• เรื่องเด่น

Faith Kipyegon พร้อมแล้วที่จะสร้างประวัติศาสตร์

  • 23/4/2568

โดย Maisie Skidmore

ช่วงเช้ามืดของวันพฤหัสบดีที่หนาวเย็นกลางเดือนมีนาคม ไม่กี่นาทีก่อนพระอาทิตย์ขึ้น มีนักวิ่งท้องถิ่นจำนวนมากมารอที่หน้าประตูทางเข้าของค่าย Global Sports Communication Camp ในภาคตะวันตกของเคนยา เพื่อร่วมวิ่งไปกับนักกีฬาในค่ายระหว่างที่พวกเขาวิ่งไกลประจำสัปดาห์ เส้นทางวิ่งมีระยะตั้งแต่ 20 ถึง 40 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับว่าในตารางเทรนนิ่งของนักกีฬานั้นระบุว่าต้องฝึกความเชี่ยวชาญด้านไหน การออกกำลังกายวันนี้จะเป็นการวิ่งไปกลับรวม 30 กิโลเมตร นักวิ่งท้องถิ่นจะพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อวิ่งให้ได้เพซเดียวกับนักกีฬา และแตกกลุ่มไประหว่างทาง ท่ามกลางเหล่านักกีฬาระดับเทพมีหนึ่งคนที่โดดเด่น นั่นก็คือหนึ่งในสุดยอดนักกีฬากรีฑาตลอดกาลอย่าง Faith Kipyegon 

เมื่อพระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้า ท้องฟ้าสีม่วงเข้มก็พลันเปลี่ยนเป็นสีชมพู อากาศหอมอบอวลไปด้วยกลิ่นควันไม้และยูคาลิปตัส เวลา 6 โมงตรง นักวิ่งเริ่มออกตัว ดีดเท้าจากพื้นถนนลูกรังเพื่อทำความเร็วท่ามกลางแสงสีชมพู ส้ม และเหลืองนีออนที่สว่างเป็นระยะ พวกเขามีสมาธิกับการวิ่ง ไม่พูดอะไรใดๆ สายตาจดจ่อกับทางข้างหน้า แต่ก็ยังออกท่าทางเพียงเล็กน้อยเพื่อส่งสัญญาณให้เพื่อนนักวิ่งรู้ว่ามีหลุมบ่อหรือสิ่งกีดขวาง หรือให้เปลี่ยนรูปขบวนของกลุ่มที่วิ่งไปด้วยกัน นอกจากนั้นก็มีเพียงเสียงนกร้องจิ๊บๆ ที่ดังแทรกขึ้นมา เสียงร้องของวัวควายที่ดังเป็นระยะ และเสียงรถที่แล่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว เป็นหนึ่งวันในชนบทของเคนยาที่เริ่มต้นด้วยความจริงจังอย่างเคย ระหว่างทาง กลุ่มนักวิ่งจะเห็นเด็กๆ เดินไปโรงเรียน สะพายกระเป๋าใบใหญ่เกินตัวที่เด้งขึ้นลงอยู่บนแผ่นหลังเล็กๆ นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของ Faith Kipyegon แชมป์โอลิมปิก 3 สมัยสำหรับระยะทาง 1,500 เมตร เจ้าของสถิติโลกสำหรับระยะทาง 1 ไมล์ ดีกรีนักกีฬา Nike ถึง 15 ปี และสุดยอดนักกีฬาแห่งยุค

"ตามประสาเด็กน้อยบ้านๆ คนหนึ่ง ฉันวิ่งเท้าเปล่าไปโรงเรียนและกลับบ้าน มันสนุกนะ จนตอนนี้ก็ยังสนุก"

Faith Kipyegon

"ตามประสาเด็กน้อยบ้านๆ คนหนึ่ง ฉันวิ่งไปโรงเรียนและกลับบ้าน มันสนุกนะ" เธอบอก ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา นักกีฬาสูง 157 ซม. คนนี้ก็กลับขึ้นมาจากการแช่น้ำแข็ง ใช้เสื้อแจ็คเก็ตขนดาวน์คลุมตัวเพื่อคลายความหนาวเย็น รอบตัวเธอมีเสื้อผ้าและอุปกรณ์ของเพื่อนนักกีฬาที่ตากไว้ตามพุ่มไม้ รอให้แห้งด้วยแสงแดดยามเช้าอันอบอุ่น "จนตอนนี้ก็ยังสนุก" เธอยิ้มกว้าง เมื่อก่อน Faith เป็นนักเรียนชั้นประถมที่อาศัยอยู่ใน Ndababit ซึ่งเป็นเขตชนบทที่ห่างจากค่ายแห่งนี้ราวๆ 1 ชั่วโมง เธอจึงต้องวิ่งประมาณ 10 ไมล์ต่อวัน เธอวิ่งมาเรื่อยๆ นับตั้งแต่นั้น และใส่รองเท้าลาย Swoosh วิ่งด้วย แต่ในปัจจุบัน ใจของเธอตั้งมั่นอยู่กับสิ่งเดียว ซัมเมอร์นี้ ที่สนาม Stade Charléty ณ กรุงปารีส เธอตั้งใจว่าจะทำสถิติเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถวิ่ง 1 ไมล์ได้ภายในเวลาไม่ถึง 4 นาที

สำหรับนักวิ่งหญิง การวิ่งได้ 1 ไมล์ในเวลาต่ำกว่า 4 นาทีนอกจากจะเป็นที่ยอมรับกันมาเนิ่นนานว่าไม่น่าจะเป็นไปได้แล้ว ก็มีเรื่องสภาพร่างกายของนักวิ่งหญิงที่มาจำกัดความเป็นไปได้นั้นอีกด้วย สำหรับ Faith กรอบจำกัดที่คนเชื่อกันนี้เองที่ทำให้เธอยิ่งอยากทำภารกิจ Breaking4 ให้สำเร็จ "ฉันเป็นแชมป์โอลิมปิก 3 สมัย ฉันได้ตำแหน่งแชมป์โลกต่างๆ มาแล้ว ฉันกับทีมเลยถามกันและกันว่า เราจะคว้าความสำเร็จอะไรอีกดี เราจะล่าเหรียญกันอีกไหม" เธอกล่าว "เราถามว่า ทำไมไม่ลองคิดฝันนอกกรอบบ้างล่ะ คว้าความสำเร็จในสิ่งเป็นไปไม่ได้ ทำให้มันเป็นไปได้" 

สำหรับ Faith และเพื่อนร่วมชาติเคนยาของเธอที่ใช้ระบบเมตริกนับระยะทางเป็นกิโลเมตร หน่วยไมล์ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ Faith บอกว่าระยะทางยังคงเป็น "เรื่องสำคัญ" เพราะความหมายโดยรวมก็ยังเป็นการบ่งบอกถึงความสำเร็จที่ทำได้ เธอรู้ว่าคู่แข่งจากอเมริกาเหนือวัดระยะทางที่ทำได้โดยใช้หน่วยนั้นตั้งแต่เด็ก พวกเขาวิ่งสปรินท์ในหน่วยไมล์เมื่อเข้าทดสอบความแข็งแรงของร่างกายตั้งแต่อยู่ชั้นประถมเป็นต้นไป และการวิ่งแข่งในสนามที่นับระยะทางเป็นไมล์ก็มีความเรียบง่ายที่งดงามซ่อนอยู่ นั่นก็คือการวิ่ง 4 รอบให้ได้เร็วที่สุด 

ย้อนกลับไปในปี 1954 ซึ่งก็คือเมื่อ 71 ปีก่อน นักวิ่งชาวอังกฤษ Roger Bannister คือผู้ชายคนแรกที่โด่งดังจากการวิ่งครบรอบในเวลาไม่ถึง 4 นาที โดยทำเวลาไว้ที่ 3:59.4 ก่อนที่เขาจะทำสำเร็จ ทุกคนคิดว่าไม่มีมนุษย์บนโลกคนไหนสามารถทำสถิตินี้ได้ แต่ไม่กี่ปีหลังจากที่ Bannister ทุบสถิติดังกล่าวได้ ก็มีนักกีฬาชายระดับแนวหน้าเกือบ 2,000 คนที่ทำสถิตินี้ได้เช่นกัน บางครั้ง สิ่งที่เราต้องการก็คือเครื่องพิสูจน์ 

Faith ทำลายสถิติการวิ่ง 1 ไมล์เดิมของนักวิ่งหญิง โดยทำเวลาได้ 4:07.64 ที่งานแข่ง Monaco Diamond League เมื่อปี 2023 เริ่มมีเสียงซุบซิบออกมา ผู้หญิงจะวิ่ง 1 ไมล์ภายในเวลาไม่ถึง 4 นาทีได้ไหม สำหรับความฝันอันสูงสุดครั้งใหม่ เธอจะพยายามลดเวลา 7.65 วินาทีตรงนั้นเพื่อตอกย้ำตำนานที่เธอสร้างไว้ 

"ทุกอย่างอยู่ที่ใจ สภาพร่างกายอาจจะดี แต่ถ้าใจไม่มาก็จบ ถ้าคุณบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำได้"

Faith Kipyegon

ยังไงน่ะเหรอ ทุกคนที่เคยวิ่งแข่ง 1 ไมล์มาแล้ว (และใส่เต็มตลอดทางแบบเกินพิกัด) จะรู้ว่าส่วนต่างของระยะเวลา 4:07.64 กับ 3:59.9 นั้นห่างกันมาก เพื่อช่วยขจัดความห่างนั้น Nike จึงพิจารณาทุกปัจจัยและทุกข้อได้เปรียบ ทั้งนวัตกรรมรองเท้าและเครื่องแต่งกาย รวมถึงสถานที่ อากาศพลศาสตร์ และประสิทธิภาพ Faith โฟกัสที่แรงใจข้างใน อย่างแรก เธอจะทำสิ่งต่างๆ เพื่อเอาชนะอุปสรรคทางจิตใจ "ทุกอย่างอยู่ที่ใจ" เธอบอก "สภาพร่างกายอาจจะดี แต่ถ้าใจไม่มาก็จบ ถ้าคุณบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำได้ คุณจะต้องวาดฝันถึงการฝึกซ้อมในแบบที่ดีกับกายและใจ ฝันถึงการไม่บาดเจ็บ ฝันถึงภาพของวันแข่ง ภาพของตัวคุณเองในวันนั้น และอย่าหยุดฝัน" อย่างต่อมา เธอจะต่อยอดจากรากฐานอันมั่นคงที่เธอสร้างไว้ที่โมนาโก โดยใช้ YouTube เป็นตัวช่วย "ฉันนึกถึงตอนที่ตัวเองทำลายสถิติโลกในระยะ 1 ไมล์ที่โมนาโก มันช่วยให้ฉันนึกออกว่าตัวเองวิ่งได้เร็วแค่ไหน พอได้เห็นตัวเองวิ่งในการแข่งขันเดียวกันนั้น คุณก็จะได้ไอเดียว่าอะไรบ้างที่ควรจะเปลี่ยน"

Faith ยังมีอาวุธที่ทรงอานุภาพอีกอย่าง นั่นคือแรงสนับสนุนและคำแนะนำที่ไม่เคยขาดจากเมนเทอร์และคู่ฝึกของเธออย่าง Eliud Kipchoge ผู้เคยทำสถิติที่ "ไม่น่าเป็นไปได้" สำเร็จมาแล้วในปี 2019 นั่นคือการทำลายกำแพงเวลา 2 ชั่วโมงในการวิ่งมาราธอน โดยทำเวลาไปได้ 1:59.40 Faith และ Eliud รู้จักกันมา 10 ปีแล้ว พวกเขาฝึกซ้อมในค่ายด้วยกันมาแล้ว 6 ปี ตั้งแต่ตอนที่ Faith กลับมาหลังคลอดลูกสาว ความสัมพันธ์ของพวกเขาเหมือนความสัมพันธ์ของพี่น้องที่อบอุ่น ทั้งหยอกเล่นกัน ให้เกียรติกัน และสนิทสนมกัน สองคนนี้มีนิสัยคล้ายกันหลายอย่าง คือเป็นคนมุ่งมั่น มีวินัย และทะเยอทะยาน แต่ก็มีนิสัยที่ต่างกันอยู่ Eliud จะชอบหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ตัวเองกำลังครุ่นคิดโดยไม่วอกแวก ส่วน Faith จะร่าเริงและสนุกสนาน เมื่อสังเกตจากท่าทางของพวกเขาเวลาอยู่ด้วยกัน สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในทันทีคือความเชื่อมั่นของ Eluid ที่ว่า Faith คือนักกีฬาแห่งยุคปัจจุบัน "สิ่งที่พิเศษในตัว Faith คือเธอเป็นคนเจ้าความคิด" เขาอธิบายด้วยน้ำเสียงนุ่มและสายตาที่แน่วแน่ "เธอจริงจังกับทุกเป้าหมาย เธอมีฝันที่ยิ่งใหญ่ เธอให้เกียรติทุกคน เธอเรียบเรียงสิ่งที่จะสื่อได้ดี เธอสามารถเอาหลายๆ ไอเดียมาผสมปนเปเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นไอเดียที่ดีที่สุด Faith คือผู้หญิงที่จะพิชิตความท้าทายนี้ เพราะเธอพร้อมที่จะลอง" เขายิ้มอย่างมีเลศนัย "เขาว่ากันว่า ถ้าคุณมีเป้าหมายใหญ่ในชีวิต คุณต้องตื่นให้ไวและเข้านอนให้ช้ากว่าคนอื่น แต่สำหรับนักกีฬา ถ้าคุณมีฝันที่ยิ่งใหญ่มากๆ คุณจะต้องฝึกซ้อมให้หนักขึ้นและฉลาดขึ้น ซึ่ง Faith ก็ฝึกซ้อมได้ดี"

"สิ่งที่พิเศษในตัว Faith คือเธอมีฝันที่ยิ่งใหญ่ เธอสามารถเอาหลายๆ ไอเดียมาผสมปนเปเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นไอเดียที่ดีที่สุด Faith คือผู้หญิงที่จะพิชิตความท้าทายนี้ เพราะเธอพร้อมที่จะลอง"

Eliud Kipchoge

Eliud นั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกสีฟ้าในสวนสีเขียวชอุ่มของค่าย รอบๆ มีไม้ผลที่ปลูกไว้ มีดอกไม้ และพุ่มไม้ที่ด้านล่างจะมีป้ายเขียนด้วยมือติดไว้อยู่ บางป้ายบอกถึงความสำเร็จ เหรียญรางวัล และสถิติ บางป้ายเขียนชื่อของครอบครัว เพื่อน และเพื่อนร่วมทีมที่ให้การสนับสนุนและเป็นผู้ปลูกต้นไม้ต้นนั้นเมื่อมาเยือน (ในทีม Nike เองก็แข่งกันแบบสนุกๆ ว่าต้นไม้ของใครจะเติบโตสวยงามบ้าง และของใครที่ดูแล้วไม่น่าจะรอด) นอกจากจะให้ร่มเงาได้ดีแล้ว ต้นไม้เหล่านี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเติบโต การผลิดอกออกผล และความก้าวหน้าที่ช้าแต่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเกิดจากความมุ่งมั่นที่มีอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ วัน Eliud กล่าว สวนแห่งนี้เต็มไปด้วยป้ายและโปสเตอร์ที่ตกแต่งด้วยข้อความสร้างกำลังใจทุกแนว เช่นเดียวกับบนกำแพงของอาคารภายในค่าย ทัศนคติเชิงบวกที่ปลูกฝังให้กับ Eliud และ Faith รวมถึงเพื่อนๆ นักกีฬาไม่ได้มีส่วนสำคัญกับการฝึกซ้อมเท่านั้น แต่นั่นคือสิ่งที่พวกเขาได้รับการฝึกสอน "การจะฝึกสภาพจิตใจให้แข็งแกร่งขึ้นจะต้องเริ่มจากการฝึกสภาพร่างกายให้แข็งแรงขึ้น" เขากล่าวเสริมโดยสื่อถึงกระบวนการของ Faith "ถ้าคุณซ้อมถูกวิธี ซ้อมหนัก ซ้อมอย่างมีความสุข และทำตามทุกเป้าหมายในการซ้อมได้ นั่นหมายความว่าสภาพจิตใจก็แข็งแกร่งพอแล้ว เพราะคุณได้ฝึกซ้อมทั้งร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆ กัน"

Faith และ Eluid มีโค้ชคนเดียวกัน นั่นก็คือโค้ชระดับตำนานอย่าง Patrick Sang ที่ฝึกสอนให้กับ Faith มาเป็นเวลา 6 ปี และ Eliud เป็นเวลา 23 ปี โค้ชคนนี้มองว่า เป้าหมายการวิ่ง 1 ไมล์ภายในเวลาไม่ถึง 4 นาทีนั้นเป็นความก้าวหน้าที่ Faith จะทำได้เองโดยอัตโนมัติ เพราะเธอเป็นนักกีฬาที่เยี่ยมยอด เธอมีความสามารถและความพยายามที่รวมเข้าด้วยกันโดยจิตวิญญาณอันแรงกล้าในตัวเธอ "สิ่งที่เราทำในชีวิตนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากสิ่งที่เราเริ่มต้นสักช่วงหนึ่งในอดีต" เขากล่าว เขาไล่เรียงความสำเร็จของ Faith แค่ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ก็มีทั้งเหรียญทองโอลิมปิกพร้อมสถิติโลก แชมป์โลกสมัยที่สาม และสถิติโลกสำหรับการวิ่ง 1 ไมล์ "ถ้าคุณประสบความสำเร็จได้แบบเธอ แน่นอน คุณจะไปถึงจุดที่เริ่มเกิดคำถามว่า แล้วในอนาคตล่ะ จากนั้นก็เป็นคำถามว่า แล้วในอนาคต ถ้าฉันลองล่ะ ตอนนี้เราอยู่ในช่วงของการลอง และนี่แหละคือสิ่งที่ควรค่าแก่การได้ลอง เธอเชื่อว่าเป้าหมายนั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม และด้วยแรงสนับสนุนที่เพียงพอจากทุกคนรอบตัวเธอ ผมเชื่อว่าเธอทำได้"

"ถ้าคุณประสบความสำเร็จได้แบบเธอ แน่นอน คุณจะไปถึงจุดที่เริ่มเกิดคำถามว่า แล้วในอนาคตล่ะ เธอเชื่อว่าเป้าหมายนั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม และด้วยแรงสนับสนุนที่เพียงพอจากทุกคนรอบตัวเธอ ผมเชื่อว่าเธอทำได้"

โค้ช Patrick Sang

ค่าย GSC Camp เป็นค่ายที่สงบและเรียบง่าย เสียงรอบข้างมีแค่เสียงขับขานของนก เสียงพูดคุย และเสียงหัวเราะที่ดังออกมาบ้างเป็นบางครั้ง นักกีฬาส่วนใหญ่นอนหลับในหอพักแบบแชร์กัน ในห้องเดียวกัน พวกเขาจะแบ่งหน้าที่กันทำงานบ้านและทำความสะอาด ทั้งปัดกวาด ถูพื้น แยกขยะ และไม่ว่าจะอยู่มานานแค่ไหนหรือได้แชมป์อะไร ก็ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้นสำหรับหน้าที่ที่ได้รับ ในยิมเล็กๆ จะมีลูกบอลออกกำลังกายกองไว้อยู่ที่มุมห้องข้างกับอุปกรณ์ยกน้ำหนัก เก้าอี้ไม้ที่ซ้อนกัน ลู่วิ่งไฟฟ้า และจักรยานออกกำลังกาย ด้านนอกเป็นห้องกายภาพบำบัด มีถังสีฟ้าขนาดใหญ่ 2 ถังไว้สำหรับแช่น้ำแข็ง ข้างๆ เป็นตู้แช่แข็งที่มีน้ำแข็งอยู่เต็ม นักกีฬาที่ได้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้คือนักกีฬาที่เก่งที่สุดในโลก เป็นสุดยอดนักกีฬาตลอดกาล พวกเขาเข้าถึงความสะดวก ความหรูหรา เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ได้หมด แต่หากจะพัฒนาศักยภาพถึงขีดสุด พวกเขาต้องหันหลังให้กับสิ่งเหล่านั้นตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ ทุกๆ สัปดาห์ พวกเขาเลือกที่จะนำความสามารถอันไร้ข้อกังขาของพวกเขามาใช้ผ่านการฝึกสมาธิ วินัย และทีมเวิร์ค

ทีมเวิร์คคือหัวใจสำคัญ และเป็นค่านิยมที่ชาวเคนยายึดมั่นมาตลอด เมื่อ Faith คว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาได้เป็นครั้งแรกที่ริโอในปี 2016 เธอไม่ได้ให้ราคากับรางวัลที่ยิ่งใหญ่นี้มากนัก แต่ใช้โอกาสเรียกร้องให้หมู่บ้านที่เธอเคยอยู่ตอนเด็กมีไฟฟ้าใช้ "การได้เป็นแชมป์โอลิมปิกเปลี่ยนชีวิตฉัน และเปลี่ยนชีวิตของคนในชุมชนเช่นกัน" เธอพูดถึงช่วงเวลานั้น "เมื่อคุณได้ประโยชน์ ชุมชนก็ได้ประโยชน์" และการโฟกัสชุมชนเช่นนั้นก็เป็นหลักการนำทางนักกีฬาในค่ายนี้มาตลอด "สิ่งที่ฉันชอบที่สุดเวลาอยู่ในค่ายคือทีมเวิร์ค" เธอกล่าวเสริม "ทีมเวิร์คคือสิ่งที่ขับเคลื่อนให้เราทำในสิ่งที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว" 

Eliud คือคนที่คอยขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลังแนวทางนี้ "เรากำลังสร้างทีม โดยสร้างทีมเวิร์คที่ประกอบด้วยกลุ่มคนซึ่งเชื่อมั่นในกันและกัน" เขาอธิบาย "เราสร้างทีมจากค่านิยมที่ดี คำพูดที่ดี การฝึกซ้อมที่ดี สภาพแวดล้อมที่ดี ความสัมพันธ์ที่ดี และจากทุกสิ่งที่ทำให้เกิดความเป็นมนุษย์ เราสร้างทีมเวิร์คได้ทุกวัน แม้ว่า Faith จะคว้าชัยชนะในฐานะนักกีฬาเดี่ยว แต่ความสำเร็จนั้นเป็นของทุกคนในทีม" เขาอธิบายว่าการมุ่งเน้นทีมเวิร์คนี่แหละที่ทำให้นักกีฬาใหม่ในค่ายที่ยังมีความเขินอายกล้าที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำ หรือทำให้นักวิ่งกล้าเปลี่ยนกลุ่มที่วิ่งไปด้วยกันได้ระหว่างทางที่วิ่งไกล "ในการฝึกซ้อม เราพยายามมอบโอกาสให้กับทุกคน การได้มาวิ่งข้างหน้าจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจว่าสามารถเป็นผู้นำให้กับคนอื่นได้ เราจึงพยายามผลัดเปลี่ยนเพื่อให้โอกาสและข้อคิดนั้นกับทุกคน ไปข้างหน้า จุดไฟความเชื่อมั่นในตัวเอง"

เช้าวันศุกร์ นักกีฬาในค่ายจะนำเสื่อโยคะและลูกบอลออกกำลังกายไปวางเรียงกันในสวนเพื่อฝึกร่างกายและความแข็งแรงประจำสัปดาห์ โดยมีผู้ช่วยนักกายภาพบำบัด Eric Muthuri เป็นคนนำฝึก ทุกคนฝึกอย่างตั้งใจ พร้อมเพรียง และให้กำลังใจกันโดยไม่ต้องสงสัย เมื่อจังหวะการฝึกเริ่มเร็วขึ้น Faith ยิ้มกว้าง หันไปสบตากับเพื่อนนักกีฬาบางคน จากนั้นก็ขำกันคิกคักและเริ่มประท้วง การออกกำลังกายนี้เกิดขึ้นที่ความสูง 8,800 ฟุตหรือ 2,700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลบนหุบเขา Great Rift Valley ของเคนยา ซึ่งเป็นระดับความสูงที่ทำให้ร่างกายอยากหายใจออกมากกว่าหายใจเอาอากาศเข้าปอด แต่กิจวัตรการฝึกของพวกเขาก็ไม่ได้ต่างจากการฝึกในยิมของเมืองอื่นสักเท่าไหร่ เมื่อการฝึกจบลง นักกีฬาจะกลับไปที่หอพักแล้วอ่านหนังสือ งีบหลับ หรือออกไปนั่งเล่นด้านนอกด้วยกันเงียบๆ เพื่อเตรียมใจให้พร้อมสำหรับการออกกำลังกายถัดไป จะขาดช่วงพักผ่อนและฟื้นกำลังไปไม่ได้

ระหว่างที่ Faith กับโค้ชและเมนเทอร์ของเธอช่วยกันฝึกฝนเพื่อเป้าหมายอันเด็ดเดี่ยวของเธออยู่ที่ห้องซ้อมในค่าย คนอื่นๆ ในทีมสนับสนุนก็กำลังง่วนกับการเตรียมพร้อมสำหรับความพยายามครั้งใหม่นี้อยู่ที่ไหนสักแห่ง ที่บีเวอร์ตัน รัฐโอเรกอน ทีมของ Nike กำลังปรับแก้นวัตกรรมของดีไซน์รองเท้าและเครื่องแต่งกายให้ออกมาสมบูรณ์แบบ และทดสอบด้วยการสร้างแบบ 3 มิติที่ได้จากการสแกนเมื่อครั้งที่ Faith มาเยือน Nike Sport Research Lab ในเดือนมกราคม ในตอนนั้น เธอมาเยือนและได้ทำแผนผังสรีระร่างกาย ทดสอบสภาพร่างกาย ตรวจวัดค่า VO2 Max รวมถึงพูดคุยเรื่องสีและทิศทางการดีไซน์ เราจะลองทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ รองเท้า เครื่องแต่งกาย หรือปัจจัยทางอากาศพลศาสตร์ให้กับเธอเพื่อวันนั้น เธอได้เห็น สัมผัส และชื่นชมทุกความพยายาม "ฉันไม่รู้จะพูดถึง Nike ยังไงดี พวกเขาซัพพอร์ตฉันทุกอย่าง ตั้งแต่ปี 2010 ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ในเส้นทางอาชีพนี้"

ความพยายามในครั้งนี้มีกำหนดการเป็นวันที่ 26 มิถุนายน ณ สนาม Stade Charléty กรุงปารีส ซึ่งเป็นสนามที่ Faith ทำสถิติโลกใหม่ในระยะทาง 5,000 เมตรเมื่อปี 2023 และระยะทาง 1,500 เมตรเมื่อปี 2024 ปัจจัยที่จะมีส่วนช่วยคือสภาพอากาศ (ยิ่งไม่มีลมยิ่งดี และถ้าเป็นช่วงบ่ายที่มีแดด เธอจะชอบเป็นพิเศษ) และเสียงเชียร์ (ดังๆ) ในสนาม Faith อธิบายว่า แต่ก่อนถึงเวลาที่เธอก้าวลงสนาม ในหัวของเธอคงจะนึกภาพตัวเธอวิ่งทำสถิติไม่เกิน 4 นาทีได้เป็นร้อยหรือเป็นพันรอบแล้ว "ฉันฝึกซ้อมด้วยภาพเหล่านั้นในหัว คิดในใจว่า ถึงวันจริงแล้ว ฉันต้องทำแบบนี้ แบบนี้ แล้วก็แบบนี้" เธอบอก "วิธีนี้ทำให้ฉันมีแรงที่จะตื่นมาทุกเช้าและออกไปซ้อม" 

"ฉันไม่รู้จะพูดถึง Nike ยังไงดี พวกเขาซัพพอร์ตฉันทุกอย่าง ตั้งแต่ปี 2010 ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ในเส้นทางอาชีพนี้"

Faith Kipyegon

อีกหนึ่งแรงใจสำคัญของเธอคือรอยยิ้มของ Alyn ลูกสาวที่จะรออยู่ที่เส้นชัย "การได้เป็นแม่คนเปลี่ยนฉันไปเลย [ในแง่ของความคิด]" Faith อธิบาย "อย่างแรกเลยก็คือ เวลาออกไปซ้อม เราต้องทิ้งใครบางคนไว้ข้างหลัง ฉันมาอยู่ที่ค่ายวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เลยมีเวลาให้เธอได้แค่ 2 วัน พอเธอเริ่มโตแล้ว เธอก็เข้าใจอาชีพของฉัน เข้าใจว่าฉันกำลังทำอะไร เข้าใจว่าฉันต้องผลักดันตัวเองเพื่อทำตามเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ให้ได้ เธอรู้ว่าการวิ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอาศัยการฝึกซ้อมและสมาธิ เธอรู้ว่าถ้าแม่จะไปแข่ง งานนั้นจะเป็นการแข่งขันที่เข้มข้น เธอจะรอจนกว่าฉันจะไปถึงเส้นชัย แล้วค่อยดีใจไปกับฉัน" แม้ว่าช่วงเวลาที่ Faith ไม่ได้กลับบ้านจะเป็นช่วงเวลาที่ยาก แต่เธอก็เล็งเห็นถึงพลังแห่งการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกสาวเช่นนี้ และใช้โอกาสที่มีในการสร้างโลกที่เสมอภาคยิ่งขึ้นเพื่อให้ลูกสาวของเธอได้เติบโต "ความเป็นแม่สอนอะไรให้ฉันหลายอย่าง" เธอบอก "เราต้องเป็นผู้แนะแนวให้กับลูก เราต้องทุ่มเทกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเลือก เราต้องสร้างแรงบันดาลใจให้ลูก เราต้องทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง เราต้องสู้เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัด นี่แหละคือสิ่งที่ฉันทำ"

ไม่ได้มีแค่ Alyn คนเดียว Faith ยังนึกถึงผู้หญิงและเด็กผู้หญิงอีกหลายคนในทุกครั้งที่เธอก้าวขาเพื่อซ้อมวิ่ง ตื่นนอนช่วงเช้าตรู่ในทุกวัน และทุกครั้งที่เธอลงแช่น้ำแข็ง "ฉันว่าความพยายามครั้งนี้จะทำให้ผู้หญิงหลายคนกล้าที่จะลองมากขึ้น" เธอบอก "ฉันหวังว่าพวกเธอจะรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นเมื่อรู้ว่าสิ่งที่ผู้ชายทำได้ ผู้หญิงก็ทำได้เช่นกัน เราฝันได้ และเราทำฝันนั้นให้เป็นจริงได้ ขีดจำกัดมีไว้ก้าวข้าม นี่คือสิ่งที่เราต้องทำในฐานะผู้หญิง นั่นคือการก้าวข้ามขีดจำกัดและฝันให้ใหญ่"

"ความเป็นแม่สอนอะไรให้ฉันหลายอย่าง เราต้องเป็นผู้แนะแนวให้กับลูก เราต้องทุ่มเทกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเลือก เราต้องสร้างแรงบันดาลใจให้ลูก เราต้องทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง เราต้องสู้เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัด นี่แหละคือสิ่งที่ฉันทำ"

เช้าวันเสาร์ที่สนาม Kipchoge Stadium ในเมืองเอลโดเรต Faith วิ่งออกกำลังกายประจำสัปดาห์ แสงแดดในเคนยาซึ่งตั้งอยู่ที่เส้นศูนย์สูตรนั้นร้อนแรงมากจนไร้ร่มเงาที่บดบังให้คนท้องถิ่นและนักกีฬาหลายๆ คนที่มาวิ่งทำรอบที่นี่ ความร้อนแรงนั้นเหมือนเตาร้อนๆ ที่อบพื้นสนามจนแข็งกระด้าง ซึ่งยังใช้งานได้และสวยงามด้วย

โค้ชถือนาฬิกาจับเวลาไว้ในมือ คอยให้คำแนะนำกับ Faith ในจังหวะสปรินท์ ช่วงเวลานี้ทุกคนจะมาดูเธอวิ่ง และนั่นคือเครื่องย้ำเตือนให้รู้ว่าเธอยอดเยี่ยมขนาดไหน มือทั้งสองข้างของเธอเหวี่ยงเข้าหาตัวในท่าประจำเพื่อประสิทธิภาพการวิ่งระดับสูง เธอพุ่งทะยานไปรอบสนามอย่างรวดเร็วจนภาพรอบตัวเบลอ ทุกย่างก้าวของเธอประสานกับจังหวะก้าวของ Bernard Soi เพซเซอร์และคู่ฝึกที่ทำงานร่วมกับเธอมาเป็นเวลา 15 ปีอย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะวิ่งในสภาพอากาศที่มีลม เธอก็วิ่งรอบละ 300 เมตรได้ในเวลาเพียง 43 วินาที ซึ่งเท่ากับเพซที่นักกีฬาชายระดับแนวหน้าหลายคนใช้เวลาตลอดเส้นทางอาชีพเพื่อพยายามทำให้ได้ การออกกำลังกายของเธอจบลง ดูแล้วเธอน่าจะออกกำลังกายแบบนี้เป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ เธอทรุดตัวลงกับพื้นหญ้า รอบตัวมีเพื่อนร่วมทีมที่ส่งยิ้มให้ระหว่างที่เธอหอบหายใจ 

กิจวัตรการเทรนนิ่งประจำสัปดาห์ของ Faith ที่จะทำให้เธอวิ่งได้เร็วที่สุด

Faith Kipyegon กับการวิ่ง 1 ไมล์ใน 4 นาทีคือชื่ออย่างเป็นทางการของภารกิจครั้งนี้ และฟังดูน่าตื่นเต้นชวนให้คิดว่าเป็นช่วงเวลาในอนาคตอันใกล้ ถึงวันจริง เวลา 4 นาที เสียงปืนปล่อยตัวดังขึ้น แต่ที่จริง ทุกอย่างได้เริ่มต้นขึ้นแล้วสำหรับความพยายามนี้ ทั้งการวิ่งไกลทุกสัปดาห์ การฝึกร่างกายและความแข็งแรง การตื่นแต่เช้าตรู่ท่ามกลางความหนาวเย็นในป่าของเคนยา และวันที่ร้อนจนไม่น่าให้อภัยในสนาม เวลาหลายชั่วโมงตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ที่เธอกับเพื่อนๆ ในทีมช่วยกันถูพื้นหรืออบแป้งจาปาตีด้วยกัน ผลของการค้นคว้า การสร้างนวัตกรรม การวางแผน และการวางกลยุทธ์ และที่สำคัญคือการมีฝัน มีภาพในหัวตั้งแต่ต้นจนจบว่าตัวเธอเองวิ่งมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ความมั่นใจเต็มเปี่ยมในศักยภาพ สมาธิ และการฝึกซ้อม เธอมีศรัทธา และเราพร้อมอยู่เคียงข้างเธอ

เมื่อถึงวันจริง เมื่อมายืนหลังเส้นสตาร์ท นั่นแหละคือการเฉลิมฉลองแล้ว เจอกันนะ Faith

  • เรื่องราว
  • ผลกระทบ
  • บริษัท
  • ห้องข่าว
      • © 2025 NIKE, Inc. สงวนลิขสิทธิ์