• เรื่องเด่น

Nike Radical AirFlow เปิดศักราชใหม่ของเครื่องแต่งกายที่ระบายอากาศได้ดี

  • 24/8/2568

เป็นเวลาเกือบ 50 ปีแล้วที่ Nike นำองค์ประกอบพื้นฐานที่มีอยู่ตามธรรมชาติอย่างอากาศมาสร้างสรรค์และปรับใช้อย่างเหมาะสมเพื่อให้นักกีฬาแสดงฝีมือได้เต็มศักยภาพ มาวันนี้ เราได้พิชิตหมุดหมายใหม่ในมิติของนวัตกรรมด้านวัสดุภายใต้ชื่อ Nike Radical AirFlow ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในฤดูกาลวิ่งเทรลประจำช่วงซัมเมอร์ของปีนี้ นักวิทยาศาสตร์ ดีไซเนอร์ และนักพัฒนาของ Nike ต่อยอดจากบรรดาเครื่องแต่งกายเสริมประสิทธิภาพที่เป็นตำนานของแบรนด์ โดยตั้งคำถามว่าทำอย่างไรจึงจะสร้างเครื่องแต่งกายที่ดึงอากาศรอบตัวนักวิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวมาใช้ช่วยให้ร่างกายเย็นสบายได้ 

การวิ่งเทรลเป็นกีฬาที่ท้าทายที่สุดชนิดหนึ่งสำหรับการทดสอบพลังของเครื่องแต่งกายเสริมประสิทธิภาพ การกำหนดเงื่อนไขการทดสอบของกีฬาชนิดนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะนักวิ่งอาจต้องปีนผาหนึ่งกิโลเมตร หรือเจอกับสภาพแวดล้อมสุดทรหดในกิจกรรมที่จัดต่อเนื่องหลายวันเวลาลงแข่งวิ่งเทรล ตัวอย่างที่ช่วยให้เห็นภาพชัดเจนก็คือการแข่งระยะ 100 ไมล์ชื่อดังซึ่งจัดที่เทือกเขาเซียร์ราเนวาดาในแคลิฟอร์เนีย โดยอุณหภูมิในพื้นที่มักจะขึ้นไปสูงถึง 37.8 องศาเซลเซียส ขณะที่นักวิ่งต้องกัดฟันสู้กับระดับความสูงที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดการแข่ง โดยมีความสูงสะสมกว่า 18,000 ฟุตและลดลงถึง 23,000 ฟุต ความร้อนจัดและความชื้นไม่เพียงฉุดรั้งการทำผลงานของนักกีฬาเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บหรือเกิดการเจ็บป่วยสูงขึ้นด้วย 

นักกีฬาเทรลคุ้นชินกับสังเวียนแห่งความโหดหินเช่นนี้กันอยู่แล้ว พวกเขาจึงเฟ้นหาสูตรลับมาช่วยให้ร่างกายเย็นสบายอยู่เสมอเพื่อไม่ให้เสียเปรียบในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการพาดผ้าขนหนูเย็นเฉียบไว้ที่คอ การลงไปนอนแช่ลำธารหรือทะเลสาบตามเส้นทางการแข่งเหมือนเด็กที่ลงสระน้ำในสวนหลังบ้าน หรือแม้แต่การถอดเลเยอร์เครื่องแต่งกายออกเรื่อยๆ ระหว่างที่วิ่ง

เมื่ออยู่บนเส้นทางเทรล นักกีฬาต้องการเครื่องแต่งกายที่ทุ่มเทต่อสู้ได้พอๆ กับตัวเอง ไม่ว่าอุณหภูมิจะพุ่งสูง ไม่ว่าจะแข่งนานแค่ไหน หรือต่อให้ต้องบุกน้ำลุยโคลนก็ตาม

คำถามที่ผุดขึ้นมาก็คือ จะเป็นอย่างไรถ้าเราตอบโจทย์ข้อนี้ผ่านกระบวนการผลิตเครื่องแต่งกายไปเลย ทีมบูรณาการข้ามศาสตร์ของ Nike ซึ่งมีสมาชิกหลายๆ คนเป็นนักวิ่งเทรลจึงลองศึกษาหาคำตอบให้กับคำถามดังกล่าว โดยมุ่งรังสรรค์เสื้อผ้าที่ช่วยให้กลไกการระบายความร้อนตามธรรมชาติของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ 

"การระเหยของเหงื่อเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้ร่างกายนักกีฬาระบายความร้อน" Jahan Behbahany ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนวัตกรรมเครื่องแต่งกาย Nike กล่าว "เราให้ความสนใจกับวัสดุที่สามารถช่วยเร่งความเร็วการไหลเวียนของอากาศไปสู่ผิวหนัง และช่วยให้กระบวนการระเหยเพื่อระบายความร้อนทำงานได้เร็วขึ้น เรารู้ว่าเรามีทั้งบุคลากร เครื่องมือ และทรัพยากรที่จำเป็นในการพัฒนาวัสดุนี้ขึ้นมา"

"เราให้ความสนใจกับวัสดุที่สามารถช่วยเร่งความเร็วการไหลเวียนของอากาศไปสู่ผิวหนัง และช่วยให้กระบวนการระเหยเพื่อระบายความร้อนทำงานได้เร็วขึ้น เรารู้ว่าเรามีทั้งบุคลากร เครื่องมือ และทรัพยากรที่จำเป็นในการพัฒนาวัสดุนี้ขึ้นมา"

Jahan Behbahany, ผู้อำนวยการอาวุโส, นวัตกรรมเครื่องแต่งกาย Nike

โซลูชันนี้ไม่ใช่ความสำเร็จครั้งแรกของ Nike ในการช่วยปรับให้อากาศไหลเวียนได้อย่างเต็มที่เพื่อนักกีฬา เพราะการที่เราทุ่มเทศึกษามิติของอากาศพลศาสตร์ในการคุมเพซได้นำไปสู่การท้าพิชิตสถิติการวิ่งซึ่งเป็นที่จับตามองมากที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมาถึงสองครั้ง กล่าวคือ ภารกิจวิ่งมาราธอนครั้งประวัติศาสตร์ของ Eliud Kipchoge ในปี 2017 กับปี 2019 และภารกิจของ Faith Kipyegon ในการวิ่งหนึ่งไมล์ภายใน 4 นาที ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย สำหรับเครื่องแต่งกายเสริมประสิทธิภาพ นักกีฬาและโค้ช Nike ได้มีส่วนช่วยปรับปรุงวัสดุตาข่ายแบบทั่วทั้งชิ้นเพื่อหนุนการไหลเวียนอากาศในสภาพอากาศร้อน ตั้งแต่ Nike Stand-Off ไปจนถึง Nike Dri-Fit นักวิทยาศาสตร์ ดีไซเนอร์ และนักพัฒนาของ Nike รู้ดีว่าเครื่องแต่งกายสามารถเป็นปัจจัยสำคัญในการปลดล็อคศักยภาพสูงสุดของนักกีฬา พวกเขามีความเข้าใจเกี่ยวกับสภาวะสุดหฤโหดที่นักกีฬาเทรลต้องเผชิญเวลาลงแข่ง จึงรู้ว่าต้องคิดค้นโซลูชันใหม่เพื่อช่วยหนุนการไหลเวียนอากาศไปสู่ร่างกาย

หลังจากพิจารณาวัสดุตาข่ายและวิธีการระบายอากาศที่ใช้กันโดยทั่วไปดูอีกครั้ง ทีมงานก็ตั้งสมมติฐานขึ้นมาว่า การใส่ช่องลมที่ผ่านการออกแบบเชิงโครงสร้างลงไปทั่วเสื้อผ้าจะสามารถดักอากาศ เร่งความเร็ว แล้วส่งอากาศผ่านรูเสื้อผ้าไปสู่ผิวหนังได้ ขณะที่นักกีฬาวิ่งไปข้างหน้า ตัววัสดุจะเร่งความเร็วของอากาศที่ไหลเวียนไปสู่ผิวหนัง และช่วยหนุนการระเหยเพื่อระบายความร้อน หรือจะพูดว่าเร่งให้กระบวนการระเหยของเหงื่อตามธรรมชาติของร่างกายทำงานเร็วขึ้นก็ได้

ทีมบูรณาการข้ามศาสตร์ของ Nike โฟกัสไปที่การรังสรรค์วัสดุซึ่งทั้งระบายอากาศได้ดีและรองรับโครงสร้างของช่องลมได้อย่างลงตัว รวมถึงยังสวมใส่ได้สบายเต็มขั้นและกวนสมาธินักกีฬาน้อยที่สุด แรงบันดาลใจของทีมงานคือหลักการว่าด้วยพลศาสตร์ของไหลของแบร์นูลลี โดยเฉพาะปรากฏการณ์เวนจูรี ซึ่งหมายถึงสภาวะที่ของไหลมีความเร็วเพิ่มขึ้นและมีความดันลดลงเมื่อของไหลนั้นเคลื่อนที่ผ่านส่วนคอคอดของท่อ ทุกๆ องค์ประกอบตั้งแต่การเลือกวัสดุ ไปจนถึงโครงสร้างแบบถักที่รังสรรค์มาเป็นพิเศษได้ผ่านการพิจารณา ศึกษา และทดสอบเพื่อหนุนและเพิ่มการไหลเวียนของอากาศไปสู่ผิวหนัง

วัสดุใหม่นี้เป็นวัสดุแบบถักที่ผ่านการออกแบบเชิงโครงสร้างให้มีคุณสมบัติทางเคมีแบบไฮโดรฟิลิก เพื่อช่วยจัดการกับความชื้นและยกระดับสัมผัสแห่งการไหลเวียนของอากาศ ช่องลมจะเร่งให้อากาศที่อยู่ตรงหน้าของตัววัสดุไหลเวียนไปสู่ผิวหนังได้เร็วขึ้น นักวิจัยของ Nike ค้นพบว่าการจัดวาง "รอยบุ๋ม" เรียงติดๆ กันที่ฝั่งในของเสื้อผ้า (ฝั่งที่สัมผัสกับผิวหนัง) เพื่อให้ทำงานควบคู่กับช่องลมแต่ละช่องจะช่วยให้อากาศไหลเวียนบริเวณผิวหนังได้นานขึ้น

"เราได้ลองปรับโครง ขนาด และโซนการจัดวางช่องลมกันหลากหลายรูปแบบตลอดกระบวนการทดสอบและการพัฒนา" Behbahany กล่าว "เราพบว่าการจัดโครงสร้างในรูปทรงกรวยที่ไล่ระดับรูจากใหญ่ไปเล็ก และจัดเรียงกันอย่างสม่ำเสมอจะส่งและเร่งอากาศให้ไหลเวียนไปสู่ผิวหนังได้ดีที่สุด"

ในระหว่างพิจารณาว่าจะนำวัสดุนี้ไปใช้กับเสื้อผ้าลักษณะใด ทีมงานตัดสินใจเลือกเสื้อแขนยาวเพื่อให้ครอบคลุมส่วนพื้นผิวของร่างกายได้มากที่สุด และหนุนการไหลเวียนอากาศให้ไปทั่วถึงทุกส่วนของร่างกายมากที่สุด นอกจากนี้ เพื่อให้มั่นใจว่านักวิ่งรู้สึกสบายตัวตลอดเวลาหลายชั่วโมงบนเส้นทางเทรล ดีไซเนอร์เลือกที่จะให้มีส่วนเว้าใต้วงแขนเพื่อความคล่องตัวและลดน้ำหนัก ทั้งยังมีโครงสร้างตัวเสื้อและการแต่งขอบเพื่อช่วยลดการเสียดสีในบริเวณที่มีการเสียดสีสูงและมีเหงื่อออกเยอะ

โครงเสื้อแขนยาวแบบใหม่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ใช้ประโยชน์จากวัสดุ Radical AirFlow ใหม่ได้เต็มที่ เสื้อใส่ลงแข่งตัวนี้ทั้งกว้างและโปร่ง ช่วยให้อากาศไหลเวียนโดยตรงไปสู่ผิวหนังที่อยู่ใต้ผิวผ้าได้มากขึ้น

นอกจากช่องลมที่จัดวางเป็นโซนทั่วตัวเสื้อ ยังมีส่วนระบายอากาศที่ใหญ่ขึ้นเพิ่มเข้ามาบริเวณใต้วงแขนและข้อพับเพื่อเสริมความคล่องตัวและการไหลเวียนอากาศให้ถึงขีดสุด รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงในการเสียดสี

เสื้อมาพร้อมส่วนชายแบบเอวลอยเพื่อช่วยลดน้ำหนักของตัวเสื้อ เปิดโอกาสให้อากาศไหลผ่านไปยังท้องส่วนล่างได้มากขึ้น รวมถึงทำให้ผู้ใส่หยิบจับสายรัดเอวได้สะดวกง่ายดาย

ทีมงานมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับการทดสอบวัสดุใหม่นี้อย่างแข็งขันเป็นเวลากว่าสองปี โดยทดสอบทั้งแบบลงภาคสนามและในพื้นที่ควบคุมเพื่อการวิจัย ทีมงานได้นำสินค้ารุ่นต้นแบบไปที่แคลิฟอร์เนียตอนเหนือ เพื่อให้นักกีฬา All Conditions Racing Department ใส่ทดสอบกับสภาพแวดล้อมสุดทรหดในภูมิภาคนั้นและช่วยให้คำติชม เหล่านักวิ่งรู้สึกทึ่งกับความเย็นสบายและระบายอากาศได้ดีของเสื้อตัวดังกล่าว โดยได้บอกทีมงานว่าเสื้อให้ความรู้สึกเย็นและสดชื่นเวลาสัมผัสกับผิวหนัง ซึ่งไม่เหมือนเสื้อตัวไหนๆ ที่เคยใส่มาก่อน ส่วนที่ Nike Sport Research Lab (NSRL) ที่ Nike World Headquarters ทาง Nike ก็ได้ใช้ห้องควบคุมสภาพอากาศของตัวเองเพื่อสังเกตว่าวัสดุมีประสิทธิภาพแค่ไหนเมื่อเผชิญสภาวะที่โหดหินในพื้นที่ควบคุม นักกีฬา All Conditions Racing Department ได้เข้าไปทดสอบสินค้ารุ่นต้นแบบที่ NSRL กันเรื่อยๆ โดยพารามิเตอร์ที่ใช้ประกอบการทดสอบเป็นการจำลองภาวะรูปแบบต่างๆ ที่อุณหภูมิมีการพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว ซึ่งนักวิ่งเทรลจะต้องเผชิญในการแข่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความร้อนระอุ 

เมื่อเข้าไปที่ NSRL นักกีฬาก็ทดสอบเสื้อผ้า Dri-Fit น้ำหนักเบาและเสื้อผ้า Radical AirFlow ในห้องควบคุมสภาพอากาศและสภาพแวดล้อม เพื่อประเมินว่า Radical AirFlow ใช้การได้ดีแค่ไหนเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีวัสดุที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าดีจริงของ Nike นักวิทยาศาสตร์ได้ผลลัพธ์จากการทดสอบว่า เมื่อเทียบกับ Dri-Fit แล้ว สินค้า Radical AirFlow รุ่นต้นแบบดูดซับและกักเก็บเหงื่อน้อยกว่า 50% หลังผ่านการวิ่งในความร้อนเป็นระยะเวลานาน การทดสอบเพิ่มเติมโดยใช้หุ่นจำลองอุณหภูมิความร้อนแสดงให้เห็นว่า สินค้ารุ่นต้นแบบระบายอากาศได้ดีกว่ามาก ทั้งยังต้านการระเหยของเหงื่อน้อยกว่า 25% เมื่อเทียบกับ Dri-Fit

"ตอนได้เห็นสินค้าตัวนี้ครั้งแรก ผมรู้สึกว่าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย"

Drew Holmen, นักวิ่งเทรลและนักกีฬา ACRD

"ผมตกใจมากกับการรู้สึกได้ถึงลมเย็นๆ ทั่วทั้งร่างกาย" Holmen ผู้สวมสินค้ารุ่นต้นแบบคว้าชัยชนะจากงาน Lavaredo Ultra Trail 80 ปี 2025 กล่าว Holmen (ในภาพข้างบน) ทดสอบสินค้าในห้องควบคุมสภาพอากาศของ NSRL

Erin Clark นักวิ่งเทรลและนักกีฬา ACRD ที่อยู่ในภาพสวมสินค้ารุ่นต้นแบบที่งาน Western States ปี 2025

"ใส่แล้วรู้สึกเหมือนเดินเข้าตู้เย็นเลยครับ"

Caleb Olson, นักวิ่งเทรลและนักกีฬา ACRD

Olson สวมสินค้ารุ่นต้นแบบลงวิ่งและคว้าชัยชนะจากงาน Western States 100-Mile Endurance Run ปี 2025 โดยทำเวลาได้เร็วที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของรายการ

ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการทดสอบสินค้าแบบลงภาคสนามอย่างเต็มรูปแบบที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Nike Running สมาชิกทีม All Conditions Racing Department จะยังคงทดสอบสินค้ารุ่นต้นแบบตลอดฤดูการแข่งรายการระดับท็อปของปี 2025 ส่วนดีไซเนอร์ของ Nike จะยังคงทำหน้าที่ติดตามคำติชมจากการทดสอบทั้งในการแข่งและในแล็บต่อไป เพื่อปรับปรุงเสื้อจนกว่าจะพร้อมเปิดตัววางจำหน่ายในปี 2026 

โอกาสในการพัฒนาวัสดุที่ดึงการไหลเวียนของอากาศทั่วทั้งร่างกายมาใช้ประโยชน์เช่นนี้มีแต่จะทวีความสำคัญ เมื่ออุณหภูมิทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น และยังสำคัญต่อกีฬาประเภทต่างๆ ที่ไม่ใช่แค่กีฬาวิ่งเทรลด้วย การหยิบอากาศในทุกสถานะมาใช้อย่างชาญฉลาดเป็นส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์สินค้าของ Nike ตั้งแต่ถุงลม Air ถือกำเนิดเป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้ Radical AirFlow เป็นเทคโนโลยีที่มีอนาคตสดใส 

"เราอดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากนักกีฬา ACRD มาปรับใช้กับวิธีแก้ปัญหาต่างๆ ที่นักกีฬาเผชิญเวลาเล่นกีฬาชนิดอื่นๆ" Behbahany กล่าว "เราทุ่มทุนมากกว่าใครในการคิดค้นวิวัฒนาการขั้นถัดไปสำหรับนวัตกรรมเครื่องแต่งกายลักษณะนี้ เราอาศัยนักกีฬา นักนวัตกรรม และทรัพยากรของเราเพื่อคิดค้นโซลูชันการระบายความร้อนใหม่ๆ เพื่อให้นักกีฬาแสดงฝีมือได้เต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะเล่นกีฬาอะไรหรือจะไปเล่นที่ไหน"

  • เรื่องราว
  • ภารกิจ
  • บริษัท
  • ห้องข่าว
      • © 2025 NIKE, Inc. สงวนลิขสิทธิ์