เจาะลึกทีม Nike Mind ที่ถ่ายทอดศาสตร์แห่งสมองมาสู่รองเท้า


- 23/10/2568
- Words:
- Photos:
นักประสาทวิทยา วิศวกรคำนวณ และนักออกแบบอุตสาหกรรมกำลังนั่งล้อมโต๊ะพิจารณาผลการวัดคลื่นสมอง (EEG) และข้อมูลแรงกดล่าสุดอย่างตั้งใจ ไม่ไกลกันนั้น แผ่นตรวจแรงกดตอบสนองกับจังหวะก้าวเดินสม่ำเสมอ ขณะที่เซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวเริ่มทำงาน เตรียมเข้าสู่รอบการทดสอบใหม่
นี่ไม่ใช่ฉากจากห้องทดลองของ NASA หรือหนังไซไฟจากฮอลลีวูด แต่เป็นอีกหนึ่งวันปกติที่ LeBron James Innovation Center และ Nike Sport Research Lab (NSRL) ที่อยู่ชั้นบนสุด ซึ่งเป็นศูนย์รวมของนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และนักออกแบบที่ทำงานร่วมกันเพื่อศึกษาทุกองค์ประกอบของศักยภาพมนุษย์
หลายคนรู้ว่ามีศูนย์นี้อยู่ แต่มีเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจว่าการวิจัยที่นี่ไม่เพียงครอบคลุมด้านร่างกาย แต่ยังลงลึกไปถึงจิตใจด้วย ภายใต้การนำของนักประสาทวิทยาชั้นแนวหน้า ทีม Mind Science ของ Nike มุ่งสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างสมองและร่างกาย เพื่อกำหนดทิศทางใหม่ของประสิทธิภาพนักกีฬาในอนาคต
นวัตกรรมล่าสุดของพวกเขา Nike Mind คือแพลตฟอร์มรองเท้าที่ช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสซึ่งพัฒนาจากงานวิจัยยาวนานกว่าสิบปี เพื่อพลิกแนวคิดการเตรียมร่างกายและการฟื้นตัวของนักกีฬาอย่างสิ้นเชิง
เราได้พูดคุยกับสมาชิกทีม Nike Mind เจ็ดคน เพื่อค้นหาว่าเทคโนโลยีนี้เปลี่ยนจากแนวคิดสู่ของจริงได้อย่างไร

"เรามีนักประสาทวิทยา นักวิจัยด้านการรับรู้ นักสรีรวิทยา และวิศวกรทำงานร่วมกัน เราสามารถสร้างต้นแบบ ทดสอบกับนักกีฬา และพัฒนาได้เร็วกว่าทุกคน นี่คือศักยภาพที่ทำให้ Nike แตกต่าง"
Graeme Moffat, PhD, นักวิจัยหลัก, NSRL

สถาปนิกด้านระบบประสาท: Graeme Moffat, PhD
นักวิจัยหลัก, Nike Sport Research Lab
ในฐานะหัวหน้านักวิจัยของทีม Mind Science นั้น Graeme Moffat คือผู้นำด้านประสาทวิทยาที่อยู่เบื้องหลัง Nike Mind เขาวิเคราะห์ข้อมูล EEG แผนแรงกด และสัญญาณกล้ามเนื้อ เพื่อทำความเข้าใจว่าความรู้สึกส่งผลต่อสมาธิและการเคลื่อนไหวอย่างไร ด้วยพื้นฐานด้านการวิจัยส่วนต่อประสานระหว่างสมองกับคอมพิวเตอร์ เขากำลังแปลงศาสตร์แห่งการรับรู้ให้กลายเป็นหลักการออกแบบที่ "รู้สึกได้" เมื่อสวมใส่ สำหรับ Moffat โครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่รองเท้าใหม่ แต่คือการพิสูจน์ว่าจิตใจและร่างกายสามารถฝึกฝนร่วมกันผ่านการรับรู้ทางประสาทสัมผัสได้
หนึ่งในวิธีง่ายที่สุดที่จะหลุดจากความคิดคือการกลับมาอยู่กับร่างกาย ใช้ประสาทสัมผัสให้เต็มที่ Nike Mind ทำให้เราพบว่ากิจกรรมในเครือข่ายสมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหวและการรับรู้สัมผัสเพิ่มขึ้น พร้อมการเกิดคลื่นอัลฟาที่เชื่อมโยงกับสภาวะตื่นตัวแต่ผ่อนคลาย
เช่นเดียวกับมือของเรา ผิวหนังบริเวณฝ่าเท้ามีตัวรับความรู้สึกเชิงกลมากกว่าพื้นที่ส่วนใหญ่อื่นถึง 10 ถึง 20 เท่า นี่คือส่วนของร่างกายที่เราใช้เพื่อรับรู้และนำทางในโลก เพื่อเสริมการทำงานนี้ โหนดแต่ละจุดใน Nike Mind จึงเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ ขยับเล็กน้อยเพื่อถ่ายโอนแรงผ่านฝ่าเท้า ผลลัพธ์ที่ได้คือการเชื่อมต่อกับพื้นดินที่ตรงและชัดเจนยิ่งขึ้น
เราใช้ศาสตร์แห่งการรับรู้ทางประสาทสัมผัสเพื่อกำหนดตำแหน่งของโหนดทั้ง 22 จุด โดยเราวัดสิ่งที่เรียกว่าเกณฑ์การรับรู้จุดสัมผัสคู่ (Two-point Discrimination Tthreshold) ซึ่งก็คือ การหาว่าจุดสัมผัสสองจุดต้องอยู่ห่างกันเท่าใดคุณจึงจะรู้สึกว่ามันคือการสัมผัสที่แยกจากกัน วิธีนี้ทำให้เราสามารถสร้างแผนที่ความหนาแน่นของตัวรับความรู้สึกทั่วทั้งฝ่าเท้าได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมโหนดที่บริเวณปลายเท้าจึงถูกจัดวางให้ชิดกันมากกว่าบริเวณส้นเท้า
เราใช้ทุกเครื่องมือที่มี ทั้งเซนเซอร์วัดแรงกดใต้ฝ่าเท้า การวัดคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อบริเวณขาด้านล่าง และ EEG ของมนุษย์ นักกีฬาเดินด้วยรองเท้าและรุ่นเปรียบเทียบ ในขณะที่เราวัดคลื่นสมองของพวกเขา ก่อน ระหว่าง และหลังการเคลื่อนไหว สิ่งที่เราเห็นคือความแตกต่างอย่างชัดเจนในรูปแบบการกระตุ้นและการสั่นของคลื่นสมอง ซึ่งเป็นสัญญาณที่สะท้อนว่าระบบประสาทสัมผัสในรองเท้าคู่นี้กำลังกระตุ้นสมองอย่างไร นี่คือวิธีการผลิตรองเท้าแบบใหม่ทั้งหมดที่ออกแบบโดยยึดระบบประสาทสัมผัสเป็นหลัก ซึ่งต้องใช้เวลาเกือบ 10 ปีในการวิจัยและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ใช้งานได้จริง
นี่เป็นเทคโนโลยีที่น่าทึ่งมาก รู้สึกเหมือนมีแผ่นรองกันความเมื่อยล้าในขณะเดินติดอยู่ในรองเท้าของผม เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก จนผมไม่อยากถอดมันออกเลยเมื่อหมดวัน"
ทีม Mind Science มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เรามีนักประสาทวิทยา นักวิจัยด้านการรับรู้ สรีรวิทยานักกีฬา และวิศวกรทำงานร่วมกัน เป็นการรวมกันของสาขาวิชาที่ไม่ปกติจะพบในบริษัทอย่าง Nike ซึ่งช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนจากข้อมูลเชิงลึกทางวิทยาศาสตร์ที่ลึกซึ้งไปสู่นวัตกรรมผลิตภัณฑ์จริงได้อย่างรวดเร็ว เราสามารถสร้างต้นแบบ ทดสอบกับนักกีฬา และพัฒนาได้เร็วกว่าทุกคน นี่คือศักยภาพที่ทำให้ Nike แตกต่าง

"ในช่วง 45 ปีแรก การวิจัยของ Nike มุ่งเน้นไปที่ร่างกายตั้งแต่คอลงไป แต่ใน 45 ปีถัดไป เราจะรวมสมองเข้ามาด้วย"
Trevor Barss, PhD, หัวหน้านักวิจัย, แผนก Mind Science

ผู้วางแผนที่สมอง: TREVOR BARSS, PHD
หัวหน้านักวิจัย, ทีม Mind Science
Trevor Barss ทำงานควบคู่กับ Moffat โดยช่วยดำเนินการศึกษาทางประสาทวิทยาในช่วงแรกเริ่มที่เป็นรากฐานของ Nike Mind ในฐานะนักประสาทวิทยาด้านประสาทสัมผัสที่เชี่ยวชาญด้านสรีรวิทยาประสาท เขาใช้ EEG และการวัดอื่นๆ เพื่อศึกษาว่าการตอบสนองทางสัมผัสเปลี่ยนแปลงรูปแบบกิจกรรมของสมองอย่างไร ซึ่งเป็นสัญญาณที่เชื่อมโยงการเคลื่อนไหว สมาธิ และการรับรู้ ผลการวิจัยของทีมเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในการกระตุ้นของเครือข่ายประสาทสั่งการรับรู้และจังหวะคลื่นอัลฟา เมื่อนักกีฬาสวมใส่รองเท้า Nike Mind ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ยังคงเป็นรากฐานที่กำหนดวิธีที่ NSRL ใช้สำรวจการเชื่อมต่อระหว่างจิตใจและร่างกาย
ในช่วง 45 ปีแรก การวิจัยของ Nike มุ่งเน้นไปที่ร่างกายตั้งแต่คอลงไป แต่ใน 45 ปีถัดไป เราจะรวมสมองเข้ามาด้วย
บทบาทของผมคือการศึกษารูปแบบเฉพาะของการกระตุ้นสมองขณะที่นักกีฬาสวมใส่รองเท้า เราวัดกิจกรรมไฟฟ้าในสมองก่อน ระหว่าง และหลังการเคลื่อนไหว และนำข้อมูลนั้นมาจับคู่กับการรับรู้ เป้าหมายคือการเชื่อมโยงสิ่งที่นักกีฬารายงานว่ารู้สึก กับสิ่งที่เกิดขึ้นทางระบบประสาทที่เราสามารถสังเกตเห็นได้จริง
เราพบว่าการทำงานร่วมกันระหว่างการรับรู้กับประสาทวิทยาศาสตร์นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้งานวิจัยนี้ทรงพลัง คุณอาจตรวจพบกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นในบริเวณหนึ่งของสมอง แต่หากไม่เข้าใจประสบการณ์ของนักกีฬา คุณก็จะไม่รู้ว่านั่นเป็นผลดีหรือผลเสีย เมื่อนำทั้งสองอย่างมารวมกัน คุณก็จะได้รับความหมายที่สมบูรณ์
ตอนที่ผมมาถึง Nike ครั้งแรก ผมรู้สึกทึ่งกับสภาพแวดล้อม ในศูนย์วิจัยส่วนใหญ่ หากคุณต้องการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญนอกสาขา คุณต้องส่งอีเมล กำหนดตารางนัด และรอ แต่ที่นี่ ผมสามารถเดินไปอีกสามโต๊ะและสนทนากับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านชีวกลศาสตร์ สรีรวิทยา หรือวัสดุศาสตร์ได้ทันที ความใกล้ชิดเช่นนี้ช่วยเร่งทุกอย่างให้เร็วขึ้น
จุดแข็งของห้องปฏิบัติการแห่งนี้คือการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญอย่างไร้รอยต่อ นักประสาทวิทยา วิศวกร นักออกแบบ และนักพัฒนาระบบ ทำงานเคียงข้างกัน ทดสอบ ปรับปรุงซ้ำๆ และเรียนรู้ซึ่งกันและกันแบบเรียลไทม์ การทำงานแบบนี้ช่วยขจัดอุปสรรค และจุดประกายความคิดที่พวกเราคนใดคนหนึ่งไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยตัวเอง
เรากำลังยืนอยู่ที่จุดเริ่มต้นของสาขาใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน วิธีการต่างๆ ถูกกำหนดไว้แล้ว แต่การนำมาประยุกต์ใช้กับรองเท้าและเครื่องแต่งกายยังเป็นดินแดนที่ยังไม่มีใครสำรวจ การทดลองแต่ละครั้งนำมาซึ่งคำถามใหม่ๆ
สำหรับผม ส่วนที่สร้างแรงบันดาลใจที่สุดคือการได้อยู่ท่ามกลางคนเก่งๆ ที่มีความอยากรู้อยากเห็นร่วมกัน เมื่อคุณนำความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ที่ลึกซึ้งมาจับคู่กับความคิดเชิงออกแบบที่สร้างสรรค์ คุณจะเปิดประตูสู่การค้นพบที่จะนิยามความหมายของสมรรถภาพใหม่ได้
เมื่อมองไปข้างหน้า ความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด เรามีตัวรับความรู้สึกอยู่ทั่วร่างกาย เมื่อใดก็ตามที่คุณเปลี่ยนข้อมูลการรับรู้ทางประสาทสัมผัส คุณกำลังโต้ตอบกับระบบประสาท การเจาะลึกความเชื่อมโยงนี้สามารถเปิดช่องทางใหม่ๆ ในการสนับสนุนการรับรู้ สมาธิ และการฟื้นตัวของนักกีฬาได้ทั้งหมด
"สำหรับฉัน นี่คืองานในฝันที่ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่จริง ฉันได้รวมงานด้านเทคนิคที่ยากเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ของการทำงานร่วมกับนักออกแบบ นักวิจัยกีฬา และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ"
Elizabeth Raissian, วิศวกรคอมพิวเตอร์อาวุโส

วิศวกรคนเก่ง: ELIZABETH RAISSIAN
ผู้อำนวยการอาวุโส, แผนกวิศวกรรมสมรรถภาพ
ภายใน Performance Engineering Lab ของ Nike งานของ Elizabeth Raissian อยู่ตรงจุดที่ฟังก์ชันการทำงานของผลิตภัณฑ์มาบรรจบกับโค้ด สำหรับ Nike Mind เธอและทีมสร้างกรอบงานดิจิทัลที่ทำให้แนวคิดนี้สามารถผลิตในปริมาณมากได้ โดยใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบจำกัด (FEA) และเครื่องมือจำลองเพื่อสร้างแบบจำลองว่าโหนดแต่ละจุด จุดที่งอ และโซนแรงกด ตอบสนองใต้ฝ่าเท้าอย่างไร การสร้างแบบจำลองของพวกเขาทำให้มั่นใจว่าการออกแบบการรับรู้ทางประสาทสัมผัสได้รับการปรับจูนอย่างแม่นยำ เพื่อให้ความรู้สึกและการตอบสนองที่สม่ำเสมอในทุกขนาดและทุกย่างก้าว
กุญแจสำคัญที่ปลดล็อกคือการใช้วิธีการคำนวณเพื่อแก้ไขความท้าทายด้านขนาดการผลิต Nike Mind มีฟันเฟืองเล็กๆ จำนวนมากอยู่ภายในระบบที่ใหญ่กว่า เราเขียนสคริปต์ที่กำหนดตำแหน่งของโหนดแต่ละจุดที่จำเป็นต่อสมรรถภาพของนักกีฬา และต้องมั่นใจว่าการจัดวางตำแหน่งเหล่านั้นสามารถผลิตซ้ำได้อย่างสม่ำเสมอด้วย
เป้าหมายของเราคือการทำให้นักกีฬาทุกคนได้รับประสบการณ์เดียวกันไม่ว่ารองเท้าจะมีขนาดใด เราใช้ FEA เพื่อทดสอบตัวแปรต่างๆ เช่น ขนาด ความสูง และวัสดุของโหนด นั่นช่วยให้เราค้นพบจุดที่เหมาะสมที่สุดระหว่างการรับรู้ที่มากเกินไปและน้อยเกินไป เมื่อได้จุดนั้นแล้ว เราก็สามารถปรับขนาดตามสัดส่วนให้เข้ากับรองเท้าทุกขนาด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ให้ความรู้สึกสม่ำเสมอตั้งแต่ต้นจนจบ
สำหรับฉัน นี่คืองานในฝันที่ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่จริง ฉันได้รวมงานด้านเทคนิคที่ยากเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ของการทำงานร่วมกับนักออกแบบ นักวิจัยกีฬา และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ผ่านมา 23 ปี ฉันก็ยังไม่เคยเบื่อเลย
สิ่งที่ทำให้ฉันตื่นเต้นที่สุดคือความเร็วในการพัฒนาของเครื่องมือต่างๆ เราได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง และตอนนี้เทคโนโลยีใหม่ๆ กำลังเข้ามา ซึ่งช่วยให้เราทำสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้เมื่อสิบปีก่อน สิ่งนี้เปลี่ยนวิธีการที่เราเข้าถึงผลิตภัณฑ์และเปิดประตูสู่อนาคต

"มีหลายครั้งที่เราคิดว่า นี่มันยากเกินไป เราอาจทำไม่ได้ แต่เราถามตัวเองอยู่เสมอว่า เราทำเต็มที่ที่สุดแล้วจริงๆ หรือยังมีวิธีอื่นอีกไหม"
Sean Lu, นักพัฒนารองเท้า

ผู้เชื่อมโลกวิทยาศาสตร์กับการผลิต: SEAN LU
นักพัฒนารองเท้า
Sean Lu ได้ช่วยนำแนวคิดที่กล้าหาญที่สุดของ Nike จากต้นแบบไปสู่การผลิตจริงมากว่าสองทศวรรษ ในฐานะนักพัฒนา เขาทำงานอยู่ตรงจุดเชื่อมโยงที่สำคัญที่นวัตกรรมมาบรรจบกับการขยายขนาดการผลิตรองเท้าสำหรับธุรกิจของ Nike ในโครงการ Nike Mind นั่นหมายถึงการแก้ปัญหาการผลิตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่น วิธีสร้างและติดโหนดลดแรงกระแทกอิสระ 22 จุด โดยยังคงรักษาการออกแบบการรับรู้ที่แม่นยำซึ่งทำให้เทคโนโลยีนี้เป็นนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ
ความเชี่ยวชาญของผมคือการทำให้การออกแบบเป็นจริง โดยการบริหารโครงการและภาวะผู้นำ ขณะเดียวกันก็ทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมงานหลายฝ่าย เป้าหมายคือความเป็นเลิศของทีมและความเป็นเลิศของผลิตภัณฑ์เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์เป็นไปตามข้อกำหนด ตรงตามเจตนาของการออกแบบ และผ่านการทดสอบพิสูจน์แล้ว
ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดคือการผลิตและติดโหนดแต่ละจุด 22 โหนดอย่างสม่ำเสมอ รองเท้าทั่วไปอาจมีชิ้นส่วนหลักห้าหรือหกชิ้น แต่ที่นี่เรามีถึง 22 ชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นต้องถูกสร้างและติดอย่างแม่นยำ การแก้ปัญหานั้นต้องอาศัยวิธีการผลิตใหม่ๆ ที่แตกต่างจากการทำรองเท้าแบบเดิมมาก
ความก้าวหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งคือแผ่นรองพื้น (Strobel) ที่ยืดหยุ่นได้ ในรองเท้าปกติมันจะแข็ง แต่ที่นี่มันต้องยืดได้หลายทิศทางเพื่อให้โหนดสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระและถ่ายโอนการรับรู้ได้ ถ้าไม่มีสิ่งนี้ ระบบทั้งหมดก็จะไม่เกิดผล
มีหลายครั้งที่เราคิดว่า นี่มันยากเกินไป เราอาจทำไม่ได้ แต่เราถามตัวเองอยู่เสมอว่า เราทำเต็มที่ที่สุดแล้วจริงๆ หรือยังมีวิธีอื่นอีกไหม เมื่อคุณทำสำเร็จได้ คุณค่าที่นักกีฬาจะได้รับนั้นคุ้มค่ากับความพยายามทั้งหมด

"สิ่งที่ผมรักที่สุดเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่นี้คือมันเป็นตัวแทนของสิ่งที่เรายังไม่รู้ เป็นเครื่องเตือนใจว่าสมรรถภาพไม่ได้เป็นเพียงการไปให้เร็วกว่าเท่านั้น แต่คือการรู้สึกมากขึ้น คิดได้ลึกซึ้งขึ้น และเชื่อมโยงกับช่วงเวลานั้นๆ อีกครั้ง"
Eric Avar, รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์นวัตกรรม

ผู้มีวิสัยทัศน์เชิงสร้างสรรค์: ERIC AVAR
รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์นวัตกรรม
มีนักออกแบบเพียงไม่กี่คนที่จะกำหนดภาษาภาพลักษณ์และสมรรถภาพของ Nike ได้มากเท่า Eric Avar Avar เข้าร่วมโครงการ Nike Mind เพื่อช่วยแปลงประสาทวิทยาที่ซับซ้อนมาสู่การออกแบบ หลังจากใช้เวลาหลายสิบปีในการสร้างสรรค์รองเท้ารุ่นที่โด่งดังที่สุดของแบรนด์ตั้งแต่ Foamposite ถึง Free ไปจนถึงกลุ่ม Kobe สิ่งที่เขามุ่งเน้นคือการค้นหาความเรียบง่าย รักษาความอยากรู้อยากเห็น และสร้างรองเท้าที่ปลุกการเชื่อมต่อตามธรรมชาติของการเคลื่อนไหวในร่างกายขึ้นมาอีกครั้ง
สิ่งที่ทำให้โครงการนี้ก้าวไปอีกขั้นคือโอกาสที่จะลืมทุกสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับรองเท้าแบบดั้งเดิม แทนที่จะไล่ตามแรงขับเคลื่อนหรือแรงส่ง เราถามตัวเองว่าจะสร้างประสบการณ์การรับรู้ใต้ฝ่าเท้าที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นได้อย่างไร ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่สามารถเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างจิตใจและร่างกาย เพื่อช่วยให้นักกีฬารู้สึกสงบ มีสมาธิ และอยู่กับปัจจุบัน
บทบาทของผมคือการช่วยนำทางวิสัยทัศน์เชิงสร้างสรรค์ เพื่อเชื่อมโยงรายละเอียดขนาดใหญ่และเล็กของวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และเรื่องราว ความคิดที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อมิติเหล่านั้นสอดคล้องกัน งานของผมคือการช่วยให้ทีมมองเห็นเป้าหมายที่แท้จริง และนำความชัดเจนว่าวิทยาศาสตร์ควรให้ความรู้สึกอย่างไรเมื่ออยู่ใต้ฝ่าเท้า
ทุกมิติของโครงการนี้เป็นของใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ใหม่ วิศวกรรมใหม่ หรือภาษาการออกแบบใหม่ ข้อมูลเชิงลึกแต่ละอย่างจากห้องปฏิบัติการได้ปรับเปลี่ยนวิธีการที่เราเข้าถึงวัสดุหรือรูปทรง และต้นแบบทุกชิ้นก็ส่งคำถามใหม่กลับไปให้นักวิทยาศาสตร์ การทำงานแบบไปกลับอย่างต่อเนื่องนี้เองที่ทำให้เกิดความก้าวหน้า
การออกแบบสมรรถภาพต้องมีความสมดุลเสมอ การรองรับแรงกระแทกมากเกินไปจะทำให้คุณสูญเสียการรับรู้ การรับรู้มากเกินไปก็จะกลายเป็นภาระ ความท้าทายของเราคือการหาความกลมกลืนระหว่างความสบาย ความชัดเจน และการรับรู้
สิ่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นพรมแดนใหม่ เป็นกระบวนทัศน์ใหม่ของสมรรถภาพ เรากำลังพิสูจน์ผ่านวิทยาศาสตร์ แต่เราก็กำลังค้นพบผ่านสัญชาตญาณด้วย ยิ่งเราผสมผสานความอยากรู้อยากเห็นและความเชี่ยวชาญเข้าด้วยกันมากเท่าไหร่ เราก็จะค้นพบความมหัศจรรย์ได้มากขึ้นเท่านั้น
สิ่งที่ผมรักที่สุดเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่นี้คือมันเป็นตัวแทนของสิ่งที่เรายังไม่รู้ เป็นเครื่องเตือนใจว่าสมรรถภาพไม่ได้เป็นเพียงการไปให้เร็วกว่าเท่านั้น แต่คือการรู้สึกมากขึ้น คิดได้ลึกซึ้งขึ้น และเชื่อมโยงกับช่วงเวลานั้นๆ อีกครั้ง

"ถ้าหากร่างกายคือเครื่องยนต์ จิตใจก็คือคนขับ เราเริ่มคิดถึงวิธีที่จะทำให้คนขับมีความเฉียบคมและชัดเจนยิ่งขึ้นได้ด้วย Nike Mind"
Matthew Nurse, PhD, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์, NIKE, Inc.

ผู้อำนวยวงออเคสตราแห่งนวัตกรรม: MATTHEW NURSE, PHD
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์, NIKE, Inc.
Matthew Nurse มีพื้นฐานความรู้กว้างขวางในด้านชีวกลศาสตร์ สรีรวิทยา และการวิจัยสมรรถภาพ ทำให้เขาสามารถเป็นผู้นำนวัตกรรมที่เน้นวิทยาศาสตร์อันทะเยอทะยานที่สุดของ Nike ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์ เขาดูแลโครงการ Nike Mind จากมุมมองสหสาขาวิชา ประสานงานนักวิทยาศาสตร์ นักออกแบบ และวิศวกรเพื่อให้ส่วนต่างๆ เคลื่อนไหวไปพร้อมกัน
คนส่วนใหญ่มองข้ามความสำคัญของการตอบสนองทางประสาทสัมผัสจากร่างกายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเท้า เท้าเต็มไปด้วยเซนเซอร์นับพันที่ให้ข้อมูลคงที่แก่สมองเกี่ยวกับการทรงตัว ตำแหน่ง และการรับรู้เชิงพื้นที่ นี่เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่สร้างขึ้นด้วยเจตนาที่จะมีอิทธิพลต่อการตอบสนองนั้น เพื่อช่วยให้นักกีฬามีสมาธิ อยู่กับปัจจุบัน และรับรู้สภาพแวดล้อมได้มากขึ้น
ถ้าหากร่างกายคือเครื่องยนต์ จิตใจก็คือคนขับ เราเริ่มคิดถึงวิธีที่จะทำให้คนขับมีความเฉียบคมและชัดเจนยิ่งขึ้นได้ด้วย Nike Mind การเตรียมจิตใจมีความสำคัญพอๆ กับการเตรียมร่างกาย และเราเพิ่งจะเริ่มสำรวจความเป็นไปได้เท่านั้น
วิทยาศาสตร์และความคิดสร้างสรรค์ต้องพัฒนาก้าวล้ำไปคู่กัน วิทยาศาสตร์ไม่ควรจำกัดความฝัน แต่สามารถช่วยกำหนดเป้าหมายได้ แนวคิดบางอย่างไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เพิ่งจะมาถึงวันนี้ที่เรามีความสามารถในการออกแบบและผลิตที่จะทำให้แนวคิดเหล่านั้นเป็นจริงได้ การสร้างโหนดอิสระที่ลอยตัวได้ซึ่งสามารถบีบอัดและหมุนเพื่อส่งข้อมูลประสาทสัมผัสไปยังสมองนั้น เป็นไปไม่ได้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่วันนี้เป็นไปได้แล้ว
การตอบรับจากนักกีฬาเป็นแรงขับเคลื่อนทุกสิ่ง เราผ่านการปรับปรุงซ้ำๆ หลายร้อยครั้ง ปรับจูนจำนวน ความหนาแน่น ความยืดหยุ่น และตำแหน่งของโหนด เพื่อให้แน่ใจว่าการรับรู้มีมากพอที่จะรู้สึกและมีสมาธิ แต่ไม่มากจนกลายเป็นสิ่งรบกวน มันต้องเป็น "จุดที่พอดี" และมีเพียงนักกีฬาเท่านั้นที่สามารถบอกเราได้ว่าสมดุลนั้นอยู่ที่ไหน
ความสวยงามของ Nike Mind คือ นอกจากการรู้สึกได้ถึงความมั่นคงแล้ว คุณมั่นคงจริงๆ เราได้วัดการเปลี่ยนแปลงของกิจกรรมสมองในบริเวณที่เชื่อมโยงกับสมาธิและการอยู่กับปัจจุบันด้วยการใช้เครื่องมืออย่าง EEG นั่นเป็นครั้งแรกที่เราสามารถแสดงให้เห็น และพิสูจน์ได้ว่าโครงสร้างของรองเท้าสามารถมีอิทธิพลต่อการทำงานของจิตใจได้อย่างไร
และนี่เป็นเพียงบทแรกเท่านั้น เรามุ่งเน้นที่ร่างกายมานานหลายทศวรรษ ตอนนี้ เมื่อเรามองดูจิตใจควบคู่กัน โอกาสสำหรับนักกีฬาจึงไม่มีขีดจำกัด

"เราเคยล้มเหลวในการแก้ปัญหารองเท้าเสริมการรับรู้มานาน 10 ปี แต่ทุกครั้งที่เราพยายาม เราก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง เรามีความอดทนและความมุ่งมั่นที่จะตั้งคำถามใหญ่ๆ ต่อไป และมีทรัพยากรที่จะไขปริศนาเหล่านั้นให้แตกจนได้"
Bryan Youngs, ผู้อำนวยการโครงการนวัตกรรม, รองเท้า

นักแก้ปัญหา: BRYAN YOUNGS
ผู้อำนวยการโครงการนวัตกรรม, รองเท้า
Bryan Youngs มีความเชี่ยวชาญด้านรองเท้ากว่า 20 ปี โดยมุ่งเน้นที่การเปลี่ยนนวัตกรรมให้กลายเป็นความเป็นจริงที่สามารถผลิตได้ สำหรับ Nike Mind เขาเป็นผู้นำในการขยายขนาดการผลิต แปลงต้นแบบการรับรู้ที่เคยเป็นงานแบบทำทีละชิ้น ให้กลายเป็นระบบที่สามารถผลิตจำนวนมากได้อย่างสม่ำเสมอและเชื่อถือได้ ด้วยการเชื่อมต่อนวัตกรรมขั้นสูงเข้ากับการผลิตระดับโลก เขาช่วยให้แนวคิดนี้สามารถย้ายจากการทดลองในห้องปฏิบัติการไปสู่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ได้
แนวคิดของรองเท้าเสริมการรับรู้มีมานานนับทศวรรษ แต่ความท้าทายคือขนาดการผลิต หลายปีที่ผ่านมามันเป็นเหมือนงานฝีมือ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถทำด้วยมือได้ แต่ไม่สามารถผลิตได้จำนวนมาก สำหรับ MIND เราต้องก้าวข้ามสิ่งนั้นไปเพื่อสร้างสิ่งที่สามารถสร้างร่วมกับพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตของเราได้ ในขณะที่ยังคงรักษาโครงสร้างที่ซับซ้อนใต้ฝ่าเท้าไว้
ด้วยความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตของเรา เราได้พัฒนาระบบที่ทำให้การสร้างง่ายขึ้น จากเดิมที่ต้องมีการติดชิ้นส่วนแต่ละชิ้นหลายสิบจุด เหลือเพียงไม่กี่ขั้นตอนหลัก การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้เราสามารถจำลองประสบการณ์การรับรู้ที่นักกีฬาชื่นชอบจากต้นแบบแรกๆ ในขณะเดียวกันก็สามารถผลิตในปริมาณมากได้
ความเต็มใจที่จะต่อสู้กับปัญหาที่ยากที่สุดคือสิ่งที่ทำให้ Nike ไม่เหมือนใคร เราเคยล้มเหลวในการแก้ปัญหารองเท้าที่เสริมการรับรู้มานาน 10 ปี แต่ทุกครั้งที่เราพยายาม เราก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง เราเต็มใจที่จะตั้งคำถามสำคัญๆ ต่อไป และมีความอดทนและความมุ่งมั่นที่จะไขปริศนาเหล่านั้นให้แตกจนได้ ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งสองรุ่นนี้เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น