ผลงานที่ตราตรึงใจ การสร้าง Air Jordan XX Doernbecher Freestyle
- 18/10/2567
ภาพกราฟิกกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ด้วยฝีมือของ Mark Smith พลังของภาพเหล่านี้พารองประธานที่เกษียณจากทีมโปรเจกต์พิเศษนวัตกรรม Nike และได้ร่วมงานกับ Jordan มานานย้อนเวลากลับไปในปี 2005 ซึ่งเป็นปีที่เขาได้รับบรีฟสำหรับหมุดหมายสำคัญในไลน์สินค้าซิกเนเจอร์ของ Jordan อย่าง Air Jordan XX รองเท้าที่จะยกย่องการครบรอบ 20 ปีที่ AJ I เปิดตัวได้อย่างสมศักดิ์ศรี คุณสมบัติหลักของรองเท้าคู่นี้คือ การสลักภาพคอลลาจเส้นทางนักกีฬาที่ไม่เหมือนใครของ MJ ด้วยเลเซอร์ที่สายรัดส่วนกลางเท้า Smith ได้อธิบายในภายหลังว่ารายละเอียดเหล่านี้เป็นเหมือนภาพที่มีชีวิตซึ่งเขาตั้งใจให้เป็นภาพแบบโมเสก กราฟิกทั้งหมดต้องแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวตลอดชีวิตภายในพื้นที่อันจำกัด ซึ่งเกิดจากการใช้อุปกรณ์ที่มีความแม่นยำในแบบที่ไม่มีสิ่งอื่นทำได้ในสมัยนั้น
"ในตอนที่เราออกแบบ AJ XX ผมไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยว่าเราจะเก็บรายละเอียดผ่านการเลเซอร์ได้มากขนาดนี้" Smith กล่าว "ผมศึกษาการสลักเลเซอร์ทีละจุดและเปรียบเทียบความแม่นยำที่ได้กับสิ่งที่ผมออกแบบด้วยการใช้ปากกาหัวแหลมที่สุดที่ผมมี เครื่องเลเซอร์สร้างผลงานได้เหนือกว่าสองมือของมนุษย์เสียอีก"
Air Jordan XX ซึ่งเปิดตัวในปี 2005 มีสัญลักษณ์กว่า 200 แบบ ทำให้รองเท้าคู่นี้มีภาพที่เรียงร้อยเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตและเส้นทางนักกีฬาที่ไม่เหมือนใครของ MJ ไว้ด้วยกันได้
ปุ่มลายก้างปลา 20 ปุ่มที่พื้นรองเท้าชั้นนอกยกย่องการเปิดตัว AJ I ครบ 20 ปี
งานกราฟิกสลักเลเซอร์ฝีมือ Smith ที่ลงดีเทลได้ละเอียดเหลือเชื่อช่วยผลิตรองเท้าหลายคู่ที่ควรค่าที่สุดกับหมุดหมายสำคัญต่างๆ ทั้งจากการเปิดตัว Nike Laser รุ่นดั้งเดิมในปี 2003 และจากทั้ง 2 แบรนด์อย่าง AJ IV Laser, Air Force 1 แบบ "สลักลาย" และแน่นอนว่ารวมถึง AJ XX ด้วย
ในครั้งนี้ซิลลูเอทเต็มไปด้วยความหมายเนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี Doernbecher Freestyle ซึ่ง AJ XX รุ่นลิมิเต็ดนี้ก็มาพร้อมสัญลักษณ์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ที่สายรัดส่วนกลางเท้า เพื่อเฉลิมฉลองให้กับผู้ป่วย-ดีไซเนอร์ทั้ง 122 คนซึ่งเคยเข้าร่วมโครงการนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้น
"พอผมตระหนักได้ว่า Freestyle จะสามารถช่วยเปลี่ยนให้ชีวิตเด็กคนหนึ่งดีขึ้นได้ ในตอนนั้นแหละที่ผมทุ่มเทใจให้เต็มร้อย"
Mark Smith ดีไซเนอร์ที่เกษียณแล้วของแบรนด์ Nike และ Jordan
Smith รู้จักรองเท้ารุ่น Freestyle เป็นอย่างดี รองเท้ารุ่นนี้ทำให้ผู้ป่วย-ดีไซเนอร์ 6 คนจากโรงพยาบาลเด็ก OHSU Doernbecher Children’s Hospital ในเมืองพอร์ตแลนด์ โอเรกอน ได้มีโอกาสออกแบบรองเท้า Nike ของตัวเอง ในปี 2006 เขารวมทีมเพื่อนร่วมงานจาก Nike เพื่อทำให้ภาพฝันของผู้ป่วย-ดีไซเนอร์ Lance Dillon จับต้องได้จริงด้วยการสร้าง Nike Dunk Low ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรอยสัก Dillon หนุ่มขี้อายอายุ 17 ปีถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ("ครั้งแรกที่ผมได้เจอ Lance ผมต้องพยายามกลั้นน้ำตาตลอดการประชุม" Smith กล่าว "พอกลับถึงบ้านก็ร้องไห้จนตาบวม นี่เป็นสิ่งที่เจ๋งและมีความสำคัญที่สุดในบรรดาสิ่งที่ผมเคยทำมา") Smith ได้ออกแบบ Air Max 90 รุ่นพิเศษสำหรับการครบรอบปีที่ 5 ของรุ่น Freestyle ในปี 2008 รวมถึงสนีกเกอร์อีก 2 คู่ที่ออกแบบโดยผู้ป่วย และ AJ XII รุ่นที่ระลึกในปี 2015
"สนีกเกอร์เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับการเล่าเรื่องเสมอสำหรับผม" Smith กล่าว "แต่พอผมตระหนักได้ว่า Freestyle จะสามารถช่วยเปลี่ยนให้ชีวิตเด็กคนหนึ่งดีขึ้นได้ ในตอนนั้นแหละที่ผมทุ่มเทใจให้เต็มร้อย"
เพื่อนๆ จากมูลนิธิ OHSU Foundation (OHSUF) ได้ขอร้องให้ Mark สนับสนุนการครบรอบ 20 ปีของ Doernbecher Freestyle อีกครั้ง การได้พูดคุยกันทำให้นึกถึงอีกซิลลูเอทหนึ่งที่เคยสร้างความมหัศจรรย์ด้วยเลข 20 ซึ่งหลังจากนั้นก็ทำให้เกิดเป็นความร่วมมือระหว่าง Mark กับมูลนิธิ OHSUF และ NIKE, Inc. ในการเนรมิตเรื่องราวจากประวัติศาสตร์ที่ยาวนานหลายทศวรรษของ Freestyle ให้มีรูปลักษณ์ที่น่าทึ่งเป็นหนึ่งเดียวกัน
Smith เล่าว่าการทำความเข้าใจว่าสัญลักษณ์ ภาพ หรือ ตราอะไรที่ควรนำมาตกแต่งคอลลาจตรงสายรัด 2 เส้นเป็นความท้าทายอย่างแรกสุดที่ต้องเผชิญ เขาระดมสมองผ่านการวิดีโอคอลร่วมกับบุคคลสำคัญในโครงการนี้ ซึ่งได้แก่ Michael Doherty ผู้ก่อตั้ง Freestyle และสมาชิกตลอดชีพของ Doernbecher Philanthropy Board, Connor ลูกชายของเขาที่ช่วยทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้น, Kelly Schrader ประธานคณะกรรมการ OHSUF และ Dr. Dana Braner หัวหน้าแพทย์โรงพยาบาลเด็ก OHSU Doernbecher Children’s Hospital
พวกเขาหารือกันว่าควรจัดวางรายละเอียดอย่างชื่อ นามสกุล ชื่อแพทย์ วันที่ และอื่นๆ อย่างไร แต่การออกแบบต้องอยู่ภายใต้ขอบเขต ทั้งนี้เขายังไม่มีพื้นที่พอที่จะจัดเรียงองค์ประกอบทั้งหมดที่ว่าลงไปได้ตามที่กล่าวมา Smith ต้องเลือกวิธีการออกแบบที่มีความแตกต่างและลื่นไหล
"ผมนำกราฟิกแบบดั้งเดิมจาก AJ XX รุ่นนั้นกลับมาใช้" Smith กล่าว "เราอยากให้รองเท้ารุ่นนี้แต่ละคู่ให้ความรู้สึกราวกับพาคุณท่องไปในห้วงฝันและทำให้ลืมเรื่องของกาลเวลาไปจนได้ย้อนเวลาไปหาความทรงจำต่างๆ ที่สำคัญ เหมือนตอนที่เรารังสรรค์ภาพที่มีชีวิตให้ MJ มันไม่มีจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุด คุณจะเป็นคนที่เลือกเส้นทางเอง"
สิ่งที่ทุกคู่มีคืออักษรย่อชื่อของเด็กๆ ที่จะสลักไว้ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของสายรัดรองเท้า หลังจากนั้นสัญลักษณ์ทั้งหลายก็ตามมาเองโดยง่าย อย่างเช่น ชื่อของสุนัขบำบัด OHSU อย่าง Davis และ Casey ไอศกรีมแท่ง หนึ่งในอาหารไม่กี่อย่างที่เด็กๆ กินได้หลังการผ่าตัด กระเช้าลอยฟ้าชื่อดังที่อยู่ตรงข้าม Willamette Waterfront ซึ่งเมื่อขึ้นไปนั่งก็จะเห็นวิวโรงพยาบาล นี่เป็นเพียงสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งที่ใช้ตกแต่งรองเท้า
Smith เป็นคนที่รักความสมบูรณ์แบบ เขาเก็บแบบจำลองรุ่นแรกๆ เอาไว้ตลอดมาและสร้างสรรค์ผลงานออกมาหลายเวอร์ชัน แต่ละแบบมาพร้อมการจัดวาง แบบอักษร และขนาดที่แตกต่างกันไป ความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับโครงการนี้ อย่างการที่ต้องนำเสนอความมุ่งมั่นของผู้ป่วย-ดีไซเนอร์แต่ละคนออกมาให้ชัดเจน พร้อมๆ กับการนำเสนอชุดเรื่องราวส่วนตัวอื่นๆ ที่เต็มไปด้วยความหวังและชัยชนะ เป็นสิ่งที่ให้พลังกับ Smith และเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนว่าทำไมเขาถึงรักในสิ่งที่ทำ
"ในตอนที่สร้างสรรค์ภาพวาดที่มีชีวิตเหล่านี้ ผมกำลังทำหน้าที่แทนพวกเขาในการทำให้เรื่องราวเหล่านั้นจับต้องได้ ไม่ว่าจะคนไข้จาก Doernbecher นักกีฬา หรือดารา ผมก็มีหน้าที่ในการทำให้เรื่องราวของพวกเขาเป็นสิ่งที่จับต้องได้เหมือนกันหมด" Smith กล่าว "ผมต้องรับฟังเรื่องราวจากพวกเขาและทำหน้าที่เหมือนกับจานดาวเทียมที่ดึงเอาภาพที่เป็นแก่นสำคัญของพวกเขาออกมาและต้องทำให้มันเป็นสิ่งที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ด้วย การหาจุดสมดุลระหว่างทั้ง 2 สิ่งนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับผม เพราะในท้ายที่สุดมันไม่ใช่เรื่องราวของผม"
"ผมกำลังทำหน้าที่แทนพวกเขาในการทำให้เรื่องราวเหล่านั้นจับต้องได้ ไม่ว่าจะคนไข้จาก Doernbecher นักกีฬา หรือดารา ผมก็มีหน้าที่ในการทำให้เรื่องราวของพวกเขาเป็นสิ่งที่จับต้องได้เหมือนกันหมด"
Mark Smith ดีไซเนอร์ที่เกษียณแล้วของแบรนด์ Nike และ Jordan
ผลลัพธ์สุดท้ายก็คือภาพคอลลาจอันน่าทึ่งที่สลักลงบนสายรัดส่วนกลางเท้า ซึ่งจะปรากฏอยู่บนรองเท้า AJ XX ทั้ง 20 คู่ที่จะนำไปประมูลกับ Sotheby รองเท้าแต่ละคู่มาพร้อมเครื่องแต่งกายและกล่องไม้สลักด้วยเลเซอร์เข้าคู่กัน ทั้งหมดมาพร้อมสัญลักษณ์ Doernbecher เหมือนรองเท้า งานประมูลจะจัดขึ้นในวันที่ 21 ตุลาคม เวลา 9.00 น. ตามเวลามาตรฐานแปซิฟิก ถึงวันที่ 30 ตุลาคม เวลา 9.00 น. ตามเวลามาตรฐานแปซิฟิก และสิ่งที่เจ๋งที่สุดก็คือ รายได้ทั้งหมดนำไปสมทบโรงพยาบาลเด็ก OHSU Doernbecher Children’s Hospital
และถึงแม้ว่าแต่ละคู่จะขายได้ในราคาสูงมาก แต่สำหรับพนักงาน Nike ที่อาสาสละเวลาและทุ่มเทความสามารถโดยที่ไม่หวังผลตอบแทน เงินที่ได้จากการสมทบก็ยังไม่ได้มีความหมายมากเท่ากับคุณค่าที่แท้จริงของโครงการนี้
"รองเท้าสามารถเปลี่ยนไปเป็นสิ่งอื่นๆ ได้ด้วย Freestyle" Smith กล่าว "ผมไม่รู้ว่าควรจะอธิบายออกมาอย่างไร ตอนที่เด็กๆ ได้เห็นว่ารองเท้าที่เขาวาดฝันกลายเป็นสิ่งที่เขาจับต้องได้จริง จากที่รู้สึกถึงความไม่แน่นอนจากโรคที่เป็นอยู่ พวกเขาจะรู้สึกได้ถึงพลังแห่งการเยียวยาที่มาจากความสร้างสรรค์" เขาเอ่ยต่อหลังจากที่หยุดพูด "ผมว่าการที่พื้นรองเท้าถูกเรียกว่า 'Sole' ไม่ใช่เรื่องที่น่าขันเลย แถมส่วนนี้ยังเป็นส่วนเดียวของรองเท้าที่แตะพื้นดินอีก"
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ sothebys.com/DB20