อมูลที่ได้จากพนักงานไปเป็นแนวปฏิบัติ แล้วนำแนวปฏิบัติเข้าสู่ระบบบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ ในปีงบประมาณ 2024 ซัพพลายเออร์เชิงกลยุทธ์และผู้ให้บริการสำรวจของเราทั้ง 100% ได้เข้าร่วมการเทรนนิ่งนี้เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั่วระบบนิเวศของเราพร้อมที่จะรับฟังเสียงของผู้ปฏิบัติงานและวางแผนเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของตนได้สำเร็จ

Nike มองว่าการเข้าถึงช่องทางที่มีประสิทธิภาพคือเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพนักงานที่ต้องการร้องทุกข์เมื่อมีเหตุจำเป็น 

เรากำหนดให้ซัพพลายเออร์ต้องมีกระบวนการร้องทุกข์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้พนักงานสามารถร้องเรียนข้อกังวลเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนในการทำงานได้ เช่น สภาวะเงื่อนไขของการทำงาน นโยบายและขั้นตอนการทำงานของบริษัท รวมถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขของการจ้างงาน นอกจากนี้ซัพพลายเออร์ยังต้องจัดทำเป็นเอกสารและติดตามการร้องทุกข์ รวมถึงเวลาตอบสนอง เพื่อช่วยวัดประสิทธิภาพของกระบวนการร้องทุกข์

ทาง Nike ยังมีพอร์ทัล "Speak Up" ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ทุกเมื่อทางออนไลน์หรือทางโทรศัพท์ พอร์ทัลนี้เปิดให้พนักงานในซัพพลายเชนสามารถรายงานข้อกังวลไปยัง Nike ได้โดยตรง

Nike มีส่วนร่วมกับกลไกการร้องเรียนโดยบุคคลที่สามของสมาคมแรงงานยุติธรรม (FLA) ซึ่งเป็นกลไกการร้องเรียนที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาจากหลายฝ่ายที่จะให้ประโยชน์ในแง่ของการเพิ่มอำนาจเมื่อเจอสถานการณ์ที่องค์กรต่างๆ ยื่นเรื่องร้องเรียนกับ FLA หรือเมื่อ Nike ไม่ใช่ผู้ซื้อเพียงรายเดียวของโรงงาน กลไกการร้องเรียนของบุคคลที่สามเปิดโอกาสให้บุคคล กลุ่ม หรือองค์กรรายใดๆ สามารถรายงานข้อกังวลที่ร้ายแรงเกี่ยวกับสิทธิ์ของพนักงาน และถือเป็นเครื่องมือทางเลือกสุดท้ายเมื่อช่องทางอื่นๆ ทั้งหมดล้มเหลว Nike พยายามจัดการและแก้ไขข้อกังวลที่น่าเชื่อถือและมีน้ำหนักซึ่งมีการยื่นเรื่องผ่านทางกลไกนี้ในกรณีที่มีการให้รายละเอียดอย่างเพียงพอที่ทำให้ Nike สามารถสืบสวนข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสม ซึ่งอาจนำไปสู่การแก้ไขหรือหาทางออกอื่นๆ ที่มีความหมาย ผลลัพธ์ของกระบวนการนี้ประกอบด้วยการนำพนักงานที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งอย่างไม่เป็นธรรมกลับมาอีกครั้งโดยมีการจ่ายเงินคืน การยอมรับสหภาพแรงงาน การจัดทำโปรแกรมการฝึกอบรมและการศึกษา และการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและฝ่ายบริหาร