แข็งแกร่งไปด้วยกัน: Kaia Gerber และ Kirsty Godso คู่แท้ที่หากันเจอ

ALESSANDRA CODINHA ทั้งคู่รู้จักกันและเริ่มออกกำลังกายด้วยกันได้ยังไงคะ

KIRSTY GODSO เราเจอกันครั้งแรกในคลาสพิลาทิสเมื่อปี 2021 ค่ะ วันหนึ่งเธอพูดขึ้นมาว่า "อยากฝึกกับเธอจัง" แล้วเราก็เริ่มออกกำลังกายด้วยกันสัปดาห์ละ 5 ครั้ง ส่วนเรื่องราวที่เหลือก็อย่างที่รู้กันค่ะ

ALESSANDRA ทั้งสองประทับใจอะไรในตัวอีกฝ่ายบ้างคะ นับตั้งแต่ที่ได้ร่วมงานกัน

KAIA GERBER โอ้โฮ ได้เลย เริ่มจากอะไรเบาๆ ก่อน

KIRSTY ฉันว่าเรามีเซนส์ความตลกเหมือนกัน แล้วก็ซื่อสัตย์ค่ะ เราสนุกกันมากที่ยิม บางครั้งการเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวเป็นเรื่องยากนะคะ เราเหนื่อย เราทุ่มความรักในงานออกมาตลอด จากนั้นเราก็ออกกำลังกายเป็นคนสุดท้าย ไม่ก็ไม่ออกกำลังกายเลย สิ่งที่ฉันชอบในตัว Kaia คือการทำงานกับเธอไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกแบบนั้นเลยค่ะ รู้สึกว่าให้อะไรไป เธอก็ตอบสนองกลับมาเท่ากันตลอด เป็นเพื่อนที่วิเศษมากๆ ของฉันค่ะ แกเป็นเชียร์ลีดเดอร์ตัวแม่ของฉันเลย ฉันเองก็น่าจะเป็นเชียร์ลีดเดอร์คนนั้นของแกด้วย ทุกครั้งที่มีคนเห็นเราออกกำลังกายด้วยกัน คนมักจะบอกว่าเราขำกันตลอด ดูมีความสุข แม้แต่ในวันที่เราคนใดคนหนึ่งอาจจะไม่ได้รู้สึกแบบนั้น พอจบเซสชันออกกำลังกายด้วยกัน เราก็จะรู้สึกดีขึ้นค่ะ

KAIA มีหลายแง่มุมในชีวิตฉันที่ต้องสวมบทบาท หรือต้องดูเป็นคนแบบนั้นแบบนี้ ฉันรู้สึกว่า พออยู่กับ KG ฉันก็มาแบบเป็นตัวเองในวันนั้นๆ ได้เลย เธอรู้เกี่ยวกับฉันทุกเรื่องเลยค่ะ ฉันเองก็ชอบที่ไม่ต้องอธิบายอะไรเลย เราอยู่เคียงข้างกันและกัน คอยสนับสนุนให้อีกฝ่ายยืนหยัดเพื่อตัวเอง เธอเป็นแรงผลักดันที่สำคัญของฉัน เป็นเพื่อนสาวคนสนิทที่สุดของฉันเลยค่ะ

KIRSTY โอ๊ย น้ำตาจะไหลอะ แต่งเลยค่ะคนนี้

KAIA ใช่มะ นี่แหละคำสัญญาของเรา

ALESSANDRA พื้นเพด้านฟิตเนสของคุณเป็นยังไงบ้างตอนที่เริ่มทำงานด้วยกัน

KAIA ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองเล่นกีฬาเก่งเลยค่ะ ฉันเคยโดนบอกตอนเรียนคาบพละว่าเป็นนักเรียนที่ไม่มีความเป็นนักกีฬาที่สุดเลย พอมีคนบอกว่าจริงๆ แล้วเราออกกำลังกายเพื่อสุขภาพจิตนะ ฉันก็เถียงไปว่าไม่จริงหรอก บ้าไปแล้ว ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนที่บอกคนอื่นว่า รู้ไหมว่าอะไรที่ช่วยเรื่องสุขภาพจิตได้มากที่สุด

ความแข็งแรงเป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่าภาพลักษณ์นะคะ

ALESSANDRA นั่นเป็นประโยชน์ที่ได้จากโปรแกรมฟิตเนสเน้นการเคลื่อนไหวแบบองค์รวม ใช่ไหมคะ เพราะมันเป็นเรื่องของร่างกาย เป็นเรื่องของจิตใจ แถมยังทำให้รู้ว่ารู้สึกอะไรอยู่ด้วย

KAIA ใช่เลยค่ะ บางวันมันก็เป็นเวลาแค่ชั่วโมงเดียวที่ฉันได้ทำอะไรเพื่อตัวเอง และบางครั้ง มันก็เป็นหนึ่งชั่วโมงจากทั้งวันที่ฉันไม่ได้จับโทรศัพท์ มันบังคับให้เราอยู่กับปัจจุบันและได้ใช้เวลากับตัวเองจริงๆ

KIRSTY ฉันว่าตัวเองเป็นคนอัดอั้น แล้วนี่พูดในฐานะคนที่ไม่ได้อยู่ท่ามกลางสายตาประชาชนนะคะ นึกไม่ออกเลยว่าเธอจะอัดอั้นแค่ไหนถ้าไม่ฝึกเพื่อหาจุดยึดโยงและปรับสมดุลกลับมา

KAIA ฉันเลยชอบการเคลื่อนไหวมากๆ รวมถึงสิ่งที่ได้ทำกับ KG เพราะร่างกายเราไม่โกหกค่ะ เรามักจะใช้ชีวิต ละเลยความรู้สึก และโฟกัสแค่กับงานหรือกับสิ่งที่เหมือนว่าสำคัญ แต่มันไม่ได้สำคัญเลย ร่างกายเราไม่โกหกเราจริงๆ ค่ะ ถ้าคุณทำอะไรบางอย่างที่ได้เคลื่อนไหวและใช้เวลานั้นโฟกัสอยู่กับร่างกายจริงๆ นั่นเป็นตัวบ่งชี้สภาวะร่างกายและจิตใจของเราที่ดีเลย ของแบบนี้หลอกกันไม่ได้หรอก เราต้องฝึกความใจเย็นและการยอมรับกับตัวเองด้วย ซึ่งฉันชอบมากๆ นะ เป็นสายสัมพันธ์ที่เรามีต่อตัวเองแบบที่ซื่อตรงมากๆ ค่ะ

ALESSANDRA ช่วยเล่าเรื่องเซสชันเทรนนิ่งให้ฟังหน่อยสิคะ เป็นแนวไหนยังไง 

KIRSTY ก็ ทุกครั้งมันจะเริ่มจากคาเฟอีนกับความคึกค่ะ เราดูแลร่างกายด้วยการกระตุ้นกำลัง การใช้โฟมโรลเลอร์ จากนั้นก็จะวอร์มอัพด้วยคาร์ดิโอชวนทึ่งที่เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เราทำทุกอย่างเลย ท่าเพื่อความแข็งแรง ท่าที่มาจากพิลาทิส วิ่ง ออกกำลังกายความเข้มข้นสูง เสริมสร้างสมรรถภาพด้านต่างๆ แล้วก็ยืดเหยียด การฟื้นกำลังจะดีขึ้นมากพอมีแผนการเทรนที่ครบเครื่อง แต่ที่สำคัญที่สุด ฉันว่าเซสชันเราเข้มข้นครบเครื่องได้สุดๆ เพราะ Kaia แน่วแน่และตั้งใจค่ะ ฉันบอกเธอแค่ครั้งเดียว แล้วก็จบเลยค่ะ เธอรู้ว่าต้องทำอะไร เราเลยทำอะไรได้หลายๆ อย่างเพราะเธออยู่ด้วยกันจริงๆ ในเวลา 1 ชั่วโมงนั้น มันทำให้เราใช้เวลาได้อย่างเต็มที่จริงๆ และเก็บเกี่ยวสิ่งที่เธอต้องการในเซสชันนั้นได้เต็มที่ค่ะ

KAIA ฉันสังเกตเห็นว่าสิ่งที่ได้ทำกับ KG ระหว่างการเทรนนิ่งนี่เอามาใช้ในชีวิตของฉันได้หลายด้านเลยค่ะ ฉันเห็นประโยชน์ในหลายๆ ด้านเลย

KIRSTY ตลกดีนะคะ ฉันว่าความคิดอ่านเราเหมือนกันด้วย เรามีแรงขับที่เหมือนกัน แล้วเราก็ไม่ค่อยเชี่ยวชาญพวกขอบเขตแล้วก็เรื่องอื่นๆ

KAIA เราสองคนเป็นพวกให้มากเกินค่ะ แต่ฉันก็คิดว่าตัวเองเป็นคนแบบนั้นนะ ตั้งแต่เด็กๆ ในอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มากๆ การทำงานกับ KG ช่วยเปลี่ยนแปลงความคิดที่ฉันมีต่อการใช้แรงกายและความแข็งแรง เราอาจจะมีไอเดียหุ่นที่อยากมี แต่มันไม่ใช่หุ่นที่ทำให้รู้สึกดีที่สุด บางครั้งเราตั้งมาตรฐานเหล่านี้ให้ตัวเอง ซึ่งมันไม่ได้ดีต่อสุขภาพ

KIRSTY ตอนที่เราเจอกันครั้งแรก สิ่งแรกๆ ที่เธอบอกฉันคือ อยากรู้สึกแข็งแรง ฉันว่ามันเท่มากเลยนะ เพราะตอนนั้นเธอน่าจะอายุสัก 20 ได้ ไม่ค่อยมีคนวัย 20 ที่คิดแบบนั้นนะ ส่วนใหญ่คนจะคิดถึงหุ่นที่อยากปั้นมากกว่า

KAIA ฉันหมดเวลาไปกับการคิดถึงหุ่นที่อยากได้อยู่หลายปี จนพอตอนที่เราเจอกัน ฉันก็พร้อมแล้วที่จะอยากรู้สึกดี แค่นั้นพอ แบบ ขอร่างที่ฉันได้รู้สึกเถอะ [หัวเราะ] อยากรู้สึกสุขภาพดีแล้ว

KIRSTY นั่นก็สำคัญนะ พอเป็นเรื่องของความฟิตแล้ว เราได้ยินคนพูดกันเสมอว่าอยากมีหุ่นแบบไหน ส่วนฉันจะคอยถามตลอดว่ารู้สึกยังไงบ้างในวันนี้ เพราะการเล่าถึงความรู้สึกจะเป็นเครื่องวัดที่ดีกว่า ฉันบอกคนอื่นๆ เสมอว่า นี่ คุณปั้นร่างทองได้นะ แต่ถ้าคุณไม่ได้มองว่าร่างนั้นดีเลิศ และไม่ได้รู้สึกเชื่อมโยงกับตัวเอง มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรนะ ไม่มีความหมายเลย

KAIA คุณจะไม่มีทางรู้สึกดีกับมัน

KIRSTY ฉันว่าความสนุกอยู่ที่การปรับโปรแกรมให้เป็นของคนคนนั้นเลย อะ ไหนบอกเป้าหมายมา ตารางเวลาของคุณเป็นยังไงบ้าง เตรียมตัวรับบทใหม่อยู่หรือเปล่า มีงานที่ใกล้ถ่ายหรือไม่ มีอันนี้ไหม หรืออันนี้ เราเอาทุกอย่างมาประกอบการตัดสินใจได้หมดเลย แล้วเธอก็พูดขึ้นมาด้วยว่า "ฉันอยากวิ่ง 1 ไมล์ในเพซ 6 นาที" ฉันก็แบบ ดีเลย เอาสิ เราก็จะเพิ่มการวิ่งไว้ในวันนั้นด้วย

KAIA เราจะตั้งเป้าหมายของเราเองแบบตามใจเลยค่ะ

KIRSTY เป้าหมายเน้นสนุก ฉันตกใจมากเลยนะที่มีคนบอกเธอว่าไม่มีความเป็นนักกีฬา ทั้งที่ร่างกายทำงานประสานกันได้ดีขนาดนี้ สงสัยจริงๆ ว่าคนใจร้ายคนนั้นคือใคร เราไม่ควรพูดอะไรแบบนั้นกับเด็กนะ

KAIA แต่ก็นั่นแหละ มันคือสิ่งที่ครูพูดใส่เราตอนยังเด็ก...

KIRSTY เราก็เชื่อ

KAIA เราจำนะ แล้วมันก็จะเป็นสิ่งที่เราพร่ำบอกตัวเองไปตลอดชีวิต ฉันเลยรัก KG ค่ะ เธอภูมิใจในตัวฉันมากเลย

KIRSTY เธอชอบบอกว่าตัวเองวิ่งไม่ได้เรื่อง แต่ฉันแบบ ไม่เลยค่ะสาว ขอโทษทีที่ต้องพูดแบบนี้ แต่แบบ...

KAIA หมอมักจะเขียนใบสั่งไม่ให้วิ่งเป็นไมล์ ส่วน KG ก็จะแบบว่า เราจะใช้ลู่วิ่งกัน ฉันตื่นเต้นสุดๆ ไปเลย

KIRSTY เธอก็จะแบบ ในที่สุด!

KAIA แต่เราต้องอยู่กับคนที่คอยสนับสนุน คอยให้กำลังใจนะคะ ฉันอยากได้การเสริมแรงทางบวกค่ะ อยากได้การสนับสนุน ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ฉันได้รับตลอด พอมีกำลังใจ ฉันก็รู้สึกอยากทำให้เธอภูมิใจน่ะค่ะ

KIRSTY ภูมิใจที่สุดเลยค่ะ

ALESSANDRA ได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองผ่านการโค้ชหรือถูกโค้ชบ้างคะ

KIRSTY เป็นสิ่งสำคัญนะคะ ยิ่งในวันที่เราไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นยังไง แล้วมีคนอื่นคอยดูแลและคอยย้ำเตือนถึงสิ่งที่ทำให้เรามาอยู่ตรงนี้ การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ต้องทำด้วยตัวเอง และบางครั้งมันก็ทำให้เหงาอยู่บ้าง การมีโค้ชก็เป็นเหมือนเมตริกวัดความรับผิดชอบตรงนี้ ราวกับว่าเรามีเพื่อนที่ร่วมทำสิ่งนี้ ก็เลยรับมือได้ง่ายขึ้นค่ะ และการช่วยให้คนอื่นรู้สึกดีกับตัวเองได้ เป็นอะไรที่ช่วยเติมเต็มจิตใจของเราสุดๆ เลย เราได้ประโยชน์กันทั้งคู่ค่ะ

ALESSANDRA มีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับฟิตเนสที่คุณอยากไขความกระจ่างไหมคะ

KAIA พอเป็นผู้หญิง ก็จะมีเสียงต่างๆ มากมายคอยบอกว่าเราควรมีหุ่นแบบไหน ก็เลยชอบมากๆ ที่ KG ถามว่าอยากรู้สึกอย่างไรค่ะ โดยเฉพาะในวันที่รู้สึกว่าไม่ได้อยากมาตรงนี้ ไม่ได้อยากไปยิม ไม่อยากออกกำลังกาย หลังจากนั้น เราจะรู้สึกดีมาก เพราะมันเหมือนแบบ เราก็ทำเรื่องยากๆ ได้นี่! 

KIRSTY ฉันอยากให้ผู้คนเห็นว่า Kaia เป็นบุคคลตัวอย่างที่ดีจริงๆ ค่ะ เพราะคงมีหลายคนที่ไม่เข้าใจว่าเธอมองฟิตเนสแบบไหน และมันดีต่อสุขภาพขนาดไหน มันไม่ใช่การเสพติดที่เราเห็นกันบ่อยๆ มันคือการที่เรารู้สึกว่า นี่ เราควรจะดูแลร่างกายและจิตใจผ่านการตัดสินใจดีๆ ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ

KAIA แม่ฉันเองก็เริ่ม [ออกกำลังกาย] ตั้งแต่ยังสาวเหมือนกันค่ะ แล้วก็ไม่เคยหยุดเลย ถึงจะมีลูกๆ หรือผ่านอะไรมามากมาย มันเป็นเรื่องที่ต้องทำในชีวิตจนถึงตอนนี้ และฉันได้แรงบันดาลใจจากตรงนั้นมามากเลย พอฉันรู้จักกับการดูแลสุขภาพและความฟิตด้วยตัวเอง ฉันก็รู้สึกว่า นี่แหละ เราแต่งงานกับมัน ไม่ใช่แค่การคบกันเฉยๆ 

KIRSTY เพราะพอเรารู้แล้วว่ารู้สึกยังไง ก็จะกลับไปเป็นแบบเดิมยากค่ะ ขนาดบางครั้งที่เรารู้สึกว่า อ๋า ฉันควรออกไปทำอันนี้นะ คงจะสนุกดี แต่จริงๆ แล้วฉันก็แค่อยากจะตื่นมาแบบอารมณ์ดี แล้วก็ไปยิม

KAIA อาจจะมีคนคิดว่าเราน่าเบื่อ แต่ถ้ามาเห็นเราที่ยิม คุณจะเห็นว่าเราไม่น่าเบื่อนะ! พวกเราตื่นเต้นกันสุดๆ! 

KIRSTY สนุกสุดเหวี่ยงเลย

คำและภาพจากNike Women Zine, Volume 1