LeBron James Innovation Center

เป้าหมายคืออะไร

NSRL ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับสภาพแวดล้อมการเทรนนิ่งแทบจะทุกรูปแบบบนโลก เพื่อให้นักวิจัยของ Nike ได้ศึกษาสมรรถนะด้านการกีฬา โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น คอร์ทบาสเก็ตบอลที่ทันสมัย ลู่วิ่งฝึกความอดทนระยะ 200 เมตร ลู่วิ่งทางตรงระยะ 100 เมตร และสนามเทรนนิ่งหญ้าเทียมสั้น NSRL มีระบบโมชั่นแคปเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกติดตั้งไว้เพื่อจับภาพของเหล่านักกีฬาผู้กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเต็มสปีด แผ่นวัดแรงเกือบ 100 แผ่นช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวนักกีฬากับสังเวียนของกีฬาชนิดนั้นๆ ขณะที่ห้องควบคุมสภาพอากาศสุดล้ำ 4 ห้องช่วยจำลองอุณหภูมิแวดล้อมที่นักกีฬาต้องเผชิญ ตั้งแต่ -20 องศาเซลเซียสไปจนถึง 50 องศาเซลเซียส

"ที่นี่คือจุดศูนย์กลางที่เราใช้ทำงานร่วมกับนักกีฬาทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถ ภูมิหลัง ทักษะ หรือชนิดของกีฬาที่เล่น" Matthew Nurse, PhD, VP, Chief Science Officer ของ Nike กล่าว

เป้าหมายของ NSRL มีหลายอย่างด้วยกัน Nike สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อทำความเข้าใจความต้องการที่ไม่ซ้ำกันของนักกีฬา พิจารณาบริบทแวดล้อมของความท้าทายต่างๆ และผลักดันให้นักกีฬาปลดล็อคศักยภาพใหม่ๆ ได้ไม่ว่าจะเล่นกีฬาชนิดใด

ช่วยให้เราทำอะไรได้บ้าง

ขณะที่นักกีฬาใน NSRL ต้องเสียเหงื่อเพื่อให้เก็บข้อมูลได้ คนอื่นๆ ที่อยู่ใน LeBron James Innovation Center ก็ต้องออกแรงเพื่อกำหนดทิศทางอนาคตแห่งวงการกีฬาด้วยการทดสอบ สร้างสินค้าต้นแบบ และคิดค้นนวัตกรรม กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจาก Nike ที่ทำงานอยู่ในอาคารแห่งนี้ต่างมีความสามารถที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นนักวิจัยด้านชีวกลศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาการหุ่นยนต์ นักออกแบบเชิงคอมพิวเตอร์ ตลอดไปจนถึงผู้ที่ชำนาญเรื่องสิทธิบัตร ทุกคนต่างร่วมแรงกันเพื่อบุกเบิกมิติใหม่ในเรื่องสมรรถนะด้านการกีฬา โดยรวมทีมกันข้ามศาสตร์แขนงต่างๆ เพื่อก่อให้เกิดเป็นองค์ความรู้ที่เฉิดฉายได้มากกว่าการให้คนเก่งๆ แยกกันทำงาน

"ถ้าเป็นเรื่องนวัตกรรม เราจะนำข้อมูลจาก NSRL ไปใช้เพื่อพิจารณาแนวทางที่มีความแตกต่างหลากหลายในการแก้ปัญหาของนักกีฬา ซึ่งมีแง่มุมที่น่าสนใจเยอะมากค่ะ" Janett Nichol, VP ของ Apparel and Advanced Digital Creation Studio กล่าว "ถ้าพูดถึงแนวทางการรังสรรค์สินค้าแบบปกติทั่วไป เราก็ตรงไปดูเรื่องวัสดุกันเลย จากนั้นเลือกลวดลายที่จะใช้ แล้วก็ตัดเย็บ แค่นั้นก็เป็นอันเสร็จ แต่สำหรับที่นี่ เราจะเริ่มจากอะไรก็ได้ ตั้งแต่ศาสตร์อย่างชีววิทยา เคมี หรือจะทลายขีดจำกัดของเครื่องจักรเพื่อสร้างวัสดุที่ให้ความรู้สึกแบบใหม่เวลาใช้งานก็ได้"

ความสร้างสรรค์ที่ถูกบ่มเพาะอยู่ใน LeBron James Innovation Center แทรกซึมเข้าไปอยู่แทบจะในทุกอณูของ Nike ทุกคุณสมบัติของการดีไซน์ได้ผ่านการคิดมาอย่างถี่ถ้วน อาคารแห่งนี้ใส่ใจเรื่องของความยั่งยืนเป็นสำคัญ จึงมีแผงโซลาร์เซลล์ติดตั้งไว้บนหลังคาถึง 908 ชิ้น ไฟฟ้าที่ใช้ก็เป็นพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด 100% นอกจากนี้ NSRL ยังใช้ Nike Grind กว่า 21,000 ปอนด์ในการปูพื้น ขณะที่รายละเอียดอื่นๆ สื่อเป็นนัยถึงประวัติศาสตร์ของ Nike ทางเข้าของ LeBron James Innovation Center เลียนแบบรูปทรงของกล่องรองเท้า รถ Winnebago จำลองที่ตั้งอยู่ข้างในอาคารเป็นพื้นที่สำหรับใช้ประชุมและสื่อถึงการขายรองเท้าในยุคแรกเริ่มของ Nike

อาคารพื้นที่กว่า 750,000 ตารางฟุตแห่งนี้เป็นแสงแห่งความหวังเพื่อการเสริมสมรรถนะด้านการกีฬา เหมือนนักกีฬาที่เรายืมชื่อมาใช้ตั้งชื่ออาคาร เพราะภารกิจของเหล่านักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักออกแบบ วิศวกร นักสร้างสรรค์ และช่างฝีมือที่ทำงานอยู่ในอาคารแห่งนี้ก็คือการช่วยให้นักกีฬาแสดงฝีมือได้ดีขึ้น พร้อมทั้งเปลี่ยนโลกใบนี้ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นสำหรับนักกีฬา