พบกับดรีมทีมที่อยู่เบื้องหลังภารกิจ Breaking4 ของ Faith Kipyegon

CARRIE DIMOFF
ผู้จัดการอาวุโสด้านการบริหารจัดการโปรแกรม แผนกนวัตกรรมรองเท้า
Breaking4 ผู้นำทีมรองเท้า

Carrie Dimoff คืออดีตนักวิ่งมาราธอน U.S. Olympic Trials เขาตระหนักดีว่าการแข่งขันในระดับที่เข้มข้นสูงสุดต้องใช้อะไรบ้าง ในฐานะผู้นำแผนกนวัตกรรมรองเท้าสำหรับยอดนักกีฬาสายความเร็วของ Nike ในปัจจุบัน Dimoff นำมุมมองที่เฉียบคมทั้งในฐานะอดีตนักวิ่งและผู้นำทีมรองเท้ามาแบ่งปันให้กับ Breaking4 โดยควบคุมดูแลการดีไซน์และพัฒนารองเท้าคู่ที่ Kipyegon จะสวมในวันแข่ง Dimoff มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์เกี่ยวกับรองเท้าคู่ที่ใช่สำหรับ Kipyegon ตั้งแต่คอนเซ็ปต์ไปจนถึงการลงมือ เธอผลักดันไอเดียที่แหวกแนว รับมือกับเดดไลน์ที่กระชั้น และคุมให้ทุกการตัดสินใจไม่เบนไปจากเป้าหมายหนึ่งเดียว นั่นคือการเพิ่มความเร็วให้ Kipyegon

ตั้งแต่วินาทีที่ Faith ทุบสถิติโลกในโมนาโกได้สำเร็จ ฉันสัมผัสได้ถึงเอเนอร์จี้ที่ปะทุขึ้นมา รู้สึกเหมือนว่าเรากำลังก้าวไปสู่อะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอีก ฉันจะไม่มีวันลืมความรู้สึกในสเตเดียม ณ วันนั้น มันแบบดีใจเนื้อเต้น ทุกคนอึ้ง แต่ก็เริ่มตั้งคำถามแล้วด้วยว่า หรือนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการทุบสถิติวิ่ง 1 ไมล์ภายใน 4 นาทีของผู้หญิงกันนะ

พอได้ข่าวว่า Faith จะทำภารกิจนี้ แล้วทาง Nike ก็จะสนับสนุนเธอ ฉันคิดอย่างเดียวเลยว่า เอาสิ ไปลุยกันเถอะ Faith เป็นคนที่จุดไฟให้กับคอมมูนิตี้ผู้หญิงทั่วโลก ไม่ใช่แค่เพราะความเร็วของเธอ แต่เพราะนิสัยใจคอและความประพฤติของเธอด้วย ดูจากตอนงานแข่งที่โมนาโกก็ได้ คุณจะเห็นว่าผู้เข้าแข่งขันร่วมกันเชียร์ Faith เธอเป็นคนที่ใครๆ ก็อยากจะให้กำลังใจ

โปรเจกต์คราวนี้มันต่างออกไปตั้งแต่เริ่มนับหนึ่งเลย เพราะเป็นงานที่หลายฝ่ายใน Nike มาทำร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นแผนกรองเท้า เครื่องแต่งกาย วิทยาศาสตร์ ความเร็ว เรียกได้ว่าทุ่มเทสุดกำลังจริงๆ 

ตอนที่เราพิจารณาเกี่ยวกับรองเท้าที่เธอจะใส่ เราตั้งคำถามกันตลอดว่า มันดีกว่าคู่ที่เธอมีอยู่แล้วหรือยัง มันเร็วกว่าไหม มันทำให้มั่นใจขึ้นไหม ถ้าคำตอบคือไม่ เราก็โละทิ้งเลย 

ความกล้าของ Faith ทำให้เรากล้าที่จะลองมากขึ้นด้วย เธอพยายามที่จะผลักดันขีดจำกัดของศักยภาพมนุษย์ ซึ่งหมายความว่าเธอก็กำลังท้าทายให้เราก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ไปด้วยในตัว

ถ้าเธอเข้าเส้นชัยภายในเวลาไม่เกิน 4 นาที ผลที่ได้มันไม่ใช่แค่สถิติโลกอันใหม่ แต่จะทำให้ทุกคนมองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ สำหรับผู้หญิงในวงการกีฬาด้วย

BRETT KIRBY
หัวหน้าแผนก Scientist-Applied Performance Innovation
Breaking4 ผู้นำทีมการบูรณาการประสิทธิภาพ

ตลอดเส้นทางอาชีพของ Brett Kirby เขาคือผู้ที่เปลี่ยนเป้าหมายสุดท้าทายให้กลายเป็นแผนที่ลงมือทำได้จริง ในฐานะหนึ่งในผู้นำของ Breaking2 (โปรเจกต์ที่ Nike ให้การสนับสนุนเพื่อผลักดันให้ Eliud Kipchoge วิ่งมาราธอนในเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้สำเร็จ) เขาคุ้นเคยกับการตั้งเป้าให้ไกลอยู่แล้ว สำหรับภารกิจ Breaking4 ครั้งนี้ Kirby ได้ช่วยคุมทิศทางของวิทยาศาสตร์และการคิดเชิงระบบที่เป็นรากฐานของภารกิจ โดยผสานทั้งข้อมูล การทดสอบ และการดีไซน์เพื่อช่วยให้ Kipyegon ได้เปรียบในทุกๆ มิติในการสร้างประวัติศาสตร์

ครั้งแรกที่ผมได้ข่าวว่า Faith จะพยายามทุบสถิติวิ่ง 1 ไมล์ภายใน 4 นาที บอกตรงๆ เลยว่าผมถึงกับชะงัก ผมนึกในใจว่า เดี๋ยวก่อน ว่าไงนะ ดูท่าทางไม่น่าจะเป็นไปได้เลย มันฟังดูไกลเกินเอื้อมมากๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่เรามองว่าเป็นไปได้ จากนั้นผมตั้งสติแล้วก็บอกตัวเองว่า นี่เรากำลังพูดถึง Faith Kipyegon อยู่นะ ทันใดนั้นมุมมองมันก็เปลี่ยนไปเลย เพราะนี่คือจังหวะที่ใช่ คือนักกีฬาที่ใช่ แล้วจะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไง

นับจากนั้นมันก็กลายเป็นความมุ่งมั่น สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะจากโปรเจกต์อย่าง Breaking2 คือเวลาเรามีใจมุ่งมั่นที่จะพิชิตเป้าหมายยิ่งใหญ่ ความคิดสร้างสรรค์มันจะเริ่มหลั่งไหลออกมา พอเริ่มลงมือแล้วรู้สึกว่าถอยไม่ได้เด็ดขาด เราก็จะเริ่มทำอะไรที่ต่างไปจากเดิม เราจะขยับขยายไปหาไอเดียใหม่ๆ ร่วมมือกับคนอื่นอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น แล้วก็ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ดูเอื้อมถึงได้มากขึ้น

เราไม่ได้มีโร้ดแมปสำหรับโปรเจกต์ในครั้งนี้ ซึ่งผมว่านี่แหละคือสิ่งที่ทำให้มันเป็นโปรเจกต์ที่เยี่ยม ความทุ่มเททั้งหมดสัมฤทธิ์ผลได้ก็เพราะว่าเราไม่ได้กำหนดอะไรไว้ตายตัว ผมชอบโปรเจกต์ที่มากับความไม่แน่นอน มีโอกาสให้เราได้ค้นพบอะไรใหม่ๆ งานของเราในแต่ละวันคือหาจุดสมดุลระหว่างการค้นคว้าสิ่งที่เป็นไปได้กับการมอบคำตอบให้ทีมอื่น มันคือการรังสรรค์งานศิลปะที่ผสมผสานทั้งการสำรวจหาความรู้และการลงมือทำจริง

ความมุ่งมั่นของ Faith จุดไฟในตัวเราให้ลุกโชนกว่าเดิม การได้เห็นว่าเธอจริงจังและให้ความเคารพต่อความสำคัญของเป้าหมายนี้มากแค่ไหนมันทำให้เราอยากเต็มที่ยิ่งขึ้นไปด้วย ผมรู้สึกได้เลยว่าผมผลักดันตัวเองหนักขึ้น ปรับความคิดและขยายขอบเขตออกไปไกลขึ้น ผลคือทุกคนร่วมใจกันทุ่มเทเต็มที่ไม่ต่างจากมาตรฐานที่ Faith ตั้งไว้

เวลาผมจินตนาการถึงภาพ Faith ที่กำลังวิ่งอยู่บนลู่ในปารีส ผมหวังอย่างเดียวว่าเธอจะรู้สึกตัวเบา รู้สึกสบาย รู้สึกเหมือนว่านาทีนี้โลกเป็นของเธอ ร่างกายและจิตใจของเธออยู่ในจุดที่สมดุลกันอย่างลงตัว

ถ้า Faith ทลายกำแพงนี้สำเร็จ สถิติใหม่จะไม่ใช่แค่ของเธอคนเดียว แต่จะเป็นของคนทุกคนที่ฝันไกล เพราะพวกเขาได้เห็นว่ามันมีโอกาสเป็นจริง

JANETT NICHOL
รองประธานแผนกนวัตกรรม
Breaking4 ผู้นำทีม Nike FlyWeb

วินาทีที่ Janett Nichol ได้รับแจ้งผ่านโทรศัพท์เกี่ยวกับภารกิจ Breaking4 เธอเห็นถึงโอกาสครั้งใหญ่ในการช่วยกำกับทิศทางของนาทีประวัติศาสตร์ผ่านดีไซน์และนวัตกรรม Nichol คือผู้นำที่มีประสบการณ์โชกโชนจากแผนกนวัตกรรมของ Nike และเคยสนับสนุนการพิชิตเป้าหมายสุดท้าทายอย่างภารกิจวิ่งมาราธอนในเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมงของ Eliud Kipchoge มาแล้ว เธอจึงรู้ดีว่าสูตรสำเร็จในการสร้างโมเมนต์ประวัติศาสตร์ไม่มีอยู่จริง แต่เธอก็รู้เช่นกันว่าการพยายามสร้างโมเมนต์นั้นจากศูนย์ต้องใช้อะไรบ้าง ทีมของเธอไม่ลังเลที่จะทุ่มเทให้กับการรังสรรค์ระบบนวัตกรรมสำหรับสวมใส่ในวันแข่งของ Kipyegon โดยวางกลยุทธ์ให้เกิดเป็นโซลูชันที่ครอบคลุมทั้งตัวแบบเก็บทุกรายละเอียด รวมถึงการใช้บราที่ผลิตจากวัสดุล้ำนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ Nike

เราต้องสร้างนวัตกรรมระดับพลิกเกม เพราะทุกวินาทีมีความหมาย ฉันรู้ว่าเราต้องทำความเร็วในระดับที่เทียบเคียงความเร็วของ Faith ได้ เราก็เลยตั้งคำถามกับตัวเองว่า คลังนวัตกรรมของเรามีอะไรบ้างที่จะเอาออกมาใช้สนับสนุนเธอได้ แล้วเราจะพัฒนามันยังไงให้ดีขึ้น แล้วก็เร็วขึ้น

หนึ่งในนวัตกรรมที่เราเลือกคือ Nike FlyWeb เราพัฒนานวัตกรรมนี้มาก่อนแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราจะทดสอบ Nike FlyWeb บนเวทีระดับโลกด้วยการนำมาสร้างบราที่มีแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น นี่คือโอกาสหายากที่ Faith มอบให้เรา เพราะเธอไม่ได้แค่จะสวมมันเท่านั้น แต่ยังจะช่วยเราพัฒนามันด้วย ข้อเสนอแนะของเธอเปรียบเหมือนเชื้อเพลิง เราโฟกัสแบบเน้นๆ กับทุกอย่าง ตั้งแต่การดูดซับเหงื่อ การระบายอากาศผ่านการออกแบบเชิงโครงสร้าง ความเบา ไปจนถึงการซัพพอร์ต บราตัวนี้ต้องให้สัมผัสเหมือนเป็นผิวหนังชั้นที่ 2 แต่ก็ยังต้องตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านประสิทธิภาพของนักกีฬาชั้นนำด้วย

การพัฒนาในทุกแง่มุมที่เกิดขึ้นเพราะเธอจะส่งแรงกระเพื่อมไปถึงดีไซน์ต่างๆ ในอนาคต แล้วก็ไม่ใช่แค่เพื่อเธอ แต่เพื่อผู้หญิงทุกคนที่ฝึกหนัก ลงแข่งขัน และมีความฝัน นั่นคือพลังของวัสดุที่ล้ำนวัตกรรมแบบนี้

Faith เชื่อมั่นในตัวเรา แล้วเราก็จริงจังกับความรับผิดชอบในครั้งนี้ เป้าหมายสำคัญของการเปิดตัว Nike FlyWeb ไม่ใช่แค่การปรับให้บราใช้งานได้ดีขึ้น แต่บรายังต้องออกมาสวย สื่อถึงอารมณ์ เป็นภาพตัวแทนของความแข็งแกร่งและความสง่างาม 

ปารีสจะเป็นเวทีให้ Faith แสดงฝีเท้า แม้เราจะไม่ได้วิ่งเข้าเส้นชัยไปกับเธอ แต่ฉันจะสัมผัสได้ถึงทุกย่างก้าว เพราะฉันรู้ว่าทีมของเราได้ทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอไปถึงเส้นชัย ถือว่าเป็นเกียรติของชีวิตเลย

AMY JONES VATERLAUS
รองประธานแผนก Women’s Research, Nike Sport Research Lab
Breaking4 ผู้นำทีมนวัตกรรม

ด้วยความรู้ด้านวิทยาการหุ่นยนต์ประยุกต์และประสบการณ์การขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยการผสานวิทยาศาสตร์เข้ากับการกีฬามาเป็นเวลายี่สิบปี Amy Jones Vaterlaus จึงแสดงฝีมือได้ดีเมื่อต้องเจอกับความท้าทายที่มีเดิมพันสูงและไม่มีอะไรแน่นอน สำหรับภารกิจ Breaking4 เธอรับบทบาทเป็นศูนย์กลางที่กำกับทิศทางให้ทีมต่างๆ ตั้งแต่เครื่องแต่งกาย รองเท้า และวิทยาศาสตร์การเสริมประสิทธิภาพทำงานสอดคล้องกันเมื่อมีการปรับเปลี่ยนลำดับความสำคัญและเมื่อได้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับกลยุทธ์หรือทบทวนความเชื่อเดิมๆ ใหม่ Vaterlaus ก็ได้มีส่วนช่วยให้ทีมพร้อมเคลื่อนไหวอยู่เสมอ โดยมีเป้าหมายเดียวคือการสร้างระบบบูรณาการที่ออกแบบมาให้ Kipyegon มีข้อได้เปรียบในทุกด้านที่เป็นไปได้

บางโปรเจกต์จะผลักดันความคิดของเรา ขณะที่บางโปรเจกต์จะอยู่กับเราไปอีกนาน แม้ว่าจะจบลงไปแล้วก็ตาม ฉันรู้ว่าโปรเจกต์นี้จะเป็นทั้งคู่นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ฉันก้าวเข้ามาตรงนี้

ความฝันของ Faith ไม่ได้อยู่ที่การแข่งครั้งเดียวหรือเป้าหมายเดียว แต่เป็นการผลักดันขอบเขตของความเป็นไปได้ ทั้งสำหรับตัวเธอเอง ผู้หญิงในวงการกีฬา และสำหรับใครก็ตามที่ไล่ตามสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง พอสัมผัสเอเนอร์จี้แบบนี้ เราก็รู้สึกอยากทุ่มเทเต็มที่ไปด้วย

ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันได้ข่าวเกี่ยวกับ Breaking4 ฉันไม่ลังเลเลย ความรู้สึกแรกของฉันคือ เราเอาด้วย เราต้องทำอะไรกันบ้าง ฉันรู้ทันทีว่าโปรเจกต์นี้จะสำคัญและท้าทายแค่ไหน แต่ก็รู้เช่นกันว่า Nike ถือกำเนิดมาเพื่อความท้าทายด้านนวัตกรรมที่ดูยากเกินเอื้อมแบบนี้แหละ แล้วนี่ก็เป็นสิ่งที่ตัวฉันเองชอบทำมากด้วย

หน้าที่ของฉันคือการจัดการ รวบรวมผู้เชี่ยวชาญเก่งๆ ทั้งหลายจากทั้งแผนกรองเท้า เครื่องแต่งกาย วิทยาศาสตร์การเสริมประสิทธิภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ใช่เพียงเพื่อจัดระเบียบ แต่เป็นการช่วยให้เกิดการทำงานเป็นทีม ซึ่งดีกว่าทำงานแยกกัน ดูแลให้ทุกทีมยืดหยุ่นอยู่เสมอ กระฉับกระเฉงอยู่เสมอ คอยดูให้แน่ใจว่าเราซื่อสัตย์กับความรู้สึกว่าอะไรบ้างที่เวิร์กและอะไรบ้างที่ไม่เวิร์ก และเต็มใจที่จะปรับเปลี่ยนเมื่อจำเป็น

มีหลายอย่างเลยที่เราต้องปรับเปลี่ยน ความเร็วเป็นปัจจัยแรกที่สำคัญ แต่ต่อมาเครื่องแต่งกายก็ขยับมามีบทบาทที่ใหญ่ยิ่งกว่า การเปลี่ยนแปลงระดับนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับฉันในฐานะผู้นำ ฉันต้องเรียนรู้ที่จะหยุดคิด ประเมินสถานการณ์ใหม่ และบางครั้งก็เปลี่ยนทิศทางไปเลยแม้ทุกเสียงในใจจะตะโกนบอกให้เดินหน้าต่อ

ความกล้าหาญของ Faith ผลักดันให้ฉันคิดถึงศักยภาพตัวเองเหมือนกัน ฉันแสดงความเห็นมากพอหรือยังนะ ฉันมองให้ไกลไปกว่าแค่โมเมนต์นี้หรือยังนะ นี่ไม่ใช่แค่โปรเจกต์ธรรมดา แต่นี่คือตำนาน เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวในวงกว้างเพื่ออุดช่องว่างเกี่ยวกับข้อมูลความรู้เรื่องประสิทธิภาพของผู้หญิง และเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นไปได้ในวงการกีฬา

จังหวะที่ Faith วิ่งไปบนลู่ ฉันหวังว่าเธอจะสัมผัสได้ทุกอย่าง ทั้งความภูมิใจ ความรัก และพลังทุกหยาดหยดจากคอมมูนิตี้ทั่วโลกที่ส่งแรงใจไปให้เธอ แล้วฉันรู้ดีว่าตัวเองคงจะยืนร้องไห้อยู่แถวๆ นั้น พร้อมกับรู้สึกว่าแค่ได้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจนี้ก็นับเป็นเกียรติแล้ว

ในฐานะเพื่อนสนิทและตัวแทนฝ่ายการตลาดสินค้ากีฬาที่ทำงานร่วมกับ Kipyegon มาอย่างยาวนาน Simon Bairu ได้เฝ้าดูเส้นทางอาชีพนักวิ่งของ Kipyegon อย่างใกล้ชิดและเป็นสักขีพยานในโมเมนต์สำคัญแทบจะทุกโมเมนต์ ตัว Bairu เคยเป็นนักวิ่งระยะไกลมืออาชีพมาก่อน เขาจึงรู้ดีว่านักกีฬาอย่าง Kipyegon หาได้ยากขนาดไหน รวมทั้งได้สัมผัสเองกับตาว่าตัวเธอส่งพลังออกมาได้มากมายเพียงใด เขาดูแลเธอในชีวิตประจำวัน สนับสนุนความฝันของเธอไม่ว่าจะทะเยอทะยานแค่ไหน บทบาทของ Bairu ถือเป็นการดูแลโลจิสติกส์ส่วนหนึ่ง สนับสนุนส่วนหนึ่ง แต่ทุกส่วนคือทำด้วยใจ

ตอนแรกที่ Faith ตัดสินใจจะพิชิตสถิติวิ่ง 1 ไมล์ภายใน 4 นาที ผมไม่รู้สึกแปลกใจเลย เพราะนี่แหละคือตัวตนของเธอ เธอไม่ใช่คนที่จะค่อยๆ ก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่ แต่จะวิ่งพุ่งเข้าไปหา เธอเคยบอกเราแล้วว่าปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่เธอจะโฟกัสกับรายการ 1,500 เมตร แล้วเธอก็อยากฝากผลงานไว้ให้เป็นที่จดจำ ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเธอเอง แต่เพื่อผู้หญิงทุกคนที่กำลังไล่ตามสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน

โปรเจกต์แบบนี้เป็นงานที่ท้าทายแล้วก็ไม่แน่นอน แต่มันทำให้เราตื่นเต้น เพราะเรารู้ว่ามันมีความหมายสำคัญเกินไปกว่าแค่ในวงการกีฬา วินาทีแรกที่ Faith บอกว่าอยากลองพิชิตเป้าหมายนี้ ทุกคนใน Nike ก็รวมตัวกันเพื่อตั้งคำถามเลยว่า เราจะช่วยเธอทุบสถิตินี้ได้ยังไงบ้าง เพราะนั่นคือสิ่งที่เราถนัดมากที่สุด

ผมได้เห็นเองกับตาว่าเธอทุ่มเทหนักแค่ไหน ยอมเสียสละมากแค่ไหน ใส่ใจลึกซึ้งแค่ไหน มันเป็นแรงผลักดันให้ผมถีบตัวเองตามไปด้วย งานของผมคือการทำความเข้าใจว่าตอนนี้เธอต้องการอะไร แล้วก็ช่วยให้เธอได้ในสิ่งที่ต้องการ นี่แหละครับแก่นสำคัญของบทบาทนี้ แน่นอนว่าผมสนับสนุนเธอในโมเมนต์ที่สำคัญ แต่ก็รวมไปถึงโมเมนต์เล็กๆ ที่คนอื่นไม่ได้เห็นด้วย

Faith เป็นนักแข่งที่ดุดัน แต่เธอก็มีด้านที่เฉียบคมและหลักแหลมซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสได้สัมผัส เวลาที่เธอปล่อยตัวตามสบาย เราจะรู้สึกถึงความชิลและขี้เล่นของเธอครับ ผมรู้สึกโชคดีที่เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ได้เห็นด้านนี้ของเธอ

เมื่อถึงวันงานที่ปารีส อุปกรณ์จะพร้อมในทุกมิติ วิทยาศาสตร์จะคำนวณทุกอย่างไว้แล้ว ส่วนผมก็จะคิดอย่างเดียวว่าภูมิใจจังเลย ครั้งแรกที่ผมได้เห็นเธอลงแข่งคือตอนเธอคว้าเหรียญทองที่ริโอ ตัดภาพมาตอนนี้เธอกลายเป็นทั้งแชมป์ คุณแม่ ผู้นำ และตัวแทนที่จะเปลี่ยนความเชื่อเกี่ยวกับขีดความสามารถของผู้หญิง ในจังหวะนั้นเวทีจะเป็นของเธอ ไม่ว่านาฬิกาจะจับเวลาได้เท่าไหร่ก็ตาม

วินาทีที่เธอทุบสถิติ 4 นาที เธอไม่ได้จะเป็นแค่เจ้าของสถิติใหม่ แต่จะทำให้เด็กผู้หญิงทุกคนที่ดูอยู่เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับศักยภาพของตัวเอง ผมไม่ตั้งคำถามเลยว่าเธอจะทำได้หรือไม่ได้ เพราะผมรู้ว่าเธอทำแน่

LISA GIBSON
ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส แผนกนวัตกรรม
Breaking4 ผู้นำทีมเครื่องแต่งกาย

Lisa Gibson คืออดีตนักกีฬาโปโลน้ำโอลิมปิกทีมชาติบริเตนใหญ่ เธอจึงรู้ว่าโจทย์ของการแข่งระดับแนวหน้ามีอะไรบ้างทั้งในด้านของร่างกายและจิตใจ ปัจจุบันเธอเป็นผู้นำในแผนกนวัตกรรมเครื่องแต่งกายที่ Nike และเธอก็นำชุดความคิดแบบนักกีฬามาปรับใช้ในภารกิจ Breaking4 ผ่านการกำกับการสร้างสปีดสูทที่ Kipyegon จะใส่ในวันแข่ง Gibson เน้นความสำคัญไปที่ประสิทธิภาพ ความสบาย และความมีอิสระในการเคลื่อนไหว ตั้งแต่การสร้างต้นแบบไปจนถึงดีไซน์ขั้นสุดท้าย เธอสร้างความไว้วางใจกับนักกีฬาทุกๆ คน

ตอนได้ข่าวเกี่ยวกับ Breaking4 ครั้งแรก ความรู้สึกของฉันคือทึ่งแล้วก็มีไฟ มันเป็นภารกิจที่น่าเหลือเชื่อ เป็นโอกาสพลิกเกมสำหรับวงการกีฬาหญิงอย่างแท้จริง ไม่ว่า Faith จะทุบสถิติวิ่ง 1 ไมล์ใน 4 นาทีได้สำเร็จหรือไม่ แค่ความกล้าที่จะพิชิตภารกิจนี้ก็ถือเป็นหมุดหมายสำคัญแล้ว เราต้องฝันให้ไกล อย่าปล่อยให้ความกลัวฉุดรั้ง นั่นคือสิ่งที่เธออยากบอกคนทั้งโลก แล้วก็เป็นสิ่งที่เราอยากสนับสนุนด้วยเช่นกัน

หัวใจสำคัญของบทบาทฉันไม่ใช่ความเชี่ยวชาญในเรื่องวัสดุหรือการดีไซน์ แต่เป็นการคอยดูให้แน่ใจว่าเราทุกคนทำงานสอดคล้องกันเป็นทีมเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์เดียวกัน นั่นคือการทำทุกวิถีทางเพื่อสนับสนุน Faith เรายึดความเห็นของเธอเป็นหลักตั้งแต่วันแรก เพราะสิ่งที่สำคัญไม่ใช่การสร้างนวัตกรรมเสริมประสิทธิภาพ แต่คือการรับฟัง คือการบอกให้ Faith รู้นะ ว่าเรารับรู้ และสร้างทุกอย่างเพื่อเธอ

เราใส่ใจทุกรายละเอียดแบบเน้นๆ เราทดสอบและตรวจดูกราฟิกทุกลาย วัสดุทุกชนิดที่ใช้ ทุกตะเข็บที่เย็บ ถ้ามีส่วนไหนจำกัดการเคลื่อนไหวของ Faith แม้แต่นิดเดียว ตัวอย่างเช่นส่วนคอที่สูง เราก็จะโละทิ้งเลยทันที เราต้องสร้างไอเท็มที่เคลื่อนไหวไปพร้อมกับร่างกายของเธอได้ครบทุกอณู ความมีอิสระในการเคลื่อนไหวจึงเป็นเหมือนดาวนำทางให้กับเรา การใช้งานต้องมาก่อนรูปทรง ความสบายของ Faith ต้องมาก่อนทุกอย่างที่เหลือ

การทำลายความเชื่อเดิมๆ เป็นสิ่งที่เราต้องทำทุกวัน เราท้าทายความคิดตัวเองอยู่เรื่อยๆ เช่น ไอเท็มที่เป็นตัวพลิกเกมอาจจะไม่ใช่รองเท้า แต่เป็นเครื่องแต่งกายก็ได้นะ เราจะผลักดันองค์ประกอบด้านอากาศพลศาสตร์ได้มากแค่ไหน โดยที่ไม่ไปลดทอนสัมผัสที่ Faith จะได้รับขณะแข่ง พอเรารวบรวมคนฉลาดมาไว้ในที่เดียวกันเยอะๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ ดีไซเนอร์ หรือวิศวกร ถ้าทุกคนมุ่งมั่นที่จะบรรลุจุดประสงค์เดียวกัน ผลที่ได้ก็จะเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายค่ะ

ฉันอยากให้ Faith รู้สึกทรงพลัง มั่นใจ พร้อมลุย เหมือนไม่มีใครมาหยุดเธอได้ ฉันหวังว่าเธอจะสัมผัสได้ว่าเราทุ่มแรงใจ แรงกาย และแรงศรัทธาใส่ลงไปเพื่อเธอมากแค่ไหน เธอได้เปลี่ยนวงการกีฬาไปตลอดกาลแล้ว แค่คราวนี้เธอจะได้แสดงให้คนทั้งโลกเห็นกับตา