Nike ขอนำเสนอ "Just Do It" ให้กับคนรุ่นใหม่ด้วยแคมเปญ "Why Do It?"
- 4/9/2568

สิ่งที่ต้องรู้
- Nike กำลังจะนำเสนอ "Just Do It" ให้กับเจเนอเรชันใหม่ด้วยการเปิดตัวแคมเปญล่าสุด "Why Do It?"
- แคมเปญนี้ออกแบบมาเพื่อเข้าถึงกลุ่มนักกีฬารุ่นเยาว์ โดยให้นิยามใหม่ของความยิ่งใหญ่ว่าเป็นทางเลือก ไม่ใช่ผลลัพธ์ เพื่อส่งต่อ "Just Do It" ให้กับคนรุ่นปัจจุบัน และมอบความกล้าหาญให้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยตนเอง
- วิดีโอสื่อสารแบรนด์ชิ้นนี้ประกอบไปด้วยภาพของนักกีฬาที่หลากหลาย ถ่ายทอดจังหวะของความมุ่งมั่นในยุคสมัยใหม่ผ่านการเคลื่อนไหวที่ขับเคลื่อนด้วยแพสชัน การแข่งขันที่ตีความใหม่เป็นความร่วมมือ และความกล้าหาญที่จะแสดงออกอย่างเป็นตัวของตัวเองในทุกช่วงเวลา
- "Why Do It?" เป็นการยกย่องอดีตและเฉลิมฉลองจิตวิญญาณที่ไม่เคยหยุดนิ่งของคนรุ่นใหม่ เสริมพลังแก่นักกีฬารุ่นเยาว์ให้ได้เป็นส่วนหนึ่งของตำนานที่เขียนขึ้นโดยผู้ที่ตอบรับโอกาส กล้าที่จะเริ่มต้น และไม่เคยหยุดก้าวไปข้างหน้า
เมื่อ Nike เปิดตัว "Just Do It" ในปี 1988 มันไม่ได้เป็นเพียงสโลแกน แต่ยังเป็นการปลุกใจให้ลงมือทำด้วย การท้าทายให้เริ่มต้น ให้ลอง เพื่อก้าวไปข้างหน้าแม้หนทางจะยากลำบาก
เป็นเวลาเกือบสี่ทศวรรษมาแล้วที่ Nike ได้สร้างแรงบันดาลใจ* ให้นักกีฬาทำตามความฝันผ่าน "Just Do It" ตอนนี้ Nike กำลังจะนำคำปลุกใจระดับไอคอนนี้กลับมาสู่คนรุ่นใหม่อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวแคมเปญล่าสุดที่ชื่อว่า "Why Do It?" แคมเปญนี้ออกแบบมาเพื่อเข้าถึงกลุ่มนักกีฬารุ่นเยาว์ โดยให้นิยามใหม่ของความยิ่งใหญ่ว่าเป็นทางเลือก ไม่ใช่ผลลัพธ์ พร้อมทั้งส่งต่อ "Just Do It" ให้กับคนรุ่นปัจจุบัน และมอบความกล้าหาญให้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยตนเอง
"'Just Do It' ไม่ได้เป็นเพียงสโลแกน แต่เป็นจิตวิญญาณที่อยู่ในทุกจังหวะของกีฬา เป็นความเชื่อที่ว่าเมื่อเราร่วมมือกัน เราจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจ รวมเป็นหนึ่ง และยกระดับตัวเองให้ก้าวข้ามขีดจำกัดที่เราเคยคิดไว้ได้" Nicole Graham รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดกล่าว "สำหรับ 'Why Do It?' เราจะจุดประกายให้กับคนรุ่นใหม่ ท้าทายให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยความกล้าหาญ เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง และค้นพบความยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในทันทีที่พวกเขาตัดสินใจที่จะเริ่มลงมือทำ"
แคมเปญ "Why Do It?" เปิดตัวด้วยวิดีโอสื่อสารแบรนด์ที่กล้าหาญ พร้อมเหล่านักกีฬา Nike จากทั่วโลกที่สะท้อนมุมมองที่ดิบและแท้จริงของกีฬา ได้แก่ Carlos Alcaraz, Saquon Barkley, LeBron James, Rayssa Leal, Qinwen Zheng และอีกมากมาย
ข้อความที่ทรงพลังจากวิดีโอชิ้นนี้สื่อสารโดยตรงกับนักกีฬารุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตขึ้นในโลกที่การพยายามและล้มเหลวอาจเป็นเรื่องน่ากังวล การกล้าเสี่ยงดูยากขึ้นกว่าเดิม และเสียงที่บอกให้ล้มเลิกก็ดังกว่าเหตุผลที่จะให้ไปต่อ
จากสถานการณ์เช่นนี้ วิดีโอชิ้นนี้จึงเป็นการท้าทายคนรุ่นใหม่ที่ยังลังเล นั่นก็คือความยิ่งใหญ่ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะหยิบยื่นให้ แต่คือการเลือก และบางครั้งการเลือกที่สำคัญที่สุดก็คือการเลือกที่จะเริ่มต้น
"ความยิ่งใหญ่คือสิ่งที่คุณต้องได้มาจากทุกการเลือก ทุกการฝึกซ้อม และทุกการกลับมาลุกขึ้นสู้" Barkley แชมป์ Super Bowl ตำแหน่งรันนิ่งแบ็คกล่าว "ผมต้องต่อสู้กับอุปสรรคมาโดยตลอด แต่นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้เส้นทางนี้มีคุณค่าและเป็นของตัวเราเอง"
นอกจากนี้ "Why Do It?" ยังเป็นการตอกย้ำคำมั่นที่ Nike ยึดถือมาตั้งแต่ก่อตั้ง นั่นก็คือ "อะไรๆ ก็เป็นไปได้ เมื่อคุณลงมือทำและพยายาม"
แคมเปญนี้ย้ำเตือนนักกีฬาจากทุกพื้นเพและทุกประเภทกีฬาว่า การพยายามยังคงมีความหมาย และความล้มเหลวก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ นอกจากนี้ ยังตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำของ Nike ในการกำหนดอนาคตของวงการกีฬา ความทุ่มเทของแบรนด์ในการให้บริการและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาทุกคน และความมุ่งมั่นที่จะเข้าถึงคนรุ่นใหม่ในสนามแข่งขัน พร้อมทั้งสนับสนุนให้เยาวชนค้นพบวิธีการใหม่ๆ ในการแข่งขัน เติบโต และคว้าชัย
"คุณจะไม่ได้ทำแต้มได้ในทุกลูก และคุณจะไม่ได้ชนะในทุกแมตช์" Caitlin Clark นักบาสเก็ตบอลหญิงฝีมือฉกาจกล่าว "แต่ทุกครั้งที่คุณก้าวลงแข่งในสนาม คุณก็มีโอกาสที่จะได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่"
นับตั้งแต่เปิดตัว "Just Do It" ได้กลายเป็นหนึ่งในคำปลุกใจที่โด่งดังที่สุดในวงการกีฬาและสังคม แคมเปญระดับโลกที่ปลุกใจให้ผู้คนทุกรูปร่างและทุกพื้นเพออกมาเคลื่อนไหว เปิดตัวด้วยโฆษณาที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง นั่นก็คือภาพของ Walt Stack นักวิ่งวัย 80 ปีที่กำลังวิ่งเหยาะๆ ข้ามสะพานโกลเดนเกต เป็นการประกาศอย่างชัดเจนว่า กีฬามีไว้สำหรับทุกคน
ต่อมา "Just Do It" ก็ได้กลายเป็นไมน์เซ็ต และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของนักกีฬาทั่วไป ไปจนถึงความยิ่งใหญ่ของตำนานอย่าง Michael Jordan, Serena Williams และ Kobe Bryant ตั้งแต่ห้องนั่งเล่นไปจนถึงห้องล็อกเกอร์ วลีนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนลุกขึ้นมาเคลื่อนไหว กล้าที่จะฝัน และกล้าที่จะลงมือทำ
ในปี 1995 Nike ได้ยกระดับขึ้นอีกขั้นด้วย "If You Let Me Play" ซึ่งเป็นแคมเปญพลิกวงการที่แสดงให้เห็นว่า การเปิดโอกาสให้เด็กผู้หญิงได้เล่นกีฬาจะเปลี่ยนแปลงชีวิตได้อย่างไร นี่ไม่ใช่แค่โฆษณา แต่เป็นการปลุกกระแสทางวัฒนธรรมด้วยประกาศที่ดังกึกก้อง และยังคงเป็นหัวใจสำคัญในพันธกิจของ Nike
ตั้งแต่วิดีโอสีขาวดำยุคแรกๆ ไปจนถึงแคมเปญ "Dream Crazy (2018)" ที่กล้าหาญ ทุกบทของ "Just Do It" ล้วนมีจุดยืนเพื่อสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือความกล้าที่จะเริ่มต้น ลองอีกครั้ง ทลายอุปสรรค และก้าวไปข้างหน้า
แม้จิตวิญญาณของ "Just Do It" จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว การนำเสนอวลีนี้อีกครั้งไม่ได้เป็นการตามล่าความสำเร็จหรือหวนรำลึกถึงอดีต แต่เป็นการเลือกที่จะเริ่มต้น และตัดสินใจที่จะก้าวต่อไป สื่อถึง "Just Do It" ในแบบฉบับที่สอดคล้องกับแรงกดดันและศักยภาพของคนรุ่นใหม่ในยุคนี้
"เทนนิสสอนให้คุณรู้ได้ทันทีว่าคุณไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ แต่คุณเลือกที่จะต่อสู้เพื่อแต้มต่อไปได้เสมอ" Carlos Alcaraz แชมป์เทนนิสชาวสเปนกล่าว "กีฬาคือความกล้าที่จะไปต่อ ไม่หวาดหวั่น และเชื่อมั่นในตัวเองไม่ว่าภายใต้แรงกดดันหรือในสถานการณ์ใดๆ"
นักกีฬาของ Nike ที่ปรากฏในวิดีโอ "Why Do It?" ได้สะท้อนให้เห็นถึงนิยามใหม่ของ "Just Do It" ในยุคปัจจุบัน ซึ่งนักกีฬาเหล่านั้นมาจากกีฬา พื้นเพ และระดับในเส้นทางอาชีพที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่รวมทุกคนไว้เป็นหนึ่งเดียวก็คือ การเลือกที่จะไปต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
นักกีฬาเหล่านั้นได้แก่
- Carlos Alcaraz (สเปน, เทนนิส)
- Saquon Barkley (สหรัฐอเมริกา, อเมริกันฟุตบอล)
- Caitlin Clark (สหรัฐอเมริกา, บาสเก็ตบอล)
- Tara Davis-Woodhall (สหรัฐอเมริกา, กรีฑา)
- Shreyas Iyer (อินเดีย, คริกเก็ต)
- LeBron James (สหรัฐอเมริกา, บาสเก็ตบอล)
- Rayssa Leal (บราซิล, สเก็ตบอร์ด)
- Scottie Scheffler (สหรัฐอเมริกา, กอล์ฟ)
- Vini Jr. (บราซิล, ฟุตบอล)
- Hunter Woodhall (สหรัฐอเมริกา, กรีฑา)
- Qinwen Zheng (จีน, เทนนิส)
รับชมวิดีโอแคมเปญได้ในแกลเลอรีด้านล่าง และติดตามความเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่จะตามมาบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อจุดประกายจิตวิญญาณ "Just Do It" ในตัวนักกีฬารุ่นใหม่ทุกคน
* If you have a body, you are an athlete. (หากคุณมีร่างกาย คุณก็คือนักกีฬา)