Mary Ngugi กำลังเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ภายในค่ายฝึกวิ่งให้ผู้หญิงเคนยา
- 14/5/2567

จากชีวิตที่เติบโตในเคนยาใต้ ความทรงจำแรกสุดที่ Mary Ngugi จำได้เกี่ยวกับแม่ของเธอคือการที่แม่ต้องเดินไปแม่น้ำท้องถิ่นในทุกๆ วันเพื่อหาบน้ำกลับมาที่ชุมชนคิคูยูของเธอ ซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองไนโรบี แชมป์นักวิ่งระยะกลางคนนี้จำได้ว่าชีวิตแม่ของเธอซึ่งถูกจำกัดให้ทำแต่การบ้านการเรือนนั้นถูกกำหนดไว้เข้มงวดมากแค่ไหน เมื่อ Ngugi โตขึ้น เธอก็เริ่มกังวลว่าเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจะถูกจำกัดให้อยู่แต่ในบทบาททางสังคมนั่นคือภรรยาและแม่ ดังนั้นเมื่ออายุได้ 17 ปีและโค้ชวิ่งของเธอชวนมาเข้าร่วมทีมท้องถิ่นของเขา เธอจึงตอบตกลงทันที
Mary กลายเป็นหนึ่งในนักวิ่งระยะไกลที่ฉายแววโดดเด่นที่สุดของเคนยาอย่างรวดเร็ว โดยเธอทำผลงานคว้าแชมป์เยาวชนระดับทวีปแอฟริกามาได้ในปี 2007 ในรายการ 5,000 เมตร แต่ท่ามกลางความสำเร็จที่ได้รับมา เธอกลับเห็นถึงตัวเลือกที่ยังคงมีเพียงน้อยนิดสำหรับนักวิ่งหญิง ซึ่งเป็นความจริงที่มีที่มาจากประสบการณ์ภายในค่ายฝึกฝนและสโมสรกรีฑาที่ผู้ชายเป็นใหญ่
"เส้นทางที่ดูเหมือนจะดีสำหรับนักวิ่งหญิงอนาคตไกลอาจกลายเป็นประสบการณ์อันชอกช้ำได้เลย โดยเฉพาะกับเด็กสาวที่อายุยังน้อย" Mary กล่าว "พวกเธอถูกใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกให้ยินยอมในหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน บ้านอยู่อาศัยถาวร การเป็นแม่ และเรื่องอื่นๆ ทั้งหมดก็เพื่อแลกกับการได้อยู่ในสายอาชีพนักกีฬาต่อไป"
เพื่อตอบสนองต่อปัญหานี้ Mary เกิดแรงบันดาลใจและได้ก่อตั้งองค์กรหญิงล้วน Nala Track Club ขึ้นในปี 2022 ที่เมืองนยาฮูรูรู Mary ต้องการมอบโอกาสให้เยาวชนหญิงชาวเคนยาได้ประสบความสำเร็จในการวิ่งระดับกึ่งอาชีพผ่านประสบการณ์ในค่ายฝึกฝนที่ปลอดภัยและพร้อมให้การสนับสนุน
"เส้นทางที่ดูเหมือนจะดีสำหรับนักวิ่งหญิงอนาคตไกลอาจกลายเป็นประสบการณ์อันชอกช้ำได้เลย โดยเฉพาะกับเด็กสาวที่อายุยังน้อย"
Mary เล่าว่า Nala Track Club มีเป้าหมายในการสนับสนุนคนๆ หนึ่งแบบรอบด้าน ไม่ใช่แค่ในด้านกีฬา และยังเสริมอีกว่ารากฐานของความไม่เท่าเทียมระหว่างนักกีฬาหญิงและชายนั้น เกิดจากการมองผู้คนเป็นเหมือนทักษะที่จะสร้างประโยชน์ให้กับฝั่งที่มีอำนาจ
"นักกีฬาไม่ได้เป็นแค่ศักยภาพทั้งหมดที่แต่ละคนมี นักวิ่งของเราต้องรู้ว่าเราใส่ใจพวกเธอในฐานะมนุษย์" Mary กล่าว "พวกเธอมีความสำคัญในฐานะมนุษย์อยู่แล้วตั้งแต่ก่อนจะเข้าทีมของเราหรือเข้าร่วมการแข่งขัน ถ้าเราสนับสนุนแค่เส้นทางอาชีพนักกีฬาของพวกเธอ ก็นับว่าเราละเลยส่วนสำคัญที่สุดของศักดิ์ศรีของพวกเธอในฐานะปัจเจกบุคคล ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรเลยกับความสำเร็จของพวกเธอในวงการกีฬา"
Mary ต้องการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์เช่นนั้น Nala Track Club ต้องมอบบริการที่ช่วยดูแลจัดการอย่างชัดเจนในเรื่องความต้องการขั้นพื้นฐานที่สุดของมนุษย์ เช่น อาหาร ที่พักอาศัย และการศึกษา โดยไม่ต้องยอมแลกหรือยอมทำสิ่งใด แต่การดูแลนักกีฬาในแบบองค์รวมก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ซึ่ง Ngugi ก็บอกว่าค่าใช้จ่ายหลายอย่างนับว่าคลาดสายตาได้ง่าย ลองนึกถึงนักกีฬาที่เดินทางกลับบ้านในช่วงคริสต์มาส พวกเขาเหล่านี้จำเป็นต้องใช้การขนส่ง ใครกันที่จะมาช่วยจ่ายในจุดนี้ หรือถ้าเกิดต้องเข้าโรงพยาบาลโดยไม่คาดคิดล่ะ นอกจากค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ก็ยังมีค่าใช้จ่ายที่เห็นได้ชัดกว่าซึ่งเกี่ยวข้องกับความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ เช่น อาหาร ที่พักอาศัย และการศึกษา จะเห็นได้ว่าการมอบประสบการณ์ภายในค่ายฝึกฝนที่ครอบคลุมทุกด้านให้นักกีฬานั้นมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างทีเดียว
ตัวแทนของ Nike ได้ติดต่อหา Mary เมื่อปีที่แล้วเพื่อพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการประสานงานกับ Nala Track Club เพื่อช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่สำคัญที่สุดของโครงการนี้ โดยเงินส่วนอื่นจะนำไปสนับสนุนเป้าหมายหลัก 2 ประการที่สอดคล้องกับความหวังที่ Mary มีต่ออนาคตของเหล่านักวิ่งหญิงชาวเคนยา นั่นคือการพัฒนาโค้ชผู้หญิงในเคนยาให้เพิ่มมากขึ้นและมีคุณสมบัติเหมาะสมยิ่งขึ้น และการช่วยสนับสนุนเงินทุนเพื่อเพิ่มโอกาสรับทุนการศึกษาพร้อมที่พักให้เหล่านักวิ่ง
การลงทุนในสิ่งเหล่านี้เชื่อมโยงกลับมาสู่ความเชื่อของ Mary เกี่ยวกับการมีตัวแทน วลีหนึ่งว่าไว้ "You can’t be what you can’t see" (หากไม่มีบุคคลต้นแบบ ก็เป็นบุคคลเช่นนั้นไม่ได้) ถ้าเยาวชนหญิงหลายคนมากขึ้นมองเห็นหนทางในการเป็นโค้ชจากบุคคลที่เธอรู้จักในชีวิตจริง พวกเธอก็มีแนวโน้มจะก้าวเข้าสู่เส้นทางอาชีพนั้นมากขึ้น การได้เห็นทางเลือกเพิ่มเติมเช่นนี้จะช่วยให้เยาวชนหญิงมีตัวเลือกที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมาก
Mary พิจารณารายละเอียดอื่นๆ จากประสบการณ์ภายในค่ายฝึกฝนสมัยใหม่อย่างละเอียด เธออยากให้เยาวชนหญิงมองเห็นภาพสะท้อนของตัวเองจากผู้ใหญ่ภายในค่ายที่มีอาชีพหลากหลาย แม้อาชีพเหล่านั้นจะไม่ได้เกี่ยวพันโดยตรงกับกรีฑาก็ตาม Chris Cooper ผู้เป็นช่างภาพชาวยุโรปและสามีของ Mary จำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยพูดคุยกับ Mary เกี่ยวกับการพาช่างภาพหญิงเข้ามาให้มากขึ้นเพื่อบันทึกประสบการณ์ภายในค่าย
"Mary ยืนกรานในเรื่องนั้นมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ" Cooper กล่าว "เราถามตัวเองว่า 'เด็กๆ จะคิดยังไงถ้าเห็นว่ามีแต่ชายผิวขาวชาวยุโรปคอยถ่ายรูปพวกเธอ' เราน่าจะเทรนช่างภาพหญิงจากที่นี่ให้เพิ่มมากขึ้น เด็กสาวเหล่านี้จะได้เห็นภาพตัวเองที่เป็นช่างภาพด้วย"
แนวทางเดียวกันนี้ก็ใช้ได้จริงเช่นกันสำหรับสายอาชีพอย่างนักกายภาพบำบัด แทนที่จะมอบหมายให้นักกายภาพบำบัดที่เป็นผู้ชายมาประจำที่ค่ายฝึก Mary และเจ้าหน้าที่ได้ตามหานักกายภาพบำบัดที่เป็นผู้หญิงเพื่อให้เยาวชนหญิงเห็นตัวเองในสายอาชีพอื่นๆ นอกเหนือจากในวงการนักกีฬาอาชีพ
Mary ทบทวนถึงผลที่เกิดขึ้นจากการร่วมงานกับ Nike และได้กล่าวว่าความสัมพันธ์นี้เป็น "จุดเปลี่ยนชีวิต"
"ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการค่ายฝึกมันเยอะมาก" Ngugi กล่าว "ฉันได้รับความไว้วางใจให้จัดหาอาหารและที่อยู่ให้เด็กสาวเหล่านี้ การที่ Nike ยื่นมือเข้ามาช่วยมันเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปเลย เราสามารถแบกรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้และรับเด็กๆ มาเข้าค่ายฝึกของเราได้มากขึ้น แถมเรายังสร้างการเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้นผ่านโครงการนี้ด้วยการเทรนโค้ช ความช่วยเหลือจากพวกเขาคือทุกสิ่งที่เราต้องการเลย"
"นักกีฬาไม่ได้เป็นแค่ศักยภาพทั้งหมดที่แต่ละคนมี นักวิ่งของเราต้องรู้ว่าเราใส่ใจพวกเธอในฐานะมนุษย์"
ยังมีสิ่งอื่นๆ อีกที่นักวิ่งหญิงคาดหวังได้จากค่ายฝึกฝนนี้ ไม่ว่าจะเป็นทุนการศึกษาแบบเต็มจำนวน (รวมถึงคอร์สเกี่ยวกับธุรกิจการกีฬา) คลาสเรียนภาษาอังกฤษ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ การออกเยี่ยมจากบุคลากรทางการแพทย์ และอีกมากมาย Mary อยากให้เด็กสาวคนอื่นๆ ได้รับอิสระในการมองชีวิตในมุมมองที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กับทางเลือกสองทาง พวกเธอจะเลือกไปเข้าค่ายหรือเป็นแม่ก็ได้ จะเลือกเป็นนักวิ่งอาชีพหรือไปเรียนก็ได้เช่นกัน ความสำเร็จของ Nala Track Club ไม่ควรจะวัดจากจำนวนนักวิ่งที่ผ่านเกณฑ์เข้าแข่งขันในระดับนานาชาติ ไม่ว่ากี่สถิติจะถูกทำลายไปก็พิสูจน์การมีอยู่ของสโมสรนี้ไม่ได้
"ชัยชนะเป็นมากกว่าแค่การไปให้ถึงเส้นชัยเป็นคนแรก" Mary กล่าว "มีนักกีฬาอยู่มากมายที่ชนะการแข่งขันในระดับสูงๆ แต่สุดท้ายก็ถูกลืม สิ่งที่ทำให้ผู้คนจดจำคุณก็คือการกระทำของคุณที่มีผลต่อชีวิตของพวกเขา Nala Track Club จะได้รับชัยชนะเมื่อมันเปลี่ยนชีวิตผู้คนได้ นั่นแหละคือสิ่งที่เรากำลังพยายามทำอยู่"

"สิ่งที่ทำให้ผู้คนจดจำคุณก็คือการกระทำของคุณที่มีผลต่อชีวิตของพวกเขา" Ngugi กล่าว "Nala Track Club จะได้รับชัยชนะหากสามารถเปลี่ยนชีวิตผู้คนได้ นั่นแหละคือสิ่งที่เรากำลังพยายามทำอยู่"