เมื่อเดือนกันยายน ปี 2019 การแข่งขันกีฬามาราธอนได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล Eliud Kipchoge เป็นนักกีฬา Nike ผู้ทลายกำแพงของการวิ่งมาราธอน 2 ชั่วโมงที่ยากจะพิชิตก่อนหน้านี้ รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลกและพิสูจน์ว่ามนุษย์มีศักยภาพไร้ขีดจำกัด นวัตกรรมรองเท้าระดับปฏิวัติวงการ (ต้นแบบของ Nike Alphafly NEXT%) ช่วยให้ Eliud วิ่งเข้าไปอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ และรองเท้าประเภทใหม่ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว
5 ปีผ่านไป นักกีฬา Nike และ Nike Alphafly ก็ยังคงยอดเยี่ยมที่สุด
Nike Alphafly 3 ใหม่สร้างตำนานบทใหม่ของความทุ่มเทด้านนวัตกรรมอย่างไม่ลดละของ Nike เพื่อนักวิ่งทุกประเภท โดยจะมอบความเร็วในการวิ่งมาราธอนเพื่อให้ไปได้ไกลกว่าที่เคยคิดว่าทำได้ Alphafly รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เบาที่สุดและผ่านการทดสอบมากที่สุด รับรองโดยเหล่านักวิ่งมาราธอนชั้นแนวหน้าและส่งพลังด้วย Nike Air Zoom เพื่อช่วยให้นักกีฬาทุกคนทลายขีดจำกัดในการวิ่งมาราธอนไม่ว่าจะวิ่งในเพซไหน
Nike Air เป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมของ Nike นับตั้งแต่คิดค้นมา เราท้าทายขีดจำกัดความเป็นไปได้ของ Air อย่างต่อเนื่องในจุดที่สำคัญเพื่อปรับตามความต้องการเฉพาะตัวของนักกีฬาและกีฬาประเภทนั้นๆ
รุ่นแรกก่อนจะมาเป็น Nike Alphafly 3 ที่เปิดตัวเมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 2023 บนเท้าของสุดยอดนักมาราธอนระดับโลก ในระหว่างช่วงพัฒนารองเท้าเพื่อให้ผ่านการรับรองจากองค์กรกรีฑาโลกอย่างเป็นทางการ ที่ชิคาโก Kelvin Kiptum สร้างสถิติโลกครั้งใหม่ของการวิ่งมาราธอนด้วยเวลา 2:00:35 ชั่วโมง Sifan Hassan คว้าแชมป์ในการลงแข่งครั้งแรกที่กรุงลอนดอน จากนั้นก็คว้าตำแหน่งนักวิ่งมาราธอนหญิงที่เร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกที่ชิคาโกด้วย ส่วน Eliud ก็คว้าชัยใน Berlin Marathon และสร้างสถิติใหม่เป็นครั้งที่ 5
ทีมพัฒนารองเท้า Nike เริ่มต้นโดยการปรับปรุงกลไกใน Alphafly และตอบโจทย์ความต้องการของทั้งนักวิ่งมาราธอนทั่วไปและระดับแนวหน้า ขณะเดียวกันก็ยังคงสิ่งที่นักวิ่งชอบมากที่สุดในรองเท้ารุ่นนี้เอาไว้ สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญคือดีไซน์น้ำหนักเบาที่เสริมการทรงตัว ใส่สบาย และส่งแรงเพิ่มสูงสุด ซึ่งจำเป็นสำหรับการวิ่งให้ครบ 42.195 กิโลเมตร
การปรับโฉมใหม่ที่สําคัญ ได้แก่
ถ่ายเทน้ำหนักได้ดีขึ้น
- Nike Alphafly 3 มาพร้อมพื้นรองเท้าชั้นกลางจากโฟม ZoomX โดยซ้อนสูงแบบเดิมอย่างที่นักวิ่งมาราธอนชื่นชอบเพื่อให้การรองรับน้ำหนักเบาในทุกระยะทาง
- เป็นครั้งแรกที่ Alphafly 3 เชื่อมส่วนส้นและปลายเท้าเข้าด้วยกันด้วยพื้นชั้นล่างแบบต่อเนื่องชิ้นเดียวเพื่อให้ถ่ายเทน้ำหนักจากส้นถึงปลายเท้าได้ราบรื่นยิ่งขึ้นสำหรับการย่ำเท้ารูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะวิ่งในเพซไหน
- พื้นรองเท้าชั้นนอก Fast Shot แบบใหม่มีน้ำหนักเบาและให้การยึดเกาะหนึบขั้นสุดที่คุณวางใจได้
ส่งแรงกลับและแรงขับเคลื่อน
- ส่วน Nike Air Zoom สองส่วนที่ปลายเท้าช่วยลดแรงกระแทกบนพื้นถนนและส่งแรงกลับไปที่นักวิ่งเพื่อผลักดันให้ก้าวต่อไป
- แผ่นรองคาร์บอนไฟเบอร์แบบเต็มความยาวเท้าและกว้างขึ้นช่วยส่งแรงขับเคลื่อนและเสริมการทรงตัวในทุกก้าว
สบายและเข้าที่
- ข้อมูลเชิงลึกและความคิดเห็นจากกลุ่มผู้ทดสอบหญิงกลุ่มใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทดสอบรองเท้าวิ่งแข่ง Nike ช่วยให้ Alphafly ใส่สบายยิ่งขึ้นสำหรับนักวิ่งมาราธอน
- เราใช้หุ่นรองเท้าแบบใหม่หมดเพื่อเพิ่มความสบายที่อุ้งเท้าและลดการเสียดสีทั่วทั้งเท้า ขณะที่แผ่นรองพื้นรองเท้าขึ้นรูปแบบใหม่สร้างมาเพื่อสร้างการรองรับส่วนอุ้งเท้าแบบใหม่ในทรงกว้างบาง
- ส่วนบน Atomknit 3.0 ใหม่เพิ่มความกระชับ การระบายอากาศ และการรองรับที่ส่วนกลางเท้าด้วยดีไซน์น้ำหนักเบาที่ระบายอากาศได้ดี
- ปุ่ม Flyknit แบบยกสูงที่ส้นช่วยบุรองส้นและเอ็นร้อยหวายส่วนล่าง
- ระบบร้อยเชือกรองเท้าดีไซน์ใหม่เพิ่มความนุ่มพอดีที่ด้านบนของเท้าโดยผสานส่วนรูร้อยเชือกไว้ในส่วนบน Atomknit
Nike Alphafly 3 เปิดตัวในคู่สี "Prototype" ซึ่งเป็นคู่สีไอคอนิกของแบรนด์ เพื่อยกย่องกระบวนการพัฒนาสินค้าของ Nike ผ่านการทดสอบร่วมกับนักกีฬา ซิลลูเอทสีขาวล้วนโดดเด่นด้วยสีสะดุดตาซึ่งขับเน้นส่วน Air Zoom สองส่วนที่ปลายเท้าให้โดดเด่น ทั้งยังมีหมายเลขนักกีฬาที่ทดลองใส่ (20820-4) อยู่บนพื้นรองเท้าชั้นกลางด้านข้าง และ "V62" ที่ส่วนบน Atomknit บ่งบอกถึงหมายเลขรุ่นของส่วนบน
Nike Alphafly 3 คู่สี "Prototype" เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 4 มกราคม 2024 ผ่านทาง nike.com แอพ Nike และร้านอุปกรณ์วิ่งโดยเฉพาะที่ร่วมรายการ และจะมีคู่สีอื่นๆ ตามมาอีก