Nike เผยโฉม Air Max 95000 รุ่นพิมพ์ 3 มิติที่งาน ComplexCon
- 24/10/2568

สิ่งที่ต้องรู้
- Air Max 95000 คู่ใหม่ของ Nike เป็นซิลลูเอทแบบพิมพ์ 3 มิติที่สดุดีให้กับรองเท้ารุ่นไอคอนอย่าง Air Max 95 พร้อมทั้งขับเคลื่อนศักราชใหม่แห่งนวัตกรรมสนีกเกอร์
- Air Max 95000 คู่นี้โดดเด่นด้วยส่วน Max Air "Big Bubble" ตรงส้นเท้า และส่วน Max Air ที่มีขนาดเล็กลงมาตรงปลายเท้า ซึ่งช่วยให้รู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลที่คงเส้นคงวา และความสปริงตัวในระดับที่เหมาะเจาะใต้ฝ่าเท้า
- ซิลลูเอทนี้เปิดตัวที่งาน ComplexCon ในลาสเวกัส โดยเป็นซิลลูเอทแรกสุดที่รังสรรค์ขึ้นโดยใช้ Project Nectar ของ Nike และยังเป็นรองเท้าคู่ที่สองของแบรนด์ที่พัฒนาร่วมกับ Zellerfeld บนเส้นทางที่กินระยะเวลาหลายปีเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติกับรองเท้า
- Air Max 95000 จะวางจำหน่ายวันที่ 28 พฤศจิกายนผ่านทาง SNKRS และ zellerfeld.com
Nike ผสานรูปทรงและฟังก์ชันสุดล้ำเข้าด้วยกันใน Air Max 95000 คู่ใหม่ ซึ่งเป็นซิลลูเอทแบบพิมพ์ 3 มิติที่สดุดีให้กับรองเท้ารุ่นไอคอนอย่าง Air Max 95 พร้อมทั้งขับเคลื่อนศักราชใหม่แห่งนวัตกรรมสนีกเกอร์
Air Max 95000 ปรากฏสู่สายตาผู้คนที่งาน ComplexCon ในลาสเวกัส โดยเป็นรองเท้าคู่แรกที่เกิดขึ้นจาก Project Nectar ของ Nike ซึ่งก็คือกระบวนการพิมพ์ที่คิดค้นขึ้นโดยเฉพาะเพื่อปลดล็อคมิติใหม่แห่งการแสดงตัวตนด้วยการรังสรรค์พื้นรองเท้าชั้นนอกที่ทั้งทนทานและยึดเกาะได้ดี รวมถึงการตกแต่งส่วนบนแบบพิมพ์ 3 มิติให้โดดเด่นเตะตา
"หัวใจสำคัญของ Nike Air คือการทลายขีดจำกัดและจุดแรงบันดาลใจให้คนเจเนอเรชันถัดไปเสมอมา" Brittany Shelton, VP, North America Brand Management กล่าว "Air Max 95000 เปลี่ยนแรงบันดาลใจที่ว่าให้กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ผ่านนวัตกรรมซึ่งเป็นผลงานการสร้างสรรค์และเปิดโอกาสสำหรับการแสดงตัวตน"
Air Max 95000 สะท้อนถึงความเป็นที่หนึ่งแบบก้าวล้ำนำวงการของ Nike ในวัฒนธรรมสนีกเกอร์ โดยชวนให้ย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์สไตล์ Nike Air ในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมาของแบรนด์ ทั้งยังเปิดให้ชิมลางอนาคตแห่งความเป็นไปได้ของงานดีไซน์เชิงคำนวณและรองเท้าที่พิมพ์ได้ ซึ่งช่วยปูทางสู่การสร้างสรรค์แบบมีความเฉพาะตัว พร้อมขับเคลื่อนทั้งความมีเอกลักษณ์ดั่งใจและสมรรถนะด้านการกีฬา
ซิลลูเอทนี้ต่อยอดมาจากรูปทรงสุดล้ำของรองเท้าคู่บุกเบิกอย่าง Air Max 1000 ซึ่งพัฒนาร่วมกับ Zellerfeld โดยใช้เครื่องพิมพ์ Gen3 รุ่นใหม่ของบริษัทดังกล่าวที่รองรับการพิมพ์แบบมัลติคัลเลอร์ โดยนำโครงแบบพิมพ์ 3 มิติลักษณะเดียวกันมาซ้อนกับส่วน Max Air "Big Bubble" ตรงส้นเท้า และส่วน Max Air ที่มีขนาดเล็กลงมาตรงปลายเท้า ซึ่งช่วยให้รู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลที่คงเส้นคงวา และความสปริงตัวในระดับที่เหมาะเจาะใต้ฝ่าเท้า
"Zellerfeld ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อพลิกโฉมวิธีการสร้างสรรค์และใช้งานรองเท้า" Cornelius Schmitt, CEO, Zellerfeld กล่าว "จุดประสงค์ที่เริ่มด้วยความคิดจากใจจริงว่าอยากให้นักสร้างสรรค์มีอิสระมากขึ้นได้เติบโตไปไกลยิ่งกว่านั้นมาก มาวันนี้แบรนด์ที่เราต่างชื่นชอบมาตั้งแต่เด็กๆ ก็อาศัยแพลตฟอร์มของเราเพื่อให้ดีไซน์ได้เร็วขึ้น ทดสอบไอเดียได้ทันที ทดลองได้แบบไร้ขีดจำกัด และรังสรรค์ซิลลูเอทแปลกใหม่ขึ้นมาได้ Nike เป็นผู้กำหนดอนาคตของวงการรองเท้าเสมอมา และเทคโนโลยีของ Zellerfeld ก็เข้ามาช่วยปลดล็อคความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในด้านดีไซน์"
การนำ Nike Air มาใช้ในแบบที่ไม่เหมือนใครนี้เปรียบดั่งการสดุดีให้กับนวัตกรรม Air อันดับหนึ่งแห่งยุคอย่าง Air Max 95 หลังปรากฏโฉมเป็นครั้งแรกเมื่อ 30 ปีก่อน ไม่เพียงเท่านั้น ซิลลูเอทนี้ยังสื่อถึงอนาคตของ Air ในฐานะแพลตฟอร์มนวัตกรรมอันไร้ขีดจำกัดซึ่งจะส่งเทคโนโลยีที่มีสไตล์และไม่หยุดนิ่งไปสู่ทุกๆ อณูของแบรนด์ ตั้งแต่เครื่องแต่งกายและรองเท้าเสริมประสิทธิภาพ ไปจนถึงซิลลูเอทสตรีทแวร์ที่เน้นความอัลตร้าโมเดิร์น
"ไม่มีทางเลยที่เราจะสร้างซิลลูเอทนี้ขึ้นมาได้โดยใช้วิธีการแบบเดิมๆ และดีไซน์ที่มีเส้นสายโค้งเว้าราวประติมากรรม รวมถึงการประยุกต์ใช้ Air ในแบบที่ล้ำยุคนี้ก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการร่วมงานกับ Zellerfeld ต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า ทั้งยังเป็นสัญญาณความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดของศักราชใหม่แห่งรองเท้ารุ่นพิมพ์ 3 มิติ" Shelton กล่าว
การประยุกต์ใช้ Nike Air ในรูปแบบใหม่ล่าสุดนี้จัดแสดงให้ชมเป็นครั้งแรกที่งาน ComplexCon ภายใน Mad Stadium ของ Nike ซึ่งเป็นนิทรรศการป๊อปอัพที่เปิดให้ผู้เข้าชมชิมลางอนาคตแห่งจุดตัดระหว่างนวัตกรรม กีฬา และการดีไซน์สนีกเกอร์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ แถมยังได้สัมผัสประสบการณ์ฟุตบอลสุดอิมเมอร์ซีฟในฉบับของ Nike โดยเฉพาะ
Nike Air Max 95000 จะวางจำหน่ายในคู่สี Black/Volt วันที่ 28 พฤศจิกายนผ่านทาง SNKRS และ zellerfeld.com







