ความฝันและความทะเยอทะยานของนักกีฬาพัฒนาไปอยู่เสมอ เช่นเดียวกับ Nike บริษัทกำลังยกระดับผลงานไปพร้อมกับเหล่านักกีฬาที่เก่งกาจที่สุดในโลก เพื่อเติมไฟให้กับการแข่งขันบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและความต้องการในชีวิตประจำวัน Nike รับฟังความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของนักกีฬาและใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มที่เป็นกรรมสิทธิ์ นั่นคือ Nike Air
Air คือแพลตฟอร์มลดแรงกระแทกที่อเนกประสงค์ เป็นที่นิยม และปฏิวัติวงการมากที่สุดของ Nike นับตั้งแต่ที่เปิดตัวครั้งแรกในพื้นรองเท้าชั้นกลางของ Tailwind ปี 1978 เป็นต้นมา Nike ก็ใช้ Air กับรองเท้าทุกประเภท ตั้งแต่รองเท้าบาสเก็ตบอลไปจนถึงรองเท้าเด็กวัยหัดเดิน และบริษัทก็ยังคงมองหาวิธิใหม่ๆ ในการใช้ Air เพื่อบริการนักกีฬาทุกวัย ทุกไซส์ และทุกจุดมุ่งหมาย Air คือหน้าต่างสู่ Nike คือเรื่องราวแห่งการปรับเปลี่ยนคิดค้นใหม่อย่างต่อเนื่องและความก้าวหน้าอันไร้ที่สิ้นสุด
ส่วน Nike Air แบบไดนามิกที่ผลิตขึ้นในหลากหลายขนาด รูปร่าง และแรงดัน คือหัวใจของการทำงานของบริษัทสำหรับการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฤดูร้อนนี้ และด้วยส่วน Nike Air นี้ Nike ได้ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้จริงสำหรับนักกีฬา ผลลัพธ์ด้านประสิทธิภาพของ Air ที่ขึ้นชื่อที่สุดของ Nike น่าจะเป็นการทลายกำแพง 2 ชั่วโมงของการวิ่งมาราธอน ตอนนี้ Nike กำลังเพิ่มประสิทธิภาพ Air เพื่อช่วยนักวิ่งทลายกำแพงในทุกระยะทาง และช่วยให้นักกีฬาทุกคนทำผลงานได้ดีที่สุด ตัวเร่งล่าสุดของ Air ก็คือการบุกเบิกใช้เทคโนโลยีสุดล้ำที่อุดช่องว่างระหว่างสิ่งที่รู้ (วิทยาศาสตร์การกีฬา) สิ่งที่จินตนาการได้ (ดีไซน์) และสิ่งที่ทำได้ (การผลิต)
ความสามารถด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีล้ำสมัยของ Nike สร้างซูเปอร์ไซเคิลใหม่ให้กับนวัตกรรม Air ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และดีไซเนอร์ Nike สามารถใช้ปัญญาประดิษฐ์และเครื่องมืออัลกอริทึมมาสำรวจรูปทรงเรขาคณิตและองค์ประกอบอันซับซ้อนของ Air โดยมีความแม่นยำเต็มร้อยแบบที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้และไม่อาจผลิตจริงได้มาก่อน อย่างการใช้วิศวกรรมคอมพิวเตอร์และระเบียบวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงตัวเลข (FEA) เป็นต้น ทีม Nike ก็สามารถจำลองแบบหลายๆ แบบพร้อมกันได้ กล่าวคือไม่จำเป็นต้องเชื่อเพียงสมมติฐานเดียว และสามารถประเมินโซลูชันที่เป็นไปได้นับสิบได้อย่างรวดเร็ว และรู้ว่าจะได้โซลูชันที่ดีที่สุด
เครื่องมือเหล่านี้ทำให้นักวิจัย Nike มองเห็นว่าโมเดลรองเท้าดิจิทัลจะทำงานอย่างไรในความเป็นจริง จะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับน้ำหนักที่รองรับ และจะมีน้ำหนักมากแค่ไหน ก่อนจะสร้างโปรโตไทป์จริงขึ้นมาครั้งแรก และท้ายที่สุด ความสามารถด้านดิจิทัลของ Nike ก็ช่วยให้สามารถปรับแต่งเทคโนโลยี Air ได้ด้วยการคำนวณจากคอมพิวเตอร์ รองเท้าทุกไซส์จึงมีประสิทธิภาพที่เหมาะสมพอๆ กัน ทั้งหมดนี้สร้างโซลูชันที่ดีกว่า เร็วกว่า และมีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับนักกีฬา พร้อมทั้งเปิดโลกแห่งความเป็นไปได้ที่สร้างสรรค์ อันรวมไปถึงส่วน Air Zoom ที่กระชับรูปเท้าและมองเห็นได้อันแรกในซิลลูเอทรองเท้าวิ่งที่จะพบได้ใน Pegasus Premium รุ่นใหม่
ความสามารถด้านดิจิทัลเหล่านี้ช่วยให้ Nike ได้สร้างสินค้าที่ล้ำนวัตกรรมและมีอิทธิพลที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยครอบคลุมตั้งแต่กรีฑาประเภทลู่ไปจนถึงบาสเก็ตบอลและฟุตบอล และไม่มีบททดสอบไหนที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าการแข่งขันรายการใหญ่ ณ กรุงปารีสปี 2024 อีกแล้ว Nike ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้โชว์ผลงานสุดพิเศษในช่วงเวลานี้ โดยรวมที่สุดของความเชี่ยวชาญในด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา การดีไซน์ และการผลิตเข้าด้วยกัน แล้วเริ่มซูเปอร์ไซเคิลนวัตกรรมสำหรับแบรนด์
คุณจะเห็นผลลัพธ์ของความพยายามดังกล่าวใน Nike Blueprint Pack ซึ่งรวมที่สุดของกลุ่มสินค้าที่ขับเคลื่อนด้วย Air ของบริษัท อันรวมไปถึงรองเท้าพื้นตะปูรุ่นอัพเดทสำหรับนักกีฬาประเภทลู่อย่าง Nike Victory 2 และ Nike Maxfly 2, รองเท้าบาสเก็ตบอลรุ่นใหม่อย่าง Nike G.T. Hustle 3 และรองเท้าฟุตบอลที่มีคุณภาพพรีเมียมที่สุดเท่าที่เคยมีมาอย่าง Nike Mercurial ปี 2024
คู่สี Blueprint Pack ได้แรงบันดาลใจมาจาก Bill Bowerman ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทและความหลงใหลของเขาในการปลดล็อคศักยภาพระดับสูงสุดของนักกีฬา Bowerman มุ่งมั่นจดจ่ออยู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างจริงจังจนหยิบปากกาลูกลื่นมา "จุด" Swoosh บนรองเท้าพื้นตะปูของนักกีฬาเพื่อลดน้ำหนักแทนที่จะเย็บโลโก้ติดเข้าไป
ดีไซเนอร์ Nike ได้แรงบันดาลใจจากสมุดสเก็ตช์ของเขา และสำหรับ Nike Blueprint Pack ก็สร้างลวดลายอักษรมาจากการจดโน้ตจริงๆ ของเขา การย้อนกลับไปยกย่องผู้ที่สร้าง "พิมพ์เขียวสำหรับการให้บริการนักกีฬา" ขึ้นมาก็ดูจะเหมาะเจาะกับยามที่ยอดฝีมือระดับโลกมุ่งหน้าไปสู่ปารีสในหน้าร้อนนี้ ดีไซน์สะอาดตานี้ใช้กับคอลเลกชันรองเท้า 13 คู่ อันรวมไปถึงรองเท้าพื้นตะปู รองเท้าบาสเก็ตบอล รองเท้าฟุตบอล และรองเท้าตามไลฟ์สไตล์ นอกเหนือจาก Nike Blueprint Pack แล้ว บริษัทจะเปิดตัวแพ็คคู่สีกระตุ้นพลังอีกแพ็คก่อนการแข่งขันรายการใหญ่อีกด้วย
คุณจะได้เห็นการใช้ Air แบบไร้ขีดจำกัดใน Nike Blueprint Pack การที่สามารถทำให้ Air ที่นำมาใช้แสดงประสิทธิภาพออกมาได้นั้นเกิดจากการเข้าถึงนักกีฬาชั้นนำระดับโลกและนักกีฬาทั่วไปส่วนใหญ่ในแบบที่แตกต่างของ Nike ผ่านการทดสอบใน Nike Sport Research Lab ชุดข้อมูลที่ไม่มีใครเทียบได้นี้จะผสานรวมกับความรู้เชิงขั้นตอนของ Nike เพื่อสร้างสินค้าที่ไม่เหมือนใครในตลาด เพื่อที่จะสร้างสินค้าเหล่านั้น Nike ใช้เครื่องมือทุกชิ้นที่มีในกล่องเครื่องมือ (แม้อาจจะไม่ได้ถูกวัตถุประสงค์เสมอไป) ด้วยวิธีที่ขี้เล่นและแหวกขนบที่แฝงอยู่ใน DNA (ดูเครื่องทำวาฟเฟิลพังๆ เครื่องหนึ่ง ราวปี 1971)
ที่ปารีสนี้ Nike จะเฉลิมฉลองสิ่งที่ Air และวิทยาศาสตร์การกีฬา ดีไซน์ การผลิต และจินตนาการเบื้องหลังสามารถผลิตออกมาได้ รวมถึงความหมายต่ออนาคตของวงการกีฬา "หัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำก็คือนักกีฬา เรามีอยู่เพื่อทลายอุปสรรคและกล้าที่จะเสี่ยงเพื่อพวกเขาเหล่านั้น" Martin Lotti, Nike Chief Design Officer กล่าว "ซัมเมอร์นี้ สิ่งที่สร้างความแตกต่าง ก็คือพลังการส่งแรงกลับเต็มขั้นของ Nike Air สำหรับสินค้าที่ขับเคลื่อนด้วย Air เหล่านี้ ผมไม่เพียงได้แรงบันดาลใจจากสิ่งที่เราสร้างขึ้นเพื่อให้บริการนักกีฬา แต่ยังจากความรู้สึกที่ว่าเราอยู่ในจุดเริ่มต้นของเส้นทางใหม่ที่น่าทึ่งนี้อีกด้วย"
น่าขันที่ในบันทึกชีวประวัติขายดีอย่าง "Shoe Dog" Phil Knight ผู้ร่วมก่อตั้ง Nike กล่าวว่าตอนที่เขาได้ฟังการเสนอขายรองเท้าที่มีระบบลดแรงกระแทก Air จาก Frank Rudy อดีตวิศวกร NASA เป็นครั้งแรก มันฟังดูราวกับ "เครื่องยนต์ไอพ่นสะพายหลังกับทางเท้าที่ขยับได้" Air เป็นไอเดียที่เหมือนหลุดมาจากอนาคตในตอนนั้น และ Nike Blueprint Pack ระดับแนวหน้าที่ขับเคลื่อนด้วย Air นี้จะทำให้นักกีฬาสามารถเขียนอนาคตของวงการกีฬาได้ ณ ตอนนี้
Nike Blueprint Pack จะวางจำหน่ายที่ nike.com และร้านค้าปลีกที่ร่วมรายการในวันที่ 3 กรกฎาคม
ดูข้อมูลความเป็นไปได้ของ Nike Air ใน Nike Blueprint Pack ด้านล่าง